งานด้านพยาธิวิทยากายวิภาค (Anatomical Pathology) ประกอบด้วยการตรวจต่างๆ คือ การตรวจทาง เซลล์วิทยา การตรวจทางจุลพยาธิวิทยา การตรวจทางศัลยพยาธิวิทยา และการตรวจศพ การตรวจทางเซลล์วิทยา เป็นการตรวจเซลล์จากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อการวินิจฉัย โรคมะเร็ง และโรคอื่น ๆ เซลล์เหล่านี้อาจหลุดออกมาเองโดยธรรมชาติ เช่น เซลล์ปากมด ลูกช่องคลอด ระบบทางเดินหายใจ หรือ ถูกทำให้หลุดโดย วิธีการล้าง ดูด เจาะ เช่น เซลล์จากก้อนในเต้านม ต่อมไทรอยด์ หรือเซลล์จากน้ำ ในช่องเยื่อหุ้มปอด ช่องท้อง เป็นต้นงานด้านพยาธิวิทยากายวิภาค จัดแบ่งหน่วยงานต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ห้องปฏิบัติการสารสนเทศทางพยาธิวิทยากายวิภาค
- ห้องปฏิบัติการชันสูตรศพ
- ห้องปฏิบัติการเซลล์วิทยา
- ห้องปฏิบัติการจุลทรรศน์อิเล็กตรอน
- ห้องปฏิบัติการจุลพยาธิวิทยา
- ห้องปฏิบัติการศัลยพยาธิวิทยา
- ห้องปฏิบัติการอิมมูโนพยาธิวิทยาและแล็ปพิเศษ
งานด้านพยาธิวิทยาคลินิค (Clinical Pathology) ประกอบไปด้วยหน่วยงาน และห้องปฏิบัติการต่างๆ เพื่อการตรวจวินิจฉัย สิ่งส่งตรวจ ของผู้ป่วยภายใน และภายนอกโรงพยาบาล เช่น เลือด ปัสสาวะ อุจจาระ และสารน้ำ ที่เจาะ มาจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ไขสันหลัง ไขข้อ ช่องปอด ช่องท้อง เป็นต้น งานด้านพยาธิวิทยาคลินิค แบ่งตามการปฏิบัติงานตามหน่วยต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ห้องปฏิบัติการสอบเทียบเครื่องมือ และเตรียมสารละลาย
- ศูนย์ชันสูตรผู้ป่วยนอก (OPD LAB)
- ห้องเจาะเลือดพิเศษ ชั้น 4
- ห้องปฏิบัติการโลหิตวิทยา (Hematology)
- ห้องปฏิบัติการวินิจฉัยโรคเลือด
- ห้องปฏิบัติการโฟลไซโทเมทรี ( Diagnostic Flow Cytometry Laboratory )
- ห้องปฏิบัติการเคมีคลินิก (Clinical Chemistry)
- ห้องปฏิบัติการคลังเลือด (Blood Bank)
- ห้องปฏิบัติการตรวจเนื้อเยื่อ (HLA)
- ห้องปฏิบัติการจุลทรรศนศาสตร์คลินิก (Clinical Microscopy)
- ห้องปฏิบัติการมนุษย์พันธุศาสตร์ (Human Genetics)
- ห้องปฏิบัติการภูมิคุ้มกันวิทยา (Immunology)
- ห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยา (Clinical Microbiology)
- ห้องปฏิบัติการพิษวิทยา (Clinical Toxicology)
- ห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยา (Virology)
- ห้องปฏิบัติการเภสัชพันธุศาสตร์
งานด้านนิติเวช ในกรณีที่ผู้ป่วยเสียชีวิตลง แพทย์ผู้รับผิดชอบอาจไม่สามารถยืนยันสาเหตุการตายได้แน่ชัด หรือ มีประเด็นคำถามบางประการ ที่ต้องการคำตอบที่ชัดเจน แพทย์จะขอให้มีการตรวจศพผู้ป่วย การตรวจศพ มีกระบวนการเช่นเดียวกับการตรวจทาง ศัลยพยาธิวิทยา แต่พยาธิแพทย์ จะทำการตรวจอย่างละเอียดทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งรวมถึงการตรวจอวัยวะภายในทั้งหมด เพื่อให้ได้ผลการตรวจศพที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจะช่วยให้แพทย์ผู้ตรวจรักษาผู้ป่วยรายนั้น ทราบสาเหตุการตายที่ชัดเจน และได้คำตอบสำหรับประเด็นคำถามต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ผลการตรวจศพผู้ป่วยหนึ่งคน อาจให้ความรู้ที่สามารถนำไปช่วยชีวิตผู้ป่วยได้อีกหลายคน