ตำแหน่งสถานที่ : อาคาร 1 ชั้น 2 ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
และอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ ชั้น 3
หมายเลขโทรศัพท์ : 02-201-1219, 02-201-1229
วันและเวลาทำการ : ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
การให้บริการนอกเวลาราชการ : การตรวจสอบ Blood grouping ABO Rh (เฉพาะD) Direct antiglobulin test Indirect antiglobulin test, Transfusion reaction
บุคลากรภายในหน่วย :
รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงพิมพรรณ กิจพ่อค้า หัวหน้าห้องปฏิบัติการคลังเลือด |
แพทย์หญิงพสุพร โพธิ์เงินนาค อาจารย์ |
แพทย์หญิงวาสวรรณ เขียนดวงจันทร์ อาจารย์ |
||
วิมล เธียรโพธิ์ภิรักษ์ นักเทคนิคการแพทย์ (ผู้ปฏิบัติการ) (รองหัวหน้าห้องปฏิบัติการคลังเลือด) |
|||
วนิดา ขำอินทร์ |
ศราวัลย์ จันทน์เทศ นักเทคนิคการแพทย์ |
||
ประกายมาส บุพอังกูร นักเทคนิคการแพทย์ |
ปณิธิตา สุขสมบูรณ์วงศ์ นักเทคนิคการแพทย์ |
||
สุกัลยาณี อ่อนสีแดง นักเทคนิคการแพทย์ |
วัฬวิสาข์ มูลสาร นักเทคนิคการแพทย์ |
||
เจตนิพิฐ จรุงกลิ่นจรัส นักเทคนิคการแพทย์ |
วุฒิไกร ศรีดาคุณ นักเทคนิคการแพทย์ |
||
ปรวรรณ พัฒนจักร นักเทคนิคการแพทย์ |
ธนวดี วงศ์สว่าง |
||
นุกูล แย้มกลัด นักเทคนิคการแพทย์ |
ชมพูนุท ต่อสุวรรณ นักเทคนิคการแพทย์ |
||
อาทิตย์ สังขฤกษ์ นักเทคนิคการแพทย์ |
ณัฐธิดา กันธวัง นักเทคนิคการแพทย์ |
||
กิตติศักดิ์ จิตรภักดี นักเทคนิคการแพทย์ |
ปวิตา สมานวงษ์ นักเทคนิคการแพทย์ |
||
สุขุมาล ประไพเพชร นักเทคนิคการแพทย์ |
กุลปริยา ยอดมูลคลี นักเทคนิคการแพทย์ |
||
ชุติกาณจน์ ทองหุ้ม นักเทคนิคการแพทย์ |
กฤษณา กระแสร์ นักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
||
พิมฉวี จันทร์ขำ นักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
ถิรายุทธ์ ศิลธรา นักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
||
นิชารัตน์ ศรีลำ นักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
รุ่งทิพย์ พันธราช นักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
||
สุวัฒน์ เชี่ยวชาญ นักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
จีรพันธ์ เรืองโรจน์ นักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
||
กาญจนา เครือไชย นักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
ลภัสรดา อุ่นเรือน นักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
||
กรรณิกา งามสวย ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
ณัฐิณี ภู่สวัสดิ์ ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
||
รัตนาภรณ์ ปราบตะเข้ ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
ธิดารัตน์ ดวงเงิน ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์ |
||
ศิริเพ็ญ ผิวขาว ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์ |
สมโภช ชูวงศ์ ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์ |
||
อนุชศรา หอมตา ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์ |
พิณาภรณ์ สุขีทรัพย์ ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์ |
||
กิตติคุณ แสงศรี ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์ |
วีราทร ทรงกิจ ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์ |
||
สุรศักดิ์ อิทธิสิฎฐ์ เจ้าหน้าที่ระบบงานคอมพิวเตอร์ |
|||
กมลณัฐ บุญชูกุศล เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป |
ศิริพร กิตไชย ผู้ปฏิบัติงานบริหาร |
||
รุ้งตะวัน จันทร์บำรุง ช่างเครื่องคอมพิวเตอร์ |
อรวรรณ จันเจอบุญ ช่างเครื่องคอมพิวเตอร์ |
||
ศนิญา บ้างสกุล ช่างเครื่องคอมพิวเตอร์ |
พัชรี รอบวงจันทร์ พนักงานบริการ |
คลังเลือดมีบริการแยกเป็น 4 ส่วน คือ
-
รับบริจาคโลหิตจากผู้บริจาคทั่วไป และญาติผู้ป่วย (อาคาร 1 และอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์)เวลาทำการ 8.30 - 16.30 น. ของทุกวัน
-
รับบริจาคโลหิตจากผู้ป่วย เพื่อใช้ในการผ่าตัด (อาคาร 1 และอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์)เวลาทำการ 08.30 - 16.30 น. ในเวลาราชการ
-
ปั่นแยกส่วนประกอบของโลหิตเวลาทำการ 8.30 - 16.30 น. ของทุกวัน
-
ห้องปฏิบัติการทั่วไป ให้บริการด้านการทดสอบเกี่ยวกับหมู่โลหิต จัดหาโลหิต และส่วนแยกของโลหิตที่เข้ากันได้ให้แก่ผู้ป่วย รวมทั้งทำการทดสอบทาง serology เพื่อการวินิจฉัย HDN, AIHA และ alloantibody ในผู้ป่วยที่มีปัญหาในการให้โลหิต และ transfusion reaction work upเวลาทำการ - ในเวลาราชการทำการทดสอบในรายการแนบท้าย- นอกเวลาราชการทำการทดสอบเฉพาะรายการใน emergency request
วิธีปฏิบัติในการขอและใช้โลหิต
1. การเจาะตัวอย่างโลหิต และส่งใบ request
1.1 เขียนใบ request ให้ถูกต้อง ชัดเจน ครบถ้วน
1.2 ต้องเขียนชื่อผู้เจาะตัวอย่างโลหิตผู้ป่วยบนใบ request และบน label ของหลอดโลหิตผู้ป่วยทุกครั้ง
1.3 การเจาะตัวอย่างโลหิต
1.3.1 ตัวอย่างโลหิตผู้ใหญ่
1.3.1.1 ตัวอย่างโลหิตเป็น clotted blood 7 ml. และ tube EDTA 7 ml. อย่างละ 1 tube การทำ crossmatch ใช้ตัวอย่างโลหิตร่วมกับตรวจหมู่โลหิต ABO ได้ ถ้าต้องการ ตรวจเฉพาะหมู่โลหิต ABO ใช้ tube EDTA 7 ml.
1.3.1.2 ถ้าต้องการโลหิตมากกว่า 3 ยูนิต ขอตัวอย่างโลหิตเพิ่มเป็น 10 ml. ให้เจาะตัวอย่างโลหิตใหม่ ถ้ามีการขอเม็ดโลหิตแดงเพิ่มในวันใหม่ ส่วนการขอ blood component ชนิดอื่น ๆ ใช้ตัวอย่าง โลหิตเดิมได้ 3 วัน
1.3.2 ตัวอย่างโลหิตเด็ก
1.3.2.1 เด็กเล็ก
เจาะเก็บตัวอย่างโลหิต clotted blood
1.3.2.2 เด็กโต
เด็กอายุมากกว่า 3 เดือน เจาะตัวอย่างโลหิตชนิด clotted blood 3-5 ml. และ EDTA 3 ml. อย่างละ 1 tube
1.3.2.3 เด็กแรกคลอด จำเป็นต้องใช้โลหิตมารดามาตรวจด้วย
1.4 Type/Screen (T/S) ใช้สำหรับขอโลหิตเตรียมผ่าตัดชนิด elective ที่ไม่ค่อยได้ใช้โลหิต แต่ต้องการมีโลหิตให้พร้อมสำหรับผู้ป่วย โดยทำการทดสอบโลหิตผู้ป่วยเพียงหมู่โลหิต ABO และผลการตรวจสอบแอนติบอดี้ต่อหมู่โลหิต ต้อง negative จึงใช้การขอโลหิตวิธี T/S ได้ รายที่ขอโลหิตแบบนี้และต้องใช้โลหิตในขณะผ่าตัด มารับโลหิตได้ในเวลา 15 นาที
1.5 Autologous blood ใช้สำหรับขอโลหิตเตรียมผ่าตัด ชนิด elective ที่ส่วนใหญ่ใช้โลหิต โดยทำการทดสอบโลหิตผู้ป่วยเพียงหมู่โลหิต ABO
2. การขอเม็ดโลหิตแดง (packed red cell)
2.1 เตรียมผ่าตัด
2.1.1 ในรายถ้าขอเฉพาะ RBC และ / หรือ Plasma ให้ส่งใบขอและตัวอย่างโลหิตก่อน 14.00 น. ของวันก่อนผ่าตัด 1 วัน แล้วให้สอบถามว่าได้โลหิตหรือไม่โดยเจ้าหน้าที่หอผู้ป่วยนำสมุดมา OK ที่หน่วยคลังเลือด เวลาประมาณ 16.00 - 18.00 น. ของวันที่ส่งใบขอโลหิต
2.1.2 ในรายที่ขอ RBC และ platelet ให้ส่งใบจอง platelets พร้อมตัวอย่างโลหิตก่อนผ่าตัด 2 วัน เช่น ผ่าตัดวันพุธให้ส่งใบจอง platelet วันจันทร์ แล้วให้สอบถามว่าได้ platelet หรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่หอผู้ป่วยนำ สมุดมา OK เลือด เวลาประมาณ 16.00 - 18.00 น. ของวันอังคาร
2.1.3 ในราย elective ที่ใช้โลหิตมากกว่า 4 ยูนิต ให้ส่งใบจองพร้อมตัวอย่างโลหิตก่อนวันผ่าตัด 2 วัน เช่น ผ่าตัดวันพุธ ให้ขอวันจันทร์ ให้สอบถามว่าได้โลหิตหรือไม่ประมาณ 10.00 น. ของวันอังคารและให้เจ้า หน้าที่หอผู้ป่วยนำสมุดมา OK เวลาประมาณ 16.00 - 18.00 น.
2.1.4 วิธีการ OK โลหิต
2.1.4.1 ในกรณีที่ผู้ป่วยได้โลหิต เจ้าหน้าที่หน่วยคลังเลือดจะเขียนคำว่า “ได้” ในสมุด OK เลือด
2.1.4.2 ในกรณีที่ไม่ได้โลหิต ณ เวลาที่มา OK โลหิต เจ้าหน้าที่หน่วยคลังเลือดจะเขียน คำว่า “ไม่ได้” พร้อมแจ้งเหตุผลในการที่ไม่ได้โลหิต
2.1.5 ในกรณีที่ผู้ป่วยขอโลหิตหลังเวลา 14.00 น. หรือกรณีที่ OK โลหิต ให้ผู้ป่วยไม่ได้ เมื่อ เวลา 16.00 - 18.00 น. ให้ปฏิบัติดังนี้
2.1.5.1 ในกรณีที่เป็นผู้ป่วยซึ่งจะรับการผ่าตัดเป็น case แรก ให้แต่ละ OR โทรมาถามที่หน่วยคลังเลือดได้ในเวลา 7.00 - 8.00 น. ของวันที่ผ่าตัด
2.1.5.2 ในกรณีที่ไม่ได้ผ่าตัดเป็น case แรก ให้แต่ละหอผู้ป่วยรวบรวมรายชื่อผู้ป่วยทั้งหมดที่ไม่ได้โลหิต และนำสมุดมา OK ที่หน่วยคลังเลือด เวลา 8.30 - 9.00 น. ของ วันที่ผ่าตัด
2.1.6 ในรายที่ผู้ป่วยขอโลหิตจาก OPD อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ และจะมาผ่าตัดที่ อาคาร 1 ให้ระบุลงในใบขอโลหิตให้ชัดเจนว่า ”ผ่าตัดอาคาร 1”
2.2 ระหว่างการผ่าตัด กรณีต้องใช้โลหิตหรือส่วนแยกของโลหิตเพิ่มเติมในระหว่างการผ่าตัด ให้ระบุ
ให้ชัดเจนในใบขอว่า ขอไปใช้ในระหว่างผ่าตัด และต้องการรับไปทั้งหมด หรือกี่ยูนิต
2.3 รายปกติ ควรขอในเวลาราชการ ใบขอโลหิตพร้อมตัวอย่างโลหิตที่ส่งถึงคลังเลือดก่อน 9.00 น.
จะได้โลหิตไม่เกิน 12.00 น. รายที่ส่ง 10.00 น. - 12.00 น. จะได้โลหิตก่อน 16.00 น.
รายที่ส่งหลัง 12.00 น. - 15.00 น. จะได้โลหิตประมาณ 16.30 น. ของวันเดียวกัน
ถ้าขอหลัง 15.00 น. จะได้ภายในเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง หลังจากส่งใบขอถึงคลังเลือด
ในกรณีที่ต้องการขอโลหิตเพิ่ม ทั้งที่ยังใช้โลหิตที่ขอไว้ไม่หมด ให้เขียนว่า “ขอเพิ่ม" ในใบขอโลหิต
2.4 รายรีบด่วน (Stat) จะได้โลหิตภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากส่งใบขอถึงคลังเลือด
ส่วนรายฉุกเฉิน เวลาเป็นไปตามที่ระบุในใบขอโลหิต
2.5 การขอโลหิตสำหรับ Intrauterine transfusion ให้ปฏิบัติดังนี้
2.5.1 เนื่องจากการเตรียมโลหิตสำหรับ Intrauterine transfusion ต้องใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงขอให้บริการในเวลาราชการ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.30 น.
2.5.2 ขอให้ใช้โลหิตชนิด Irradiated and filtered RBC ในกรณีที่ต้องการโลหิตชนิด CMV Negative ให้ขอล่วงหน้า 3 วัน เนื่องจากหน่วยไวรัสวิทยาและจุลชีววิทยาโมเลกุล ใช้เวลาตรวจ 3 วัน พร้อมกับมีค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้นอีก unit ละ 600 บาท
3. การมารับโลหิต รายที่ทางหอผู้ป่วยไม่ได้รับแจ้งว่ามีปัญหา ให้มารับได้ตามเวลาที่กำหนดโดยไม่ต้องโทร.
มาถามก่อน ยกเว้นเมื่อต้องการใช้โลหิตก่อนเวลากำหนด
4. การจ่ายโลหิต
4.1 โลหิตที่ใช้ในห้องผ่าตัด คลังเลือดจะจ่ายโลหิตไปห้องผ่าตัดทุกยูนิตพร้อมกันในเวลา 8.00 - 8.30 น.
พร้อมทั้งสำเนาใบขอโลหิต ซึ่งทางห้องผ่าตัดจะใช้เป็นหลักฐานตรวจสอบในการให้โลหิตแก่ผู้ป่วยในขณะผ่าตัด
เสร็จแล้วต้องเก็บสำเนานี้ไว้ในเวชระเบียนส่งต่อไปยังหอผู้ป่วย
4.2 โลหิตหรือส่วนแยกของโลหิตที่ขอเพิ่มในระหว่างการผ่าตัด จะจ่ายให้ตามจำนวนที่ระบุในใบขอ สำหรับพลาสมา ถ้าขอเกิน 2 ยูนิต จะละลายและจ่ายให้ไป 2 ยูนิตก่อน ถ้าจะใช้ต่อให้โทร.มาแจ้ง พร้อมส่งคนมารับ
4.3 การเตรียมโลหิต สำหรับผู้ป่วยเด็กที่ใช้ในห้องผ่าตัด
ผู้ป่วยเพิ่มเป็นค่าเชื่อมถุงโลหิตและ transfer bag เป็นจำนวน ๑๙๐.- บาท ต่อ 1 unit
ผู้ป่วยเด็กที่ขอโลหิต เพื่อเตรียมผ่าตัดจำนวน น้อยกว่า 1 ยูนิต (250-300 ml. / unit) หน่วยคลังเลือดจะ
5. การเก็บโลหิตนอกคลังเลือด
5.1 ในห้องผ่าตัด แต่ละภาควิชาต้องมี ตู้สำหรับเก็บโลหิตโดยเฉพาะ ซึ่งมีอุณหภูมิ 2-6๐C เพราะบางครั้ง
ต้องเก็บโลหิตไว้หลายชั่วโมง ควรเก็บโลหิตไว้ในตู้เก็บโลหิตจนกว่าจะถึงเวลาให้ผู้ป่วยรายที่ต้องให้โลหิตจำนวนมากและอัตราการให้โลหิตเร็วกว่า 50 มล./กก.นน.ตัว/ชั่วโมง สำหรับผู้ใหญ่ และเร็วกว่า 15 มล./กก./ชั่วโมง สำหรับเด็กควรพิจารณาใช้ blood warmer
5.2 โลหิตที่นำไปยังหอผู้ป่วยแล้วยังไม่ได้ใช้ทันทีหรือใช้ภายใน 1 ชั่วโมง ควรนำกลับมาฝากที่คลังเลือด
หรือถ้าไม่ต้องการใช้แล้วควรแจ้งคลังเลือด ไม่ควรเก็บโลหิตไว้ที่หอผู้ป่วยเพราะไม่มีตู้เก็บโลหิตที่เหมาะสม หากคืนโลหิตกลับมาหลังจากจ่ายโลหิตไปแล้วเกิน 1 ชั่วโมง คลังเลือดจะทิ้งโลหิตยูนิตนั้น เนื่องจากจัดเก็บไม่เหมาะสม
6. การคืนโลหิต โลหิตที่เหลือใช้จากห้องผ่าตัดให้ส่งกลับคลังเลือดทุกยูนิต ให้พยาบาลห้องผ่าตัดเขียนว่า
“ฝาก" ไว้ที่ใบคล้องโลหิต สำหรับรายที่คิดว่าจะต้องใช้โลหิตที่เหลือต่อในหอผู้ป่วย สำหรับรายที่ไม่ได้ทำการผ่าตัดในวันนั้น ให้เขียนว่า “เลื่อนผ่าตัด” คลังเลือดจะเก็บโลหิตทั้งสองประเภทไว้อีก 1 วัน เช่น ผ่าตัดในวันจันทร์ขอโลหิตไว้ 5 ยูนิต ใช้ในระหว่างผ่าตัด 2 ยูนิต และเขียนฝาก 3 ยูนิต โลหิตที่ฝากนี้จะถูกปลดในเวลา 9.00 ของวันอังคาร รายที่เลื่อนผ่าตัดต้องรีบแจ้งกำหนดใหม่ให้คลังเลือดทราบ จะเก็บไว้ให้ไม่เกิน 3 วัน เช่น
ขอใช้วันจันทร์จะเลื่อนได้ไม่เกินวันพุธ หลังจากนั้นจะต้องขอโลหิตใหม่
7. การปลดโลหิต เพื่อให้มีโลหิตหมุนเวียนใช้เพียงพอ จึงต้องมีหลักเกณฑ์ดังนี้
7.1 โลหิตจากห้องผ่าตัด ถ้าไม่เขียน “เลื่อนผ่าตัด” จะถูกปลดทันทีที่นำกลับคลังเลือด
7.2 โลหิตที่ขอใช้ในหอผู้ป่วย แล้วไม่ได้ใช้เลยในวันนั้น จะถูกปลดโดยอัตโนมัติ ในเวลา 9.00 น. ของ
วันที่ 2 หลังจากวันขอ เช่น ขอวันจันทร์ จะถูกปลดวันพุธเวลา 9.00 น. ถ้าต้องการให้เก็บไว้ ต้องเขียนใบรายการรับฝากโลหิตและส่วนประกอบโลหิตจากหอผู้ป่วย โดยส่งใบแจ้งก่อนเวลาปลด คือ
เวลา 7.00 - 9.00 น. ของแต่ละวันเจ้าหน้าที่หน่วยคลังเลือด จะเริ่มหาและปลดโลหิตที่รับฝากเวลา 9.00 น.ถ้ามีโลหิตที่ต้องการฝากเจ้าหน้าที่หน่วยคลังเลือดจะไม่โทรแจ้งหอผู้ป่วย แต่ในกรณีที่หาโลหิตไม่พบเจ้าหน้าที่หน่วยคลังเลือดจะแจ้งให้หอผู้ป่วยทราบถ้าต้องการใช้โลหิตต่อให้ส่งใบขอและเจาะโลหิตผู้ป่วยมา crossmatch ใหม่
8. การนำโลหิตจากโรงพยาบาลอื่นมาให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลรามาธิบดี
เมื่อหอผู้ป่วยมีการนำโลหิต หรือส่วยประกอบโลหิตจากโรงพยาบาลอื่น มาให้กับผู้ป่วยควรให้หน่วยคลังเลือดตรวจรับ และจ่ายผ่านจากหน่วยคลังเลือด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย
9. การนำตัวอย่างโลหิตผู้ป่วยมาจากโรงพยาบาลอื่น เพื่อนำมาให้คลังเลือดตรวจ crossmatch/หมู่เลือด
หน่วยคลังเลือดไม่รับตัวอย่างโลหิตจากโรงพยาบาลอื่น ต้องเจาะโลหิตมาให้ใหม่