รายนามผู้ได้รับพระราชทานรางวัล

 
 
ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลปี 2553
ชีวประวัติ
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. ลอเร็ตต้า ซี ฟอร์ด คณบดี และศาสตราจารย์เกียรติคุณของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่ยอมรับทั่วโลกในฐานะผู้นำทางการพยาบาลที่มุ่งมั่นและอุทิศตนให้กับงานบริการ การศึกษา การวิจัย และเป็นผู้ที่มีอิทธิพลอย่างสูงต่อการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ โดยเฉพาะสุขภาพของชุมชน เป็นผู้ริเริ่ม “Nurse Practitioner” ในประเทศสหรัฐอเมริกา และขยายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ที่อยู่/ที่ทำงาน
75 N.Bobwhite Rd., Wildwood, Florida 34785 USA
ประเทศ สหรัฐอเมริกา
 
 

           ดร. ฟอร์ด สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี โท และเอก จากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคโลราโด มีผลงานอันโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์จนได้รับปริญญาเอกกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงถึง ๗ สถาบัน ได้รับรางวัลตำนานผู้นำที่ทำประโยชน์ให้กับวงการสุขภาพที่ยาวนาน จาก American Academy of Nursing ได้รับเหรียญ Gustav Leinhard จาก Institute of Medicine และ National Academy of Science และรางวัลอื่นๆ จากองค์กรวิชาชีพ จากกองทัพ และจากมหาวิทยาลัยอีกเป็นจำนวนมาก

 

           ด้วยแรงบันดาลใจจากการปฏิบัติงานในแผนกกุมารเวชศาสตร์ ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโคโลราโด ที่ได้เห็นผู้ป่วยมารอพบแพทย์เป็นเวลานานๆ และได้พบแพทย์เพียงไม่กี่นาที ดร. ฟอร์ด มองเห็นว่าพยาบาลเป็นผู้มีพื้นความรู้อย่างดี จะสามารถช่วยตรวจ และคัดกรองผู้ป่วยได้ ในปีพุทธศักราช ๒๕๐๘ ดร. ฟอร์ด ได้ริเริ่มเสนอความคิด และโดยความร่วมมือของ นายแพทย์เฮนรี่ ซิลเวอร์ แห่งมหาวิทยาลัยโคโรลาโด ได้จัดให้พยาบาลได้รับการอบรมเพิ่มเติมทั้งด้านทฤษฎี และการฝึกปฏิบัติ และจัดให้มีแพทย์เป็นพี่เลี้ยง ที่เรียกว่า Preceptorship ในการตรวจวินิจฉัยโรคเบื้องต้นเพื่อให้มีความแม่นยำมากขึ้นก่อนปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจคัดกรองโรค

 

           จากการทดลองใช้พยาบาลเป็นผู้คัดกรองโรคก่อนเข้าพบแพทย์ ในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโคโลราโด พบว่าได้ผลดียิ่ง ทำให้ลดเวลาการตรวจของแพทย์อย่างมาก ทั้งผู้ป่วยได้รับคำแนะนำจากพยาบาลเกี่ยวกับโรค และการปฏิบัติตนอย่างละเอียด ผู้ป่วยมีความพึงพอใจ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายบทบาทของพยาบาลที่เรียกว่า “Nurse Practitioner” หรือ “พยาบาลเวชปฏิบัติ” แม้จะได้รับการต่อต้านและขาดความมั่นใจจากแพทย์บางส่วนในระยะแรก แต่ต่อมาพยาบาลเวชปฏิบัติก็ได้พิสูจน์ให้เห็น และได้รับการยอมรับ และไว้วางใจอย่างดียิ่งจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะแพทย์ และประชาชนชาวอเมริกันอย่างกว้างขวาง ทำให้บทบาทของพยาบาลเวชปฏิบัติขยายครอบคลุมไปถึงการรักษาโรคเบื้องต้น และการกำหนดให้มีตำแหน่งพยาบาลเวชปฏิบัติอยู่ในทุกหน่วยบริการ โดยเฉพาะในชุมชนห่างไกลที่ขาดแคลนแพทย์ทั่วสหรัฐอเมริกา ทำให้พยาบาลเวชปฏิบัติเป็นผู้ให้บริการหลักในหน่วยบริการเหล่านี้ ทั้งภาครัฐ และเอกชน และระบบประกันสุขภาพของสหรัฐอเมริกาได้ยอมรับให้ค่าบริการรักษาขั้นต้นของพยาบาลเวชปฏิบัติ ครอบคลุมอยู่ในระบบประกันสุขภาพอีกด้วย นอกจากนั้นแล้ว ยังมีการออกกฎหมายรองรับการรักษาโรคเบื้องต้นของพยาบาลเวชปฏิบัติ ทั้งให้สิทธิในการสั่งยาในแต่ละมลรัฐ ในประเทศสหรัฐอเมริกา

 

           การพัฒนาให้มีพยาบาลเวชปฏิบัติในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ประเทศต่างๆ ทั่วทุกทวีปได้นำแนวคิดในเรื่องดังกล่าวไปปรับใช้เพื่อแก้ปัญหาระบบสุขภาพของตนทั้งทวีปออสเตรเลีย ยุโรป และเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประเวศ วะสี ได้พยายามผลักดันให้มีการพัฒนาพยาบาลเวชปฏิบัติขึ้นในประเทศไทย ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๒๐ แต่ถูกต่อต้านทำให้ไม่มีความก้าวหน้า จนกระทั่งเมื่อมีการปฏิรูประบบสุขภาพในช่วงกลางทศวรรษ ๒๕๔๐ ผู้นำทางการพยาบาลจึงได้เสนอแนวคิดเรื่องพยาบาลเวชปฏิบัติขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่รักษาโรคเบื้องต้นในหน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิ ซึ่งไม่มีแพทย์ แต่การพัฒนายังเป็นไปค่อนข้างล่าช้า

 

          หลักสูตรการศึกษาเพื่อเตรียมพยาบาลเวชปฏิบัติ ได้ก้าวหน้าจากแต่เดิมเป็นระดับประกาศนียบัตรหลังปริญญาตรี ได้พัฒนาเป็นระดับปริญญาโท และปริญญาเอกที่เน้นการปฏิบัติ ทำให้พยาบาลเวชปฏิบัติได้รับการเตรียมที่มีศักยภาพมากขึ้น ในเวลา ๔๕ ปี ตั้งแต่การเริ่มต้นของ ดร. ฟอร์ด นับถึงปัจจุบัน ประเทศสหรัฐอเมริกามีพยาบาลเวชปฏิบัติที่ปฏิบัติงานอยู่ในระบบบริการสุขภาพมากกว่า ๑๕๐,๐๐๐ คน ทั้งหมดได้รับการเตรียมในหลักสูตรระดับปริญญาโทเป็นอย่างต่ำ และผ่านการสอบวัดความรู้และได้รับวุฒิบัตรรับรองความรู้ความเชี่ยวชาญ

 

          จากการติดตามประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของพยาบาลเวชปฏิบัติ ประชาชนเชื่อมั่น และให้ความไว้วางใจ ได้รับการยอมรับว่าเป็นบุคลากรสำคัญที่ได้ช่วยให้ประชาชนได้เข้าถึงระบบบริการ สามารถให้เวลากับผู้ป่วยได้มากกว่า มีความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจผู้ป่วย และที่สำคัญคือ สามารถลดค่าใช้จ่ายของการบริการสุขภาพลงได้อย่างมาก นับว่าความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของ ดร. ฟอร์ด ทำให้เกิดผลดียิ่งต่อระบบบริการสุขภาพทั่วโลก

 

           คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จึงมีมติเห็นสมควรให้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. ลอเร็ตต้า ซี ฟอร์ด เป็นผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๓