การคัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรแพทย์ประจำบ้าน
สาขาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น ปีการฝึกอบรม 2569
1. จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม คณะกรรมการฝึกอบรมฯ ได้พิจารณาความสมดุลระหว่างจำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่รับได้และศักยภาพด้านการฝึกอบรม ขณะนี้ภาควิชาฯ สามารถรับผู้เข้ารับการฝึกอบรมในสาขาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่นได้ปีละ 4 คน
2. คุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
2.1 ได้รับปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิตหรือเทียบเท่าจากสถาบันที่แพทยสภาฯ รับรอง
2.2 ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมตาม พ.ร.บ. วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ของแพทยสภาฯ
2.3 ผ่านการปฏิบัติงานตามโครงการเพิ่มพูนทักษะ
2.4 มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ผู้เข้ารับการฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางของแพทยสภา
3. ขั้นตอนการสมัคร สมัครผ่านทางระบบออนไลน์ตั้งแต่วันที่ วันที่ 1-31 ตุลาคม 2568 โดยจะต้องสมัครให้ครบทั้ง 2 ขั้นตอน ดังนี้
3.1 สำนักงานราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย: https://www.rcpsycht.org/th/training/recruitment
3.2 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี: https://www.rama.mahidol.ac.th/graded/raf/account/log_in
3.3 แบบสอบถามการสมัครแพทย์ประจำบ้าน: bit.ly/3RuQ0jK
4. เอกสารประกอบการสมัคร ตามข้อ 3.1 และข้อ 3.2 กำหนดไว้
4.1 สำนักงานราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ให้ยื่นเอกสารตามข้อ 3.1 โดยตรงหรือส่งไปรษณีย์
4.2 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ยื่นเอกสารผ่านระบบออนไลน์ในข้อ 3.2
และส่งสำเนาเอกสารตามข้อ 4.1 มายังสาขาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี (ตามที่อยู่ด้านล่าง)
4.3 หน่วยจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
ต้องส่งบทความเรื่อง “ปัญหาสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นในปัจจุบัน และฉันในฐานะจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น”
* หากท่านมีประสบการณ์จริงในการทำงานด้านสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น กรุณาเล่าถึงประสบการณ์นั้นในเรียงความฉบับนี้ด้วย
(ใช้ font Cordia New size 14, ความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ A4, ส่งเป็นไฟล์ pdf)
โดยส่งมาที่อีเมล์ jk.namsoot@gmail.com ภายในวันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2568
5. การคัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรม คณะกรรมการบริหารหลักสูตรฯได้พิจารณาพันธกิจของหลักสูตรฯและได้ตั้งคุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้สอดคล้องกับพันธกิจของหลักสูตรฯ โดยมีนโยบายรับผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่มีความพิการซึ่งต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นพิเศษ หากความพิการนั้นไม่มีผลต่อผู้ป่วยหรือเป็นอุปสรรคขัดขวางความสามารถในการฝึกอบรมหรือปฏิบัติงานในฐานะจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
5.1 คุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรม
• เป็นผู้มีศีลธรรมจรรยาที่ดีงาม
• เป็นผู้ปฏิบัติตนอยู่ในจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์
• สามารถให้ความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจลึกซื้งถึงปัญหาทางจิตใจของผู้ป่วยอย่างจริงใจจนถึงขั้นสามารถเอาใจเขามาใส่ใจเรา (empathy)
• ตระหนักถึงความสำคัญทางด้านจิตใจและอารมณ์ของมนุษย์
• มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่สูง
• บุคลิกภาพและวุฒิภาวะ (maturity) ที่เหมาะสม
• มีความอดทนต่อผู้ป่วย ครอบครัว และผู้ร่วมงาน
• มีความรักและพร้อมที่จะเข้าใจเด็กและวัยรุ่น
• ยอมรับความผิดพลาดและพร้อมที่จะปรับปรุงตนเองเสมอ
• มีความมุ่งมั่น เข้มแข็ง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคในการสร้างความเจริญให้แก่วงการจิตเวชเด็กและวัยรุ่น
• ใฝ่หาความรู้ความชำนาญเพิ่มเติมในวิชาชีพอยู่เสมอ และมีความสนใจในงานวิจัยทางจิตเวชเด็กและวัยรุ่น
• มีความสนใจการส่งเสริมสุขภาพจิตการป้องกันโรคทางจิตเวชเด็กและวัยรุ่น
5.2 เกณฑ์การรับผู้เข้ารับการฝึกอบรม เป็นไปตามที่หลักสูตรฯได้กำหนดคุณสมบัติไว้ตามระเบียบของราชวิทยาลัยฯ และแพทยสภาโดยปราศจากอคติเรื่อง เพศ เชื้อชาติ ศาสนา การเมือง หรืออำนาจอันมิชอบ และนโยบายการรับสมัครผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีการคำนึงถึงความต้องการของระบบสุขภาพด้วย เช่นมีการพิจารณาถึงต้นสังกัดจังหวัดที่ขาดแคลน
5.3 คณะกรรมการคัดเลือก
สถาบันฝึกอบรมมีการประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่มีความเหมาะสมและมีกระบวนการคัดเลือกและจัดการสอบสัมภาษณ์โดยยึดหลักความเสมอภาค โปร่งใส เท่าเทียม ยุติธรรมและตรวจสอบได้
5.4 หลักเกณฑ์การให้คะแนนการสอบสัมภาษณ์ คณะกรรมการสอบสัมภาษณ์จะมีการพิจารณาให้คะแนนจาก
เกณฑ์ขั้นต่ำ
* เกรดเฉลี่ย พบ.
- สำหรับผู้ที่มีต้นสังกัด เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.75
* NL 1-3 ผ่านครั้งที่ 1 (ถ้าไม่ผ่านครั้งที่ 1 พิจารณาเป็นกรณีพิเศษ)
* ผลคะแนนภาษาอังกฤษผ่านตามเกณฑ์ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล โดยใช้ผลการสอบอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
การให้คะแนน
• ต้นสังกัดที่ได้รับทุนมา (ร้อยละ 20)
• คะแนนจากการสัมภาษณ์ในห้องสัมภาษณ์ โดยพิจารณาจาก บุคลิกภาพ ทัศนคติ critical thinking ความมั่นคงทาง อารมณ์ ทักษะในการสื่อสาร แรงจูงใจในการเรียนจิตเวชเด็กและวัยรุ่น เป็นต้น (ร้อยละ 80)
หากผู้สมัครมีความพิการจะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานเป็นจิตแพทย์ เช่น ความพิการที่รุนแรงจนเป็นอุปสรรคต่อการสื่อสาร และการดูแลผู้ป่วย
6. การตัดสินจะพิจารณาจาก
6.1 คะแนนรวมของกรรมการสัมภาษณ์ทุกท่าน
6.2 คะแนนในส่วนของการสัมภาษณ์ โดยเฉลี่ยจากกรรมการทุกท่านต้องไม่น้อยกว่า 30 คะแนน
6.3 มติของกรรมการสัมภาษณ์ ถือเป็นสิทธิ์ขาด
(หากท่านมีข้อสงสัยในผลการตัดสินสามารถสอบถามได้ที่ประธานหลักสูตรดูแลแพทย์ประจำบ้านของภาควิชาฯ)
7.กลไกในการอุทธรณ์
ผู้สมัครสามารถส่งคำร้องขออุทธรณ์ผลการคัดเลือกแพทย์ประจำบ้านโดยตรงที่หัวหน้าภาควิชา หรือประธานหลักสูตรฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่น โดยเปิดให้แจ้งความจำนงในการอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วันหลังการประกาศผลการคัดเลือกอย่างเป็นทางการ เพื่อที่คณะกรรมการคัดเลือกได้มีการพิจารณาดำเนินการต่อไปตามความเหมาะสม
ซึ่งผู้สมัครสามารถดำเนินตามขั้นตอนการขออุทธรณ์ ได้ดังต่อไปนี้.... กรุณาคลิ๊กเพื่ออ่านต่อ
8. ช่องทางติดต่อ
8.1 ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี (อาคาร 3 ชั้น 7)
270 ถนนพระราม 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. 10400
คุณจอมขวัญ นามสูตร โทร.02-201-1929 ต่อ 230
E-mail: jk.namsoot@gmail.com
8.2 หน่วยการศึกษาหลังปริญญา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
เจ้าหน้าที่หน่วยการศึกษาหลังปริญญา โทร.02-201-1804-6
8.3 สำนักงานราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย
กองจิตเวชและประสาทวิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 15 ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กทม. 10400
คุณจันทนา คำประกอบ โทร.02-640-4488
E-mail: rcpsych.th@gmail.com