รับสมัครแพทย์ประจำบ้านสาขาจิตเวชศาสตร์ ปีการฝึกอบรม 2569

รายละเอียดการรับสมัครแพทย์ประจำบ้านสาขาจิตเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ปีการฝึกอบรม 2569
 

1. คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์สมัคร

                1.1 สำเร็จการศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต โดยจะต้องผ่านการทำงานเป็นแพทย์เพิ่มพูนทักษะอย่างน้อย 1 ปี ก่อนเข้าฝึกอบรม (ช่วงที่เปิดรับสมัคร อาจยังทำงานเป็นแพทย์เพิ่มพูนทักษะไม่ครบ 1 ปีได้)
                1.2 หากผู้สมัครมีความพิการ จะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานเป็นจิตแพทย์ เช่น ความพิการที่รุนแรงจนเป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารและการดูแลผู้ป่วย
 

*สำหรับปีการฝึกอบรม 2569 รับแพทย์ประจำบ้านสาขาจิตเวชศาสตร์จำนวน 7 คน
 

2. ขั้นตอนการสมัคร: 

สมัครผ่านทางระบบออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2568 โดยจะต้องสมัครให้ครบทั้ง 2 ขั้นตอน ดังนี้
                2.1 แพทยสภา โดยสมัครผ่านระบบ MD eConnect
                2.2 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี: https://www.rama.mahidol.ac.th/graded/raf/account/log_in
 

3. เอกสารประกอบการสมัคร: ตามที่ข้อ 2.1 และข้อ 2.2 กำหนดไว้ 
            และจะต้องส่งเอกสารต่อไปนี้มาที่ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีด้วย ในรูปแบบไฟล์ pdf โดยส่งมาที่ email address: prapai.yoo@mahidol.ac.th

                (1) ผลการศึกษาตลอดหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต
                (2) ผลสอบประเมินและรับรองความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม (ศรว.) ทั้ง 3 ขั้นตอน
             (3) ผลสอบภาษาอังกฤษ: สามารถใช้ผลสอบของปี พ.ศ. 2564 – ปีปัจจุบัน โดยใช้ผลสอบอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
                                - MU GRAD Plus (computer-based)
                                - IELTS
                                - TOEFL iBT
                (4) บทความ 1 ฉบับ โดยให้เขียนบทความบรรยายเกี่ยวกับตัวท่านเอง ให้มีเนื้อหาครอบคลุมหัวข้อต่อไปนี้ โดยพยายามยกตัวอย่างประกอบ (ไม่ใช่การเขียนตอบเป็นข้อๆ):

- แนะนำตัว บรรยายเกี่ยวกับพื้นฐานครอบครัว ประวัติการเรียน ประวัติการสมัคร/ฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านก่อนหน้านี้ (ให้บอกถึงสาขา/สถาบันที่เคยสมัครและจำนวนครั้ง) และอธิบายเหตุผลที่สมัครเรียนที่จิตเวช รามาธิบดี

- บรรยายถึงที่มาหรือแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากเป็นจิตแพทย์ และเล่าประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวกับผู้ป่วยจิตเวช 

- บรรยายถึงบุคลิกลักษณะนิสัยของตนเอง และวิเคราะห์ว่ามีลักษณะใดที่เป็นจุดเด่นและเหมาะสมในการเป็นจิตแพทย์ และมีลักษณะใดเป็นข้อจำกัดในการเป็นจิตแพทย์หรือการมาฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน

- บรรยายเหตุผลในการเลือกต้นสังกัด/free training และเล่าถึงแผนการทำงานในอนาคตหลังจากเรียนจบ รวมถึงแผนการในอนาคตถ้าไม่ได้รับคัดเลือกเป็นแพทย์ประจำบ้านในปีนี้

 (ใช้ font Cordia New ขนาด 14, ความยาวไม่เกิน 2 หน้ากระดาษขนาด A4)

*ข้อแนะนำ การใช้ AI เขียนบทความแนะนำตัว ไม่สามารถสะท้อนตัวตนและแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวผู้สมัครได้

                *หากเอกสารไม่ครบถ้วน จะไม่มีสิทธิ์เข้ารับการสัมภาษณ์
 

4. แนวทางการคัดเลือกแพทย์ประจำบ้านสาขาจิตเวชศาสตร์

หัวหน้าภาควิชาจิตเวชศาสตร์ ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกแพทย์ประจำบ้านจิตเวชศาสตร์ ก่อนวันกำหนดสอบสัมภาษณ์ โดยประกอบด้วย
                -  หัวหน้าภาควิชาจิตเวชศาสตร์                                                                          ประธาน
                -  ประธานหลักสูตรฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน สาขาจิตเวชศาสตร์                        เลขานุการ
                -  กรรมการหลักสูตรฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน สาขาจิตเวชศาสตร์
                -  อาจารย์ในภาควิชาที่ได้รับการเสนอจากที่ประชุมภาควิชาฯ
 

5. เกณฑ์พิจารณา

                คณะกรรมการคัดเลือกจะพิจารณาจากเกณฑ์ต่อไปนี้
                1. ผลการศึกษาตลอดหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต
                2. ผลสอบประเมินและรับรองความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม (ศรว.)
                3. ผลสอบภาษาอังกฤษ อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
                                - MU GRAD Plus (computer-based)
                                - IELTS
                                - TOEFL iBT
                4. บทความแนะนำตัว
                5. ต้นสังกัดและแผนการทำงานในอนาคต (*โดยพิจารณารับทั้งผู้สมัครที่มีและไม่มีต้นสังกัด)
                6. คะแนนจากการสัมภาษณ์โดยพิจารณาถึง ทัศนคติ (ประเมินจากความชัดเจนในความต้องการที่จะเป็นจิตแพทย์, ความชอบ/ความสนใจในเรื่องจิตใจ, แรงจูงใจในการมาฝึกอบรม และทัศนคติต่อวิชาชีพจิตแพทย์) และบุคลิกภาพ (ประเมินจากทักษะการสื่อสาร, การแสดงออกของอารมณ์เหมาะสม, ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจและให้เหตุผล รวมทั้งความยืดหยุ่นและความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น) 

การพิจารณารับสมัครแพทย์ประจำบ้านแต่ละรายจะเป็นไปตามมติของที่ประชุม หลังจากที่คณะกรรมการฯ ได้ประชุมและร่วมแสดงความคิดเห็นแล้ว โดยคณะกรรมการฯ จะพิจารณาด้วยความโปร่งใส  เสมอภาค ปราศจากอคติ ในเรื่องเชื้อชาติ, เพศ, ศาสนา, การเมือง หรืออำนาจโดยมิชอบใดๆ
 

6. การประกาศผล

                ประกาศผลผ่านทางเว็บไซต์แพทยสภา ภายหลังจากการรับรองผลการคัดเลือกโดยอนุกรรมการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน สาขาจิตเวชศาสตร์ 
 

7. หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูงสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิกและการรับรองคุณวุฒิเทียบเท่าปริญญาเอก

7.1 ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเป็นแพทย์ประจำบ้านทุกคนต้องลงทะเบียนเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูงสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเป็นหลักสูตรระยะเวลา 1 ปี มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษาในอัตราไม่เกินปีการศึกษาละ 9,200 บาท และจะต้องสอบภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์คะแนนภาษาอังกฤษของหลักสูตรฯ จึงจะได้รับประกาศนียบัตรฯ (สามารถสอบผ่านในภายหลังจากเข้าฝึกอบรมได้)

ประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่องค่าธรรมเนียมการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูง สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก 

https://graduate.mahidol.ac.th/storage/TuitionFee/2567/05-20-001.pdf

เกณฑ์คะแนนภาษาอังกฤษของหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง ดูรายละเอียดได้จากประกาศของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล https://graduate.mahidol.ac.th/thai/prospective-students/?topic=english-proficiency

*โดยไม่ได้ใช้ entrance requirement ใช้เฉพาะ graduation requirement (คือต้องผ่านเกณฑ์ จึงจะได้ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง โดยสามารถสอบผ่านเกณฑ์ภาษาอังกฤษภายหลังจากเข้ารับการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านแล้วได้)

7.2 ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเป็นแพทย์ประจำบ้าน จะต้องแสดงความประสงค์ว่าต้องการได้การรับรองคุณวุฒิ "เทียบเท่าปริญญาเอก" เมื่อสำเร็จการฝึกอบรมหรือไม่ โดยจะมีการสำรวจความประสงค์ภายหลังเข้าฝึกอบรมแล้ว มีรายละเอียดดังนี้ 
 

8. การอุทธรณ์

                หากผู้สมัครต้องการอุทธรณ์ผลการคัดเลือก สามารถทำได้โดยการยื่นคำร้อง หลังการประกาศผลการคัดเลือกอย่างเป็นทางการภายใน 15 วัน โดยติดต่อขออุทธรณ์ผลได้ที่ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

9. ช่องทางติดต่อ

*หมายเหตุ ก่อนเข้าฝึกอบรม ผู้ผ่านการคัดเลือกจะต้องฉีดวัคซีนให้ครบตามประกาศของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยจะต้องชำระค่าใช้จ่ายในการตรวจภูมิด้วยตนเอง