ผลสัมฤทธิ์ของแผนงานฝึกอบรม
หลักสูตรฯมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านอนุสาขาฯให้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมทางด้านภาพวินิจฉัยระบบประสาทตามผลลัพธ์ทางการศึกษาที่พึงประสงค์ดังนี้
เมื่อสิ้นสุดการฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมผู้ได้รับวุฒิบัตรฯต้องมีคุณสมบัติคือ
- มีทักษะทางวิชาชีพที่เป็นที่ไว้วางใจได้ (Entrustable professional activity, EPA) 9 ข้อ (ตารางที่1)
- มีผลลัพธ์การฝึกอบรมที่พึงประสงค์ (intended learning outcomes/milestones)
ที่ชัดเจน ครอบคลุมประเด็นเจตคติ และ สมรรถนะ (competency) 6 ด้าน
Entrustable professional activity (EPA) ทางรังสีวิทยาวินิจฉัยภาพระบบประสาท ได้กำหนดให้มี 9 ข้อ ดังตารางที่ 1 และ มีความสัมพันธ์ระหว่าง EPA และ สมรรถนะ (competency) ทั้ง 6 ด้าน ดังแสดงในตารางที่ 2
ตารางที่ 1 : Entrustable professional activity (EPA) อนุสาขาภาพวินิจฉัยระบบประสาท
EPA 1 | การสื่อสารกับผู้ร่วมงานในสหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ (การเขียนรายงานและการรายงานด้วยวาจา) Effective communication with members of the health care team (written and oral) |
EPA 2 | การเลือกโปรโตคอลและการเพิ่มประสิทธิภาพของภาพ Protocol selection and optimization of images |
EPA 3 | การแปลผลภาพวินิจฉัยระบบประสาท Interpretation of neuroimaging |
EPA 4 | การประยุกต์ความรู้ประสาทวิทยาศาสตร์กับรังสีวินิจฉัยระบบประสาท Application of neuroscience in neuroradiology |
EPA 5 | ความสามารถในการตรวจและการทำหัตถการแบบที่ไม่มีการผ่านหรือสอดใส่เครื่องมือเข้าไปในร่างกายผู้ป่วย และแบบที่มีการผ่านหรือสอดใส่เครื่องมือเข้าไปในร่างกายผู้ป่วย (ทักษะและเจตคติในการบริบาลผู้ป่วย 2) Competence in invasive and non-invasive procedures |
EPA 6 | การเป็นที่ปรึกษาในอนุสาขาภาพวินิจฉัยระบบประสาท Consultant in neuroradiology |
EPA 7 | บุคลากร- มีพฤติกรรมแห่งวิชาชีพและความเป็นมืออาชีพ1 ระบบ-มีพฤติกรรมแห่งวิชาชีพและความเป็นมืออาชีพ 2 Professionalism |
EPA 8 |
ความปลอดภัยของผู้ป่วย |
EPA 9 | การเรียนรู้ด้วยตนเองและการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง Self-directed learning – practice-based learning and improvement |
สมรรถนะ (competency) 6 ด้านและคุณสมบัติที่พึงมีภายใต้แต่ละสมรรถนะ ได้แก่
1) การบริบาลผู้ป่วย (Patient care)
1. ทักษะในการให้คำปรึกษาและแนะนำ (Consultation and recommendation) เกี่ยวกับการตรวจด้วยทางภาพ การทำหัตถการ และการรักษาทางรังสีวิทยาวินิจฉัยทางระบบประสาท ในภาวะหรือโรคที่หลากหลาย ให้แก่แพทย์สาขาอื่นได้อย่างเหมาะสมกับข้อบ่งชี้ของโรค โดยยึดถือผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางบนพื้นฐานของการดูแลแบบองค์รวม พิจารณาและคำนึงถึงการมีประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความคุ้มค่า ความเสี่ยงและประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นหลัก
2. มีทักษะในการขอใบแสดงความยินยอม (Obtaining informed consent) ในกรณีที่ทำการตรวจด้วยทางภาพทางรังสีวิทยาวินิจฉัยระบบประสาทที่มีการใช้ contrastagent การทำหัตถการ และวิธีการรักษาทางรังสีวิทยาวินิจฉัยระบบประสาท
3. มีทักษะในการเตรียมและดูแลผู้ป่วยที่มารับการตรวจวินิจฉัย การทำหัตถการ และวิธีการรักษาทางรังสีวิทยาวินิจฉัยระบบประสาทได้อย่างเหมาะสมและมีคุณภาพ
4. มีทักษะในการตรวจพบภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นระหว่างการตรวจวินิจฉัย การทำหัตถการ และวิธีการรักษาทางรังสีวิทยาวินิจฉัยระบบประสาท และสามารถให้การดูแลรักษาเบื้องต้นได้อย่างเหมาะสม
2) ความรู้และทักษะหัตถการทางเวชกรรม (Medical knowledge and procedural skill)
1. มีความรู้พื้นฐานและทักษะที่เกี่ยวข้องกับภาพวินิจฉัยทางระบบประสาทที่สามารถประยุกต์ใช้กับการอ่าน วิเคราะห์ และรายงานผลภาพรังสีวินิจฉัยระบบประสาท
2. มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพ และเชี่ยวชาญในสาขารังสีวิทยาวินิจฉัยระบบประสาท
3) ทักษะระหว่างบุคคลและการสื่อสาร (Interpersonal and communication skills)
1. สื่อสารให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเมตตาเคารพการตัดสินใจและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ได้แก่
i. การสื่อสารเกี่ยวกับวิธีการตรวจทางรังสีวิทยาวินิจฉัยระบบประสาท
ii. การขอใบแสดงความยินยอม
iii. การสื่อสารเกี่ยวกับข้อผิดพลาด ภาวะแทรกซ้อน หรือเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์
2. สื่อสารให้ข้อมูลโดยการรายงานผลการตรวจเป็นเอกสาร (reports) หรือด้วยวาจากับทีม
ดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. นำเสนอข้อมูลผู้ป่วย และอภิปรายปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ถ่ายทอดความรู้และทักษะ ให้แพทย์ นักศึกษาแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์
5. เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำทางรังสีวิทยาวินิจฉัยระบบประสาทแก่แพทย์ นิสิตนักศึกษา
แพทย์และบุคลากรอื่น
6. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทำงานกับผู้ร่วมงานทุกระดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4) การเรียนรู้และการพัฒนาจากฐานการปฎิบัติ (Practice - based learning and Improvement)
1. เรียนรู้ตลอดชีวิตและเพิ่มประสบการณ์ได้ด้วยตนเองจากการปฏิบัติ แล้วเกิดการพัฒนา
แบบต่อเนื่อง
2. ดำเนินการวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขได้
3. วิพากษ์บทความและงานวิจัยทางการแพทย์ได้
5) ความสามารถในการทำงานตามหลักวิชาชีพนิยมรวมทั้งคุณลักษณะของความเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิตหรือการพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่อง (Professionalism and continue medical education and continue professional development)
แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมแห่งวิชาชีพที่ดีของแพทย์ดังนี้
1. มีคุณธรรม จริยธรรม และเจตคติอันดีต่อผู้ป่วย ญาติ ผู้ร่วมงาน เพื่อนร่วมวิชาชีพ
และชุมชน
2. มีทักษะด้านที่ไม่ใช่เทคนิค (non-technical skills) และสามารถบริหารจัดการ
สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องได้เหมาะสม
3. มีความสนใจใฝ่รู้ และสามารถพัฒนาไปสู่ความเป็นผู้เรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต
(continuing professional development)
4. มีทัศนคติที่ดีต่อวิชาชีพและมีเจตคติที่จะใช้วิชารังสีวิทยาวินิจฉัยให้เป็นประโยชน์แก่
ประเทศ
5. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
6. คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม
6) การทำเวชปฏิบัติให้สอดคล่องกับระบบสุขภาพ (System-based practice)
1. ความรู้ ด้านระบบพัฒนาคุณภาพ (quality improvement) ทางรังสีวิทยาภาพวินิจฉัย
ระบบประสาท ได้แก่
i. กระบวนการในการกำกับดูแลความปลอดภัยทางด้านรังสี (radiation safety) ทั้งต่อผู้ป่วยและบุคลากร
ii. การรายงานอุบัติการณ์ของความเสี่ยง
iii. กระบวนการในการกำกับดูแลและการใช้เครื่องมือและระบบสารสนเทศทางด้านรังสีวิทยาวินิจฉัยระบบประสาท
2. ความรู้เกี่ยวกับระบบสุขภาพของประเทศ
3. มีความรู้และมีส่วนร่วมในระบบพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ป่วย
4. ใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างเหมาะสม (cost consciousness medicine) และสามารถปรับเปลี่ยนการดูแลรักษาผู้ป่วยให้เข้ากับบริบทของการบริการสาธารณสุขได้ตามมาตรฐานวิชาชีพ