คุณสมบัติและการคัดเลือกแพทย์ผู้เข้าอบรม

คุณสมบัติและการคัดเลือกแพทย์ผู้เข้าอบรม

 

คุณสมบัติทั่วไปของผู้เข้ารับการฝึกอบรม

แพทย์ที่เข้าอบรมจะต้องมีหลักฐานแสดงการได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม และมีวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา ในสาขาเวชศาสตร์ครอบครัว

สำเร็จการฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือไม่มีพันธะการชดใช้ทุนกับต้นสังกัด

 

ขั้นตอนการรับสมัคร

1.  ผู้สนใจ สามารถเข้าไปดาวโหลดใบสมัครและรายละเอียดการสมัคร ได้ที่

 

        

 

             ปิดรับสมัครภายในวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2566

 

2.  ส่งเอกสารเพิ่มเติม ได้แก่

     1. หนังสือรับรอง (Letter of recommendation) ประวัติความประพฤติ ความรับผิดชอบ จำนวน 2 ฉบับ

     2. หนังสือแนะนำตัว (Personal statement) พร้อมทั้งระบุประสบการณ์ทำงานด้านการดูแลสูงอายุที่ผ่านมา  และเหตุผลที่ต้องการสมัครฝึกอบรมในหลักสูตร

     3. CV

     4. หลักฐานการมีต้นสังกัด (กรณีมีต้นสังกัด)

     5. ผลการทดสอบความสามารถภาษาอังกฤษ อย่างใดอย่างหนึ่ง (ถ้ามี) ดังนี้

         - MU GRAD Test (Computer-based) ได้คะแนนไม่น้อยกว่า 36 หรือ

         - IELTS ได้คะแนนไม่น้อยกว่า 3 หรือ TOEFL iBT (Internet Based) ได้คะแนนไม่น้อยกว่า 32 หรือ

         - TOEFL – ITP ได้คะแนนไม่น้อยกว่า 400

 

**โดยส่งไฟล์ Pdf  มาก่อนวันที่ปิดรับสมัคร  ที่อีเมล์ :  jirawadee.chu@mahidol.ac.th

และส่งต้นฉบับตัวจริงมาที่  ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

 270 ถนนพระรามหก เขตราชเทวี แขวงทุ่งพญาไท  กทม 10400

**โดยวงเล็บมุมซองว่า “หลักสูตรเวชศาสตร์ครอบครัวผู้สูงอายุ”** 

(หากตัวจริงส่งมาไม่ทันอนุญาตให้ถือมาวันที่สัมภาษณ์) 

 

3. เมื่อราชวิทยาลัยส่งรายชื่อผู้สมัครให้ภาควิชาฯ ทางภาควิชาฯ จะโทรนัดสัมภาษณ์ตามวันและเวลาที่กำหนด

 

การคัดเลือกผู้เข้าอบรม

1. ภาควิชาฯ จะทำการประกาศคุณสมบัติรายละเอียดเอกสารการรับสมัครและเกณฑ์การคัดเลือกผ่านทางเวปไซค์ของภาควิชาฯ มีเกณฑ์การคัดเลือกที่ไม่ขัดต่อแพทยสภาและกระบวนการการคัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรม

อย่างเป็นระบบ มีความโปร่งใส เท่าเทียม ยุติธรรม

2. เปิดรับสมัครและคัดเลือกตามกำหนด

3. แต่งตั้งคณะกรรมการอย่างน้อย 3 ท่านเพื่อทำหน้าที่สัมภาษณ์และพิจารณาแพทย์ที่สมัครรับการอบรมที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกำหนด กรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

หรือการขัดกันของผลประโยชน์ในการคัดเลือกผู้เข้ารับการอบรม

4. การตัดสินการคัดเลือกแพทย์ที่ได้รับเข้าอบรม พิจารณาตามข้อกำหนดต่าง ๆ ดังนี้

          -  หนังสือรับรอง (Letter of recommendation) ประวัติความประพฤติ ความรับผิดชอบ จำนวน 2 ฉบับ

          -  หนังสือแนะนำตัว (Personal statement) พร้อมทั้งระบุประสบการณ์ทำงานด้านการดูแลสูงอายุที่ผ่านมา  และเหตุผลที่ต้องการสมัครฝึกอบรมในหลักสูตร

          -  CV

          -  หลักฐานการมีต้นสังกัด (กรณีมีต้นสังกัด)

          -  คะแนนจากการสอบสัมภาษณ์

5. การคัดเลือกจะใช้วิธีเรียงลำดับคะแนนตามจำนวนแพทย์ที่รับได้ และกรณีที่คะแนนใกล้เคียงกันจะขึ้นกับดุลยพินิจของคณะกรรมการคัดเลือก

6. การประกาศผลจะมีการโทรศัพท์ไปแจ้งผลแก่ผู้สมัครโดยตรง

7. หากผู้สมัครต้องการอุทธรณ์ผลการคัดเลือก สามารถทำได้โดยการยื่นคำร้องเพื่อขอตรวจสอบคะแนนได้ หลังการประกาศผลการคัดเลือกอย่างเป็นทางการภายใน 15 วัน

8. ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องมีการฉีดวัคซีนตามที่คณะฯ กำหนด โดยมีขั้นตอนดังนี้