หลักสูตรแพทย์ประจำบ้านต่อยอด อนุสาขาจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ(Geriatric Psychiatry)
1. ชื่อสาขา
(ภาษาไทย) หลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอดเพื่อวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม อนุสาขาจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ
(ภาษาอังกฤษ) Fellowship Training in Geriatric Psychiatry
2. ชื่อวุฒิบัตร
ชื่อเต็ม
(ภาษาไทย) วุฒิบัตรเพื่อแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมอนุสาขาจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ
(ภาษาอังกฤษ) Diploma of the Thai Subspecialty Board of Geriatric Psychiatry
ชื่อย่อ
(ภาษาไทย) วว. อนุสาขาจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ
(ภาษาอังกฤษ) Dip. Thai Subspecialty Board of Geriatric Psychiatry
คำแสดงวุฒิการฝึกอบรมท้ายชื่อ
(ภาษาไทย) วว. อนุสาขาจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ
(ภาษาอังกฤษ) Diplomate, Thai Subspecialty Board of Geriatric Psychiatry หรือ Dip., Thai Sub Board of Geri Psych
3. หน่วยงานที่รับผิดชอบ
- ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (สถาบันหลัก)
- ราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย
- แพทยสภา
4. พันธกิจของแผนงานฝึกอบรม/หลักสูตร
เพื่อฝึกอบรมจิตแพทย์ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นสาขาวิชาการทางการแพทย์เฉพาะทางที่ต้องอาศัยความรู้ทั้งเชิงกว้างและเชิงลึก ให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางวิชาการทางด้านนี้ที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยคำนึงถึงบริบทของสังคมไทย และมีคุณสมบัติที่สำคัญดังต่อไปนี้
มีความสามารถทำงานตามหลักพฤตินิสัยและ มารยาททางวิชาชีพ (professionalism)
สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างครอบคลุม มีประสิทธิภาพ มีความรู้และความชำนาญ และทักษะ ที่เหมาะสมกับบริบทของสาขาวิชาจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ
มีความเอื้ออาทร และใส่ใจในความปลอดภัย โดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางบนพื้นฐานการดูแลแบบองค์รวม
มีความสามารถในการปฏิบัติงานได้โดยไม่ต้องมีการกำกับดูแล
มีความรับผิดชอบต่อสังคมและประกอบวิชาชีพด้วยความสุจริตตามมาตรฐาน และตามจรรยาบรรณจิตแพทย์ มีจริยธรรม ทัศนคติ และเจตคติที่ดีต่อผู้ป่วย ผู้ร่วมงาน และองค์กร
มีเจตนารมณ์และเตรียมพร้อมที่จะเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต มีความสามารถในการเรียนรู้เพื่อให้มีการพัฒนาทางวิชาชีพ อย่างต่อเนื่อง
มีความสามารถด้านการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ มีความเป็นผู้นำทางวิชาการ
มีความสามารถในการบริหารจัดการ สามารถปฏิบัติงานแบบสหวิชาชีพหรือเป็นกลุ่มได้ มีพฤติกรรม การสื่อสารและ ปฏิสัมพันธ์ที่เหมาะสมต่อเพื่อนร่วมงานทั้งในวิชาชีพของตนเองและวิชาชีพอื่น รวมทั้งผู้ป่วยและญาติ
มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสุขภาพของประเทศ ระบบพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยในการดูแลรักษาผู้ป่วย การใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างเหมาะสม รวมทั้งการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน
หลักสูตรมีการระบุพันธกิจการฝึกอบรมเป็นลายลักษณ์อักษร และเผยแพร่พันธกิจของหลักสูตรการฝึกอบรมนั้นไปยังผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องให้รับทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้หลักสูตรอยู่บนพื้นฐานความต้องการจิตแพทย์ผู้สูงอายุของประเทศ คำนึงถึงความสามารถที่ตอบสนองระบบสุขภาพของประเทศ ความต้องการด้านสุขภาพผู้สูงอายุของชุมชนและสังคม รวมถึงมีความรับผิดชอบอื่นๆ ทางสังคมตามความเหมาะสม โดยผู้มีส่วนได้เสียและตัวแทนผู้รับการฝึกอบรมมีบทบาทในการกำหนดพันธกิจของหลักสูตรการฝึกอบรมด้วย
นอกจากนี้กระบวนการฝึกอบรมมุ่งเน้นการบูรณาการภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติผ่านการดูแลรักษาผู้ป่วยจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ เพื่อให้เกิดความชำนาญทั้งด้านการดูแล รักษา ป้องกัน ส่งเสริม และฟื้นฟูสุขภาพจิตแก่ผู้สูงอายุ รวมทั้ง ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และเพื่อนร่วมวิชาชีพ มีความรับผิดชอบต่อสังคม ประกอบวิชาชีพด้วยความสุจริต ตามมาตรฐานและตามจรรยาบรรณจิตแพทย์ และทันกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมไทยที่เป็นสังคมผู้สูงอายุ และสามารถปฏิบัติงานได้ด้วยตนเองและมีอาจารย์เป็นผู้ให้คำปรึกษามีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ มีนวัตกรรมที่เน้นกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสม รวมถึงการวัดและประเมินผลที่ครอบคลุมผลลัพธ์การฝึกอบรม โดยมีกลไกการกำกับดูแล และประเมินหลักสูตรเป็นระยะ
หลักสูตรมุ่งเน้นการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย โดยมีอาจารย์เป็นผู้ให้คำปรึกษาและส่งเสริมให้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่แพทย์ประจำบ้านที่มีความรู้และประสบการณ์น้อยกว่าได้
5. ปรัชญาหลักสูตร
ผลิตจิตแพทย์ผู้สูงอายุที่สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วยสูงอายุได้
6. ปณิธานของหลักสูตร
ปัญญาของแผ่นดิน
7. ผลสัมฤทธิ์ของแผนงานฝึกอบรม/หลักสูตร
จิตแพทย์ที่จบการฝึกอบรมเป็นแพทย์เฉพาะทางอนุสาขาจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ต้องมีคุณสมบัติและความรู้ความสามารถขั้นต่ำตามสมรรถนะหลักทั้ง 6 ด้านดังนี้
7.1 การบริบาลผู้ป่วย (Patient care)
การบริบาลโดยใช้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางบนพื้นฐานของ การดูแลแบบองค์รวม คำนึงถึงประสิทธิภาพและ ความปลอดภัย รวมทั้งสามารถปฏิบัติงานในอนุสาขาจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีการกำกับดูแล ได้แก่ ทักษะต่าง ๆ ดังนี้
ก. มีทักษะในการสัมภาษณ์ การตรวจร่างกาย การตรวจสภาพจิต การใช้แบบประเมินที่สำคัญ ในการคัดกรอง ประเมิน วินิจฉัยโรค บำบัดรักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพแก่ผู้ป่วยผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยสูงอายุที่มีโรคทางกายหรือมีโรคร่วมทางจิตเวชได้มาตรฐานตามหลักวิชาการ และหลักฐานเชิงประจักษ์
ข. ป้องกันโรคและสร้างเสริมสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ
ค. การบริบาลแบบองค์รวม มีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง โดยคำนึงถึงการใช้ยาอย่างสมเหตุผล มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย
7.2 ความรู้และทักษะหัตถการเวชกรรมทางจิตเวชศาสตร์ (Medical/psychiatric knowledge and procedural skills)
สามารถทำจิตเวชปฏิบัติในผู้สูงอายุได้อย่างครอบคลุมและเหมาะสมกับบริบทของการฝึกอบรมในประเด็นเหล่านี้
ก. ความรู้พื้นฐานด้านสุขภาพจิต จิตวิทยา วิทยาศาสตร์การแพทย์และสังคมศาสตร์ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานด้านจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ
ข. ความรู้ทางจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ตามหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เป็นปัจจุบันและบริบทต่าง ๆ
ค. ทักษะการทำจิตเวชปฏิบัติอย่างมีมาตรฐาน และเหมาะสมกับบริบทของการปฏิบัติงาน
ง. บันทึกรายงานผู้ป่วยได้อย่างสมบูรณ์ และสม่ำเสมอ
7.3 ทักษะระหว่างบุคคล และการสื่อสาร (Interpersonal and communication skills)
ก. นำเสนอข้อมูลผู้ป่วย และอภิปรายปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
ข. ถ่ายทอดความรู้และทักษะ เป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำแก่แพทย์ นักศึกษาแพทย์และ ทีมสหสาขาวิชาชีพได้
ค. สื่อสารให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติ ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ โดยมีเมตตาเคารพการ
ตัดสินใจและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
ง. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ปฏิบัติงานร่วมกับสหสาขาวิชาชีพและผู้ร่วมงานทุกระดับอย่างมีประสิทธิภาพ
7.4 การเรียนรู้และพัฒนาจากฐานการปฏิบัติ (Practice-based learning and improvement)
ก. วิพากษ์บทความ และดำเนินการวิจัยทางจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุได้
ข. มีความรู้ในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณทางการแพทย์ และการแพทย์เชิงประจักษ์
ค. เรียนรู้พัฒนาทักษะและเสริมสร้างประสบการณ์ทางวิชาชีพได้ด้วยตนเองจากการฝึกปฏิบัติด้านจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุได้ด้วยตนเอง
7.5 ความสามารถในการทำงานตามหลักวิชาชีพนิยม (Professionalism)
มีคุณลักษณะของความเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต (continue medical education) หรือการพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่อง (continue professional development) และ พฤตินิสัยเจตคติ คุณธรรม และจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ดังนี้
ก. ประพฤติตนอย่างมีคุณธรรมจริยธรรมและเจตคติอันดีต่อผู้ป่วย ญาติ ผู้ร่วมงาน เพื่อนร่วมวิชาชีพและชุมชน
ข. มีความสามารถในการสำรวจจิตใจ พัฒนาตัวเอง และสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสม
ค. มีความสนใจใฝ่รู้ และสามารถพัฒนาไปสู่ความเป็นผู้เรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต (continuous professional development) เพื่อธำรงและพัฒนาความสามารถด้านความรู้ ทักษะ เจตคติ และพฤติกรรมในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมอนุสาขาจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุที่เป็นมาตรฐาน และตอบสนองต่อความต้องการของผู้ป่วย และสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
ง. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายและ คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม
7.6 การทำเวชปฏิบัติให้สอดคล้องกับระบบสุขภาพ (System-based practice)
มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสุขภาพของประเทศ ระบบพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ป่วย รวมทั้งการใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างเหมาะสม โดยมีการการทำเวชปฏิบัติที่มีหลักการดังนี้
ก. สอดคล้องกับระบบสุขภาพ ระบบพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ป่วย ระบบยุติธรรม บริบททางสังคม และวัฒนธรรมสำหรับผู้สูงอายุของประเทศไทย
ข. คำนึงถึงความปลอดภัย และสิทธิผู้ป่วย
ค. ตระหนักในการใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างคุ้มค่า (cost consciousness medicine) และสามารถปรับเปลี่ยนการดูแลรักษาทางจิตเวชในผู้สูงอายุให้เข้ากับบริบทของการบริการสาธารณสุขได้ตามมาตรฐานวิชาชีพ