Volume:

ฉบับที่ 43 เดือนมกราคม 2565

Column:

Rama RDU

Writer Name:

เภสัชกรหญิงนันทพร เล็กพิทยา หัวหน้างานเภสัชกรรมคลินิก ฝ่ายเภสัชกรรม คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

หยุดยาวทั้งที จะเดินทางไปเที่ยวที่ไหน ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม เมื่อเที่ยวได้ก็ต้องได้เที่ยวสุขภาพก็ต้องป้องกันและรักษา อย่าลืมพกหน้ากากอนามัย เจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ นะคะ เพราะนาทีนี้การ์ดตกไม่ได้เด็ดขาด รวมทั้งยังต้องรักษาระยะห่างกันตลอดทริปกันด้วย เรามาเตรียมยาสามัญประจำเที่ยว 10 อย่าง ที่ต้องพกไว้เป็นอาวุธติดกายกันค่ะ

ยาโรคประจำตัว เป็นยาสำคัญที่จะลืมไม่ได้ เพราะต้องกินต่อเนื่อง จึงต้องพกติดตัวและเตรียมให้มีจำนวนที่เพียงพอตลอดทริป

พาราเซตามอล กินแต่ละครั้งต้องไม่เกิน 10 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อครั้ง เช่น น้ำหนัก 50 กิโลกรัม ควรกินครั้งละไม่เกิน 500 มิลลิกรัม และกินแต่ละครั้งต้องห่างกันไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง ข้อควรระวังต้องไม่กินเกินขนาดที่เหมาะสม

ยาแก้แพ้ มีทั้งชนิดกินแล้วง่วงและกินแล้วไม่ง่วง ที่สำคัญคือ ไม่แนะนำให้กินยาแก้แพ้ร่วมกันกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือกลุ่มยาระงับประสาท
ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ เป็นลักษณะยาผงถ่านคือ ถ่านกัมมันต์หรือถ่านชาร์โคล ซึ่งต้องกินห่างจากยาชนิดอื่นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงการดูดซึมยาชนิดอื่นลดลง ส่วนผงโออาร์เอส คือผงเกลือแร่ชดเชยปริมาณน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไป การใช้ยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อมักใช้ตามอาการและต้องดูคำแนะนำข้างซอง บางชนิดต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน

ยาแก้ปวดต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาคลายกล้ามเนื้อ เป็นยาช่วยบรรเทาอาการปวด อักเสบ ตึงกล้ามเนื้อได้ดี ควรระวังเรื่องการระคายเคืองกระเพาะอาหาร จึงต้องกินหลังอาหารทันทีและดื่มน้ำตามมาก ๆ

ยาแก้เมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน เป็นยาในกลุ่มเดียวกัน กินแล้วมักมีผลทำให้ง่วงนอน วัตถุประสงค์ของยาเพื่อลดอาการมึนศีรษะ โดยต้องกินก่อนเริ่มกิจกรรมหรือการเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง