วิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดทำโครงการนำรอง "A One-year innovative 'Flexible Education' program for persons with disavilities" (โปรแกรมการเรียนรู้แบบบยืดหยุ่นสำหรับผู้พิการ) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษา พัฒนาสมรรถนะด้านการเรียนรู้และทักษะอาชีพสำหรับผู้พิการ ที่ตอบสนองต่อตลาดแรงงานและโจทย์ของผู้เรียน ให้ผู้เรียนมีทางเลือกในการเรียนรู้ สร้างเส้นทางการเรียนรู้ที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางตามความสนใจและศักยภาพของตัวเอง เน้นการลงมือปฎิบัติจริง ที่เชื่อมโยงกับการจ้างงาน ควบคู่ไปกับการสร้างแรงจูงในที่แท้จนิงในการเรียนรู้ตลอดชีวิต (intrinsic motivation for lifelong learning) พร้อมทั้ง ช่วยผู้ประกอบการที่ออจากระบบการศึกษาให้สามารถกลับเข้าสู่การศึกษากระแสหลักได้
ทั้งโครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้แผนงานสร้างเสริมสมรรถนะด้านการเรียนรู้เพื่อสุขภาวะที่ยั่งยืนของคนพิการ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยมี อาจารย์แพทย์หญิงวัชรา ริ้วไพบูลย์ เป็นผู้อำนวยการแผนงาน และ รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฎฐนียา โตรักษา เป็นหัวหน้าโครงการ 'Flexible Education'
โดยโครงการ Flexible Education สำหรับผู้พิการนี้เป็น Non-degree program ดำเนินการภายใต้ความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้งหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยมหิดล (ได้แก่ กองกิจการนักศึกษา, กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม, กองเทคโนโลยีสารสนเทศ, กองบริหารการศึกษา, ศูนย์จิตตปัญญาศึกษา, อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกชาติ, คณะเวชศาสตร์เขตร้อน และ วิทยาลัยนานาชาติ) หน่วยงานภายนอก ได้แก่ สวนสามพราน, บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัท โฮมโปร, โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNDP), และกลุ่มกิจการเพื่อสังคม (Social enterprises) ได้แก่ School of Changemakers, Vulcan Coalition (Ava Advisory) และ A-Chieve
จุดเด่นของโครงการนี้คือการใช้ 'One system, One team' (เน้นการสร้าง Integration, shared goal, และ incentive alignment) โดยภาคีเครือข่ายทั้งหมดมารวมกัน co-design หลักสูตรต่างๆ รวมกันตั้งแต่ต้นทาง, ระหว่างทาง และปลายทาง (การจ้างงาน) พร้อมทั้งช่วยกันสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพทั้งการสร้างอาชีพอิสระและการเป็นผู้ประกอบการให้แก่ผู้พิการ ทั้งหมดนี้เป็นการสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่สำหรับนวัตกรรมแบบเปิดในระบบการศึกษา (New business model for open innovation in education systems) โดยมีมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นศูนย์กลางในการสร้างสิ่งแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทาง (pathways) ในการเข้า - ออก มีความยืดหยุ่นและมีหลายเส้นทาง ออกแบบตามความเหมาะสมและความต้องการของผู้เรียน ทั้งโครงการประกอบด้วยหลายหลักสูตรที่ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนได้ (มีวุฒิบัตรมอบให้ในแต่ละหลักสูตร) โดยทางวิทยาลัยราชสุดาจะทำการควบคุมและประเมินผลผู้เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่องรายบุคคลตลอดโครงการ (ongoing'case management' motitoring and evaluations) เพื่อทำการแนะแนวและให้คำปรึกษากับผู้เรียน เพื่อให้ผู้พิการที่เข้ารับการอบรมสามารถพัฒนาทักษะการจัดการอาชีพ และสามารถเลือกเส้นทางเดินที่เหมาะสม โดยทั้งนี้ในกลุ่มนำร่องกลุ่มแรกของโครงการมีผู้พิการที่เข้ารับการอบรมทั้งสิ้น 32 คน ซึ่งจะประกอบไปด้วย กลุ่มผู้พิการทางการได้ยิน และ กลุ่มผู้พิการทางกายและการเคลื่อนไหว
การดำเนินกิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1: Skills Preparation เป็นการเรียนเตรียมความพร้อม พัฒนาทักษะความรู้ในการทำงาน (Hard Skills) และ ทักษะด้านอารมณ์และสังคม (Soft Skills) ประกอบไปด้วย 2 Tracks คือ 'Track คนพิการทางการได้ยิน' เน้น language-capacity building และ 'Track คนพิการทางกาย และการเคลื่อนไหว' เน้น entrepreneurship-capacity building โดยมีหลักสูตรในระยะที่ 1 จำนวน 2 หลักสูตร คือ 1) หลักสูตรพัฒนาทักษะความรู้ในการทำงาน (Hard Skills) ในรูปแบบออนไลน์เต็มรูปแบบ ผ่าน 3 เครื่องมือ ดิจิทัล ได้แก่ WebEx (Virtual Classroom หลัก), Line แล: Google Classroom โดยจัดรูปแบบกระบวนการ สอนที่มุ่งเน้นทั้งผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ควบคู่ไปกับการสร้างประสบการณ์ความสุขตลอดเส้นทางการ เรียนรู้ออนไลน์ ทั้งนี้ ผู้เรียนทุกคนเรียนผ่าน iPad (Wif -Cellular) พร้อม Net-SIM ที่วิทยาลัยราชสุดาจัดส่งให้ผู้ เรียนยืมเพื่อให้เข้าถึงการเรียนรู้ออนไลน์อย่างเท่าเทียมกัน ประกอบด้วย หลักสูตรสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน จำนวน 4 หลักสูตร คือ หลักสูตรภาษามือไทย หลักสูตรภาษาไทยพื้นฐาน หลักสูตรภาษาอังกฤษพื้นฐาน และ หลักสูตรดิจิทัล และหลักสูตรสำหรับผู้พิการทางกายและเคลื่อนไหว จำนวน 4 หลักสูตร คือ หลักสูตรค้นหาอาชีพ และฝึกคิดแบบผู้ประกอบการ หลักสูตรสร้างการเรียนทางการเงิน หลักสูตร AI Trainer หลักสูตรดิจิทัล 2) หลักสูตรพัฒนาทักษะด้านอารมณ์และสังคม (Soft Skills) สำหรับคนพิการที่เข้ารับการอบรม ทุกคน ประกอบ ด้วย 9 Modules คือ Introduction to Soft Skills, Being Wisdom of the Land, Living with Unexpected and Uncertainty, Goal Setting, Life Design and Change Making, Professionism, Health Literacy. Sustainability Practice and the Society, Building Contemplation and Compassion, Scientific Thinking and Creative กิจกรรมระยะที่ 2 : Career Development & The Pre-Incubation Program : ประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ โปรแกรมบ่มเพาะพื้นฐานสำหรับการพัฒนาอาชีพอิสระและธุรกิจนวัตกรรมสำหรับผู้ พิการ (The Pre-Incubation Program) เป็นหลักสูตรที่ให้ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวได้ทดลองสร้างธุรกิจผ่าน กระบวนการ Design thinking, Value proposition, Ideation, Prototype, Business model crafting, Finance, Communication & Marketing แล: Re-design prototype และหลักสูตรการฝึกงานการโรงแรม สำหรับผู้พิการ (Career Development) โดยวิทยาลัยราชสุดา ร่วมกับ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทาราศูนย์ ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาทักษะอาชีพ ด้านการโรงแรมให้กับผู้พิการผ่นการฝึกปฏิบัติงานจริงใน 4 แผนกหลักของโรงแรมเซ็นทราฯ (แผนกแม่บ้าน แผนกต้อนรับ แผนกอาหารและเครื่องดื่ม และแผนกครัว) ทั้งนี้หลักสูตรดังกล่าวเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 24 สิงหาคม - 14 พฤศจิกายน 2563 (616 ชั่วโมง โดยบริษัท ซี อาร์ ซี ไทวัสดุ ให้การสนับสนุนงบประมาณของ หลักสูตร ตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 โครงการนี้ เป็นโครงการแรกภายใต้ "บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการในการพัฒนาสถานศึกษา ชุมชน ที่ส่งเสริม การเรียนรู้ให้เกิดความตระหนักในการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม และ ร่วมสร้างโอกาสการ เข้าถึงการเรียนรู้ การศึกษา ของผู้พิการและผู้ที่ขาดโอกาส ไปสู่การมีงานทำและการร่วมพิทักษ์สิ่งแวดล้อม" ระหว่าง กลุ่มเซ็นทรัล กับ มหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งนี้ เมื่อสำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรแล้ว ผู้พิการในหลักสูตรการ ฝึกงานการโรงแรมสำหรับผู้พิการ (ปี 2563) ได้รับการจ้างงาน/เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 85 ของผู้ เข้าอบรม
SDG goal ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
