นิตยสารทุกฉบับ
รวมนิตยสาร
บทความประจำ
เลือกดูบทความจากทุกเล่ม
ค้นหาบทความ
ค้นหาจากหัวข้อ

ชวนทำ...เมนูจากมะม่วงสุกต้อนรับ summer

Volume
ฉบับที่ 52 เดือนเมษายน 2567
Column
Healthy Eating
Writer Name
หลีชวนทำของอร่อย

 

สวัสดีคุณผู้อ่านนิตยสาร @Rama ทุกท่านค่ะ :) ช่วงนี้บ้านเราก็เข้าสู่หน้าร้อนกันแล้วนะคะ ผลไม้ที่หลีจะนึกถึงในช่วงหน้าร้อนแบบนี้นั่นก็คือ “มะม่วง” เดินไปทางไหนก็จะเห็นมะม่วงขายกันมากมายเลยค่ะ ทั้งมะม่วงสุกและมะม่วงดิบ เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงอกร่อง มะม่วงมหาชนก มะม่วงแรด มะม่วงเขียวเสวย และมะม่วงแก้วขมิ้น เป็นต้น สำหรับมะม่วงที่หลีโปรดปรานมากที่สุดคือมะม่วงสุกค่ะ ทั้งมะม่วงน้ำดอกไม้และมะม่วงอกร่อง เพราะรสชาติของมะม่วงสุกจะหวานละมุน เนื้อละเอียด และมีกลิ่นหอม ซึ่งมะม่วงสุกอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ได้แก่ 

วิตามินเอ และบีตาแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตา 

ใยอาหาร ช่วยในการขับถ่าย 

วิตามินซี ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน 

สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ 

แต่มะม่วงสุกเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลเยอะ หากรับประทานมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคเบาหวาน จึงควรรับประทานมะม่วงสุกในปริมาณที่พอเหมาะค่ะ

นิตยสาร @Rama ฉบับนี้ หลีขอนำเสนอเมนูจากมะม่วงสุก โดยนำมาดัดแปลงเป็นทั้งอาหารคาวและเครื่องดื่มกันค่ะ ซึ่งมะม่วงสุกที่เลือกใช้ควรเป็นมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ หรือพันธุ์อกร่อง เพราะมะม่วง 2 พันธุ์นี้มีรสชาติหอมหวานและเนื้อละเอียด เหมาะที่จะนำมาทำน้ำสลัดและเครื่องดื่มค่ะ

สำหรับเมนูอาหารคาวที่หลีขอนำเสนอคือ “สลัดกุ้งย่างกับน้ำสลัดมะม่วง” ส่วนผสมหลักของเมนูนี้จะประกอบไปด้วยกุ้ง มะม่วงสุก อะโวคาโด มะเขือเทศราชินี คลุกเคล้าด้วยน้ำสลัดมะม่วงสูตรลดไขมัน ได้รสหวานธรรมชาติจากมะม่วงสุก จัดเสิร์ฟลงบนผักเบบี้คอสเป็นชิ้นคำ มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยค่ะ

สลัดกุ้งย่างกับน้ำสลัดมะม่วง

ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)
    • กุ้งกุลาดำ (แกะหัว หาง และเปลือกทิ้ง ผ่าหลัง)               6     ตัว
    • เนื้อมะม่วงสุก (หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า)                     1/2    ถ้วยตวง
    • อะโวคาโด (หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า)                         1/2    ถ้วยตวง
    • มะเขือเทศราชินี (ผ่าครึ่ง)                                        1/4    ถ้วยตวง
    • ผักเบบี้คอส (เด็ดเป็นใบ ๆ)                                         6     ใบ
    • น้ำมันรำข้าว เล็กน้อย
    • เกลือป่น เล็กน้อย
    • พริกไทยดำบดหยาบ เล็กน้อย

ส่วนผสมน้ำสลัดมะม่วง (แบ่งรับประทานได้ 7-8 ที่)
    • เนื้อมะม่วงสุก (หั่นเป็นชิ้นเล็ก) 1  ถ้วยตวง
    • มายองเนส สูตรลดไขมัน     1/4  ถ้วยตวง
    • น้ำมะนาว       1 ช้อนโต๊ะ
    • เกลือป่น เล็กน้อย
    • พริกไทยป่น เล็กน้อย

วิธีทำ

1. ทำน้ำสลัดมะม่วง โดยปั่นเนื้อมะม่วงสุกจนละเอียด ผสมรวมกับมายองเนส น้ำมะนาว เกลือ และพริกไทย ชิมรสตามชอบ

2. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันรำข้าวลงกระทะเล็กน้อย จากนั้นนำกุ้งไปย่าง ปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไทยดำเล็กน้อย ย่างกุ้งจนสุกเหลืองสวย ตักขึ้นใส่จาน พักไว้

3. นำเนื้อมะม่วงสุก อะโวคาโด มะเขือเทศราชินี และกุ้งย่าง ใส่ชามผสม ราดด้วยน้ำสลัดมะม่วง 2 ช้อนโต๊ะ (ปรับลดหรือเพิ่มน้ำสลัดได้) คลุกเคล้าเบา ๆ ให้เข้ากัน ตักสลัดใส่บนผักเบบี้คอส เสิร์ฟเป็นชิ้นคำ

ส่วนเมนูเครื่องดื่มจากมะม่วงสุกที่หลีขอนำเสนอคือ “ลาสซี่มะม่วง” 
    ลาสซี่ คืออะไร? คือเครื่องดื่มที่ทำจากโยเกิร์ต นิยมดื่มกันมากในประเทศอินเดีย โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ลาสซี่มี 2 แบบคือ 1) แบบเค็ม จะใส่เกลือและเครื่องเทศลงไปปั่นกับโยเกิร์ต 2) แบบหวาน จะใส่น้ำตาลและเพิ่มผลไม้ลงไปปั่นกับโยเกิร์ต ซึ่งหลีขอนำเสนอลาสซี่แบบหวานมาให้ลองทำกันค่ะ ส่วนผสมหลักของเมนูนี้คือ มะม่วงสุก และโยเกิร์ต หลีเลือกใช้กรีกโยเกิร์ตรสธรรมชาติแทนโยเกิร์ตสูตรทั่วไป เพราะอยากให้เครื่องดื่มที่ได้มีลักษณะข้น และสูตรนี้ไม่ได้เติมน้ำตาลเพิ่ม เพราะได้รสหวานธรรมชาติจากมะม่วงสุกอยู่แล้วค่ะ มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยค่ะ

ลาสซี่มะม่วง

ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)

• เนื้อมะม่วงสุก (หั่นเป็นชิ้นเล็ก แช่เย็น)    1    ถ้วยตวง

• กรีกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ             1    ถ้วยตวง

• เนื้อมะม่วงสุก (หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า) สำหรับตกแต่ง 

• ถั่วพิสตาชิโออบ (สับหยาบ) สำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

1. ใส่เนื้อมะม่วงสุก และกรีกโยเกิร์ต ลงโถปั่นอาหาร ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกัน (หากลาสซี่ข้นเกินไป สามารถเติมนมจืดพร่องมันเนยลงไปเพิ่มได้)

2. เทใส่แก้ว ตกแต่งด้วยมะม่วงสุกหั่นเป็นชิ้นสี่เหลียมลูกเต๋าและถั่วพิสตาชิโอสับหยาบ พร้อมจัดเสิร์ฟแบบเย็น

    เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับเมนูจากมะม่วงสุกทั้งสลัดกุ้งย่างกับน้ำสลัดมะม่วง และลาสซี่มะม่วง ทำง่าย ได้ประโยชน์ และอร่อยฟินแน่นอนค่ะ หลีหวังว่าคุณผู้อ่านนิตยสาร @Rama ทุกท่านจะลองทำกันดูนะคะ :)

ดาวน์โหลดเพื่ออ่านรูปแบบ PDF
เนื้อหาภายในฉบับที่ 52