Doctor by design เรียนแพทย์ที่เราออกแบบได้

Doctor by design เรียนแพทย์ที่เราออกแบบได้
Volume: 
ฉบับที่ 35 เดือนกุมภาพันธ์ 2563
Column: 
Rama Update
Writer Name: 
ดนัย อังควัฒนวิทย์

Doctor by design เรียนแพทย์ที่เราออกแบบได้

เมื่อวันที่  15  ตุลาคม  2562  คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวหลักสูตรการเรียนการสอนใหม่ร่วมกัน  ในชื่อ “หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต - วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์” ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่มุ่งผลิตสร้าง  “แพทย์นวัตกร” ตอบโจทย์ยุค Disruption และยังเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีความประสงค์จะเรียนแพทย์และวิศวกรรมควบคู่กันไป

Doctor by design เรียนแพทย์ที่เราออกแบบได้

การเรียนการสอนจะเป็นรูปแบบเรียน 3-1-3 ปี รวมทั้งหมดใช้เวลาเรียน 7 ปี ซึ่งจะได้รับปริญญาบัตรสองใบ (แพทยศาสตรบัณฑิต และ วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์)

ความสำคัญของการเปิดหลักสูตรใหม่นี้ ศ.  นพ.ปิยะมิตร  ศรีธราคณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในปัจจุบัน การนำนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากแนวโน้มของการนำดิจิทัลและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในทางการแพทย์เพื่อการรักษาผู้ป่วยมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แพทย์จึงจำเป็นต้องปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น นอกจากความรู้ด้านการแพทย์ที่ดีแล้ว ทักษะและความเข้าใจทางด้านวิศวกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนการทำวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแพทย์ยุคใหม่ หลักสูตรร่วมนี้จะช่วยดึงศักยภาพและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ในการสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์ จากความรู้ทางด้านแพทย์และวิศวกรรม

Doctor by design เรียนแพทย์ที่เราออกแบบได้

ทั้งนี้ จุดเด่นสำคัญที่สุดของของหลักสูตรใหม่ ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะทางการแพทย์และความรู้ทักษะพื้นฐานทางวิศวกรรม ได้ทำงานด้านพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ร่วมกับนักวิจัยและอาจารย์ทั้งในคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

นักศึกษาที่เข้ามาเรียนในชั้นปีที่ 1-3 จะได้เรียนทางด้านพรีคลินิกเช่นเดียวกับหลักสูตรแพทย์ปกติ พอขึ้นชั้นปีที่ 4 จะได้เรียนทางด้านทักษะวิศวกรรมและลงมือพัฒนางานวิจัยหรือนวัตกรรม และกลับมาเรียนชั้นคลินิกเช่นเดียวกับหลักสูตรแพทย์ปกติ ในชั้นปีที่ 5-7

เมื่อจบการศึกษา ก็จะมีขีดความสามารถในการเป็น “แพทย์นวัตกร” ที่นอกจากสามารถทำงานเป็นแพทย์แล้ว ยังสามารถมองเห็นปัญหาและโอกาสในการแก้ปัญหาด้วยหลักการทางวิศวกรรม  ต่อยอดพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์  และเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง  รวมทั้งมีโอกาสสูงในการได้รับเลือกให้เรียนต่อเฉพาะทางหรือหลักสูตรปริญญาเอกทั้งในและต่างประเทศ  เนื่องจากมีประสบการณ์ทำงานวิจัยและผลงานตีพิมพ์ในระดับนานาชาติ อีกด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook :RAMA by D

Column File (PDF): 
เนื้อหาภายในฉบับที่ 35