ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุชาติ อินทรประสิทธิ์

 

สรุปจาก Oral History ของ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุชาติ อินทรประสิทธิ์

 

การเข้ามาทำงานที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

                            ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุชาติ อินทรประสิทธิ์ เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ (รุ่น 14) ได้เข้ามาทำงานที่ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลบาลรามาธิบดี มีความตื่นเต้นกับความทันสมัยของคณะฯ พบว่าอาจารย์ของคณะฯ ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่จบจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ภาพของคณะฯ มีคนกล่าวขานว่าเทียบเคียงกับมหาวิทยาลัยบอสตันเลย เพราะมีความแตกต่างจากที่อื่น คือมีการตั้งเป็นคณะแพทยศาสตร์เพื่อสอนชั้นคลินิกเท่านั้นและมีคณะวิทยาศาสตร์สอนทางปรีคลินิก ซึ่งเป็น Pattern ของโรงเรียนแพทย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาได้ไปฝึกอบรมด้านโรคไตที่ประเทศสหรัฐอเมริกากลับมาได้เป็นกำลังสำคัญของหน่วยโรคไตและดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยโรคไตก่อนโรงพยาบาลรามาธิบดีเปิดให้บริการ

 

การรักษาโรคไต คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ และผลงานวิจัย

                           ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุชาติ อินทรประสิทธิ์ ได้ คิดค้นเครื่องไตเทียมประดิษฐ์โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้ป่วยโรคไตเฉียบพลันซึ่งเป็นวิศวกร และนำมาใช้ในคณะฯ จึงไม่ต้องซื้อเครื่องไตเทียมจากต่างประเทศช่วยลดปัญหาการจัดตั้งงบประมาณไปได้ การนำเครื่องไตเทียมประดิษฐ์มาใช้ในคณะฯ มีผู้ช่วยเป็น Resident ของคณะฯ รุ่น 1 ผลงานนั้นคือ เครื่อง home-made hemodialysis machine ที่ ได้รับรางวัลผลงานคิดค้นและ สิ่งประดิษฐ์ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติประจำปี พ.ศ. 2523 จากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ

 

การเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี

                           หลังจากที่ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุชาติ อินทรประสิทธิ์ ปฏิบัติงานที่ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีได้สักระยะ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี (ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดีลำดับที่ 3 (ท่านแรกคือ รองศาสตราจารย์นายแพทย์เสริมศักดิ์ เพ็ญชาติ ท่านที่สองคือ รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงจิรพรรณ มัธยมจันทร์)

 

มาตรฐานคุณภาพของโรงพยาบาลรามาธิบดี (JCI)

                           ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุชาติ อินทรประสิทธิ์ ให้ความเห็นว่า คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดียังขาดการเตรียมการเพื่อมุ่งสู่มาตรฐานคุณภาพของโรงพยาบาลรามาธิบดี (JCI) จริง ๆ แล้วด้านคุณภาพนั้น คณะฯ เริ่มไปแล้วพอสมควร คือ ในช่วงคณบดี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์บุญชอบ พงษ์พาณิชย์ มอบหมายให้ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงลักษณา โพชนุกูล (หัวหน้าภาควิชารังสีวิทยา พ.ศ. 2543 - พ.ศ. 2550) เตรียมการ คณะฯ เพื่อให้ได้ International Organization for Standardization (ISO) แต่ ISO เป็นมาตรฐานของฝ่ายปฏิบัติการมากกว่า ส่วน JCI เป็นมาตรฐานสำหรับการดูแลผู้ป่วย การนำเอามาตรฐานคุณภาพของโรงพยาบาลรามาธิบดี (JCI) มาใช้และมี work instruction จะดีกับคณะฯ ที่จะพัฒนาต่อไป เพราะการมี document ให้เป็นระบบ บุคลากรต่อมาจะดำเนินการงานบริการอย่างต่อเนื่องได้

 

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีในอนาคต และความคาดหวัง

                            ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุชาติ อินทรประสิทธิ์ มีมุมมองถึงคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีในปัจจุบัน อนาคต โดยได้ให้ข้อคิดเห็นและ ความคาดหวังกับบุคลากรในปัจจุบัน ว่าในฐานะที่ได้มาทำงานที่คณะฯ และเห็นคณะฯ มาตั้งแต่เริ่มต้น คณะฯ พบกับความเปลี่ยนแปลงทั้งในคณะฯ เองและรอบข้าง ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลาดังนั้นต้องมีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว คณะฯ มีบุคลากรที่เก่งๆ มาจากหลายแห่งซึ่งล้วนแต่มุ่งที่จะมาทำงานและพัฒนาคณะฯ ขอให้เน้นในการทำงานเป็นทีม เป็นกลุ่ม พบว่าในปัจจุบันทำงานเป็นปัจเจกเป็นรายบุคคลซึ่งคงไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาที่มันยุ่งยากซับซ้อนได้ และขอให้ดึงบริบทเด่นๆ ของคณะฯ ออกมาพัฒนาจะสร้างความโดดเด่นได้

 

ข้อเสนอแนะในการจัดตั้งหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์รามาธิบดี

                            ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุชาติ อินทรประสิทธิ์ ให้ความเห็นว่า ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องสำคัญ มนุษย์เราเรียนรู้ประวัติศาสตร์แล้วก็สามารถจะแก้ปัญหาที่รวดเร็วจากประวัติศาสตร์ การมีโครงการหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์รามาธิบดีนับเป็นโครงการที่ดี และเป็นโมเดลตัวอย่างต่อการพัฒนาองค์กรในประเทศไทย ขอสนับสนุนโครงการนี้เต็มที่และพร้อมเสมอที่จะเข้ามาช่วย