หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

ภาควิชาวิทยาศาสตร์สื่อความหมายและความผิดปกติของการสื่อความหมาย

          หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาความผิดปกติของการสื่อความหมาย เป็นหลักสูตรแรกในประเทศไทย ที่เปิดรับนักศึกษามาแล้วกว่า ๓๐ ปีและในปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้เปิดรับนักศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาความผิดปกติของการสื่อความหมาย เพื่อให้สอดคล้อง กับความต้องการของสังคม ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องปรับปรุงเนื้อหารายวิชาในหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต ให้มีความก้าวหน้าในระดับที่สูงขึ้น เพื่อรองรับผู้สำเร็จการศึกษา หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาความผิดปกติของการสื่อความหมาย เพื่อพัฒนานักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย ให้มีความรู้ที่ทันสมัย ก้าวทันเทคโนโลยี มีความสามารถในระดับสูง มีความชำนาญในการให้บริการวินิจฉัย แก้ไข ฟื้นฟู และฝึกอบรม ด้านความผิดปกติของการสื่อความหมาย
          ทางคณะฯ ได้พัฒนาหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาความผิดปกติของการสื่อความหมาย โดยมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และเพิ่มรายวิชาใหม่ ซึ่งเป็นการบูรณาการความรู้ในศาสตร์ด้านนี้ ให้เข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้บัณฑิตที่จบไป มีความสามารถนำความรู้เชิงบูรณาการดังกล่าว ไปประยุกต์ในการพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้น 

ชื่อปริญญาและสาขาวิชา         

ภาษาไทย
ชื่อเต็ม : วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (ความผิดปกติของการสื่อความหมาย) 
 
ชื่อย่อ  : วท.ม. (ความผิดปกติของการสื่อความหมาย)
ภาษาอังกฤษ ชื่อเต็ม : Master of Science (Communication Disorders)
 
ชื่อย่อ  : M.Sc. (Communication Disorders)

ความมุ่งมั่นของหลักสูตร

          หลักสูตรมุ่งเน้นการพัฒนานักเวชศาสตร์การสื่อความหมายให้มีความรู้ ความสามารถระดับ สูงขึ้น ในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ สาขาวิชาความผิดปกติของการสื่อความหมาย มีความชำนาญในการให้บริการตรวจประเมิน วินิจฉัย บำบัด แก้ไข ฟื้นฟู และทำการวิจัยเพื่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ เพื่อส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันความผิดปกติของการสื่อความหมาย บูรณาการการศาสตร์ด้านความผิดปกติของการสื่อความหมายกับศาสตร์อื่นได้ โดยเน้นความมีคุณธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพ สิทธิผู้รับบริการ และการให้บริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐานในระดับสากล

ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง

เมื่อสำเร็จการศึกษาปริญญามหาบัณฑิตสาขาความผิดปกติของการสื่อความหมาย มหาบัณฑิตสามารถ
  1. บูรณาการความรู้ด้านการพูดและการได้ยินในการปฏิบัติงานทางคลินิกในการแก้ไข ความผิดปกติของการสื่อความหมายทุกประเภทอย่างมีจริยธรรมและจรรยาบรรณในการประกอบ วิชาชีพ 
  2. บูรณาการเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อใช้ในการปฏิบัติงาน ประเมินและแก้ไขด้านการพูด และการได้ยิน
  3. พัฒนาการเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์ และทักษะการแก้ปัญหาด้านความผิดปกติของการ สื่อความหมาย ได้ด้วยตนเอง เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
  4. ทางานเป็นผู้น าหรือเป็นผู้ร่วมทีมที่ดีเพื่อส่งเสริมและป้องกันความผิดปกติของการพูด หรือการได้ยินในชุมชน
  5. ศึกษาค้นคว้างานวิจัยและสามารถออกแบบและท างานวิจัยได้
  6. ปฏิบัติงานแก้ไขการพูดและ/หรือการได้ยินในระดับมาตรฐานสากลด้วยตนเอง

วัตถุประสงค์ของหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร แผน ก แบบ ก ๒

เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนตามหลักสูตรแล้ว มหาบัณฑิตมีความรู้ความสามารถ และคุณธรรม จริยธรรม ดังนี้

  1. ใช้ดุลยพินิจในการตรวจวินิจฉัย แก้ไข และฟื้นฟูสมรรถภาพของการได้ยินและการพูด ตามมาตรฐาน จรรยาบรรณวิชาชีพ และสิทธิของผู้รับบริการ
  2. สามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง และติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการ เทคโนโลยี และเครื่องมือใหม่ ตลอดจนการสร้างนวัตกรรม แบบทดสอบ หรือเครื่องมือ นำมาประยุกต์ทั้งทางด้านการตรวจวินิจฉัย แก้ไข และการฟื้นฟูความผิดปกติของการสื่อความหมาย
  3. วิเคราะห์ วิจารณ์ผลงานวิจัย และสิ่งตีพิมพ์ เสนอแนวความคิด และนำมาประยุกต์ในการบริการทางคลินิกรวมทั้งการศึกษาได้อย่างเหมาะสม
  4. มีทักษะในการทำงานเป็นทีม สามารถจัดการความขัดแย้งได้อย่างเหมาะสม มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
  5. ถ่ายทอด หรือนำเสนอผลงานและสื่อสารได้อย่างเหมาะสม กับบุคคลกลุ่มต่างๆ ได้แก่นักวิชาชีพ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง ผู้สนใจและประชาชนทั่วไป ตลอดจนสามารถใช้เทคโนโลยีการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  6. มีความคิดริเริ่มในการทำวิจัย สามารถดำเนินกระบวนการวิจัยได้อย่างถูกต้อง และสร้างสรรค์งานวิจัยด้านความผิดปกติของการสื่อความหมาย

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร  แผน ข

เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนตามหลักสูตรแล้ว มหาบัณฑิตมีความรู้ความสามารถ และคุณธรรม จริยธรรม

  1. ใช้ดุลยพินิจในการตรวจวินิจฉัย แก้ไข และฟื้นฟูสมรรถภาพของการได้ยินและการพูด ตามมาตรฐาน จรรยาบรรณวิชาชีพ และสิทธิของผู้รับบริการ
  2. สามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง และติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการ เทคโนโลยี และเครื่องมือใหม่ ตลอดจนการสร้างนวัตกรรม แบบทดสอบ หรือเครื่องมือ นำมาประยุกต์ทั้งทางด้านการตรวจวินิจฉัย แก้ไข และการฟื้นฟูความผิดปกติของการสื่อความหมาย
  3. วิเคราะห์ วิจารณ์ผลงานวิจัย และสิ่งตีพิมพ์ เสนอแนวความคิด และนำมาประยุกต์ในการบริการทางคลินิกรวมทั้งการศึกษาได้อย่างเหมาะสม
  4. มีทักษะในการทำงานเป็นทีม สามารถจัดการความขัดแย้งได้อย่างเหมาะสม มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
  5. ถ่ายทอด หรือนำเสนอผลงานและสื่อสารได้อย่างเหมาะสม กับบุคคลกลุ่มต่างๆ ได้แก่นักวิชาชีพ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง ผู้สนใจและประชาชนทั่วไป ตลอดจนสามารถใช้เทคโนโลยีการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  6. มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลจากการสืบค้น การทบทวนวรรณกรรม การสังเคราะห์แนวคิด การวิจารณ์ การสรุป การเรียบเรียงบทความ การนำเสนอรายงาน

สถานที่ศึกษาและแหล่งฝึกปฏิบัติ

ใช้อาคารสถานที่ที่มีอยู่แล้วใน ภาควิชาวิทยาศาสตร์สื่อความหมายและความผิดปกติของการสื่อความหมาย และอาคารอื่น ๆ ของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

กิจกรรมเสริมหลักสูตร

คณะฯ สนับสนุนกิจกรรมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ของนักศึกษา  โดยมีสโมสรนักศึกษารามาธิบดี (สนร.) เป็นแกนนำในการจัดกิจกรรม เช่น

  • กิจกรรมไหว้ครู
  • โครงการสืบสานอนุรักษ์มรดกไทย

ค่าใช้จ่ายและสวัสดิการนักศึกษา

  • ค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทะเบียนเรียนตลอดหลักสูตร 2 ปี ประมาณ 80,000 บาท
  • มีทุนสมาคมศิษย์เก่าบัณฑิตวิทยาลัย และทุนสนับสนุนงานวิจัย
  • คณะฯ จัดให้มีศูนย์กีฬา อาคารสวัสดิการ ซึ่งนักศึกษาและบุคลากรสามารถใช้บริการได้

ลักษณะงานที่ทำและความก้าวหน้า

  • เมื่อสำเร็จการศึกษา สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพเป็นนักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย (แก้ไขการพูด และแก้ไขการได้ยิน) โดยปฏิบัติงานในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน ในด้านความก้าวหน้าของวิชาชีพสามารถศึกษาต่อ ในระดับปริญญาเอก เพื่อ เป็นอาจารย์ นักวิชาการ และนักวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ สาขาการสื่อความหมาย หรือศึกษาต่อต่างประเทศในระดับสูง