ชวนทำ...เครื่องดื่ม Matcha (มัตจะ) เลิฟเวอร์

Volume

ฉบับที่ 58 เดือนตุลาคม 2568

Column

Healthy Eating

Writer Name

หลีชวนทำของอร่อย

ช่วงนี้กระแส “มัตจะ” กำลังมาแรง เดินไปทางไหนก็จะเห็นผลิตภัณฑ์จากมัตจะมากมายทั้งในรูปแบบของเครื่องดื่ม เช่น เพียวมัตจะ มัตจะลัตเต มัตจะน้ำมะพร้าว รวมถึงขนมหวานและเบเกอรีต่าง ๆ ที่ใช้มัตจะเป็นส่วนผสมหลัก เช่น ไอศกรีมมัตจะ น้ำแข็งไสมัตจะ ชีสเค้กมัตจะ บราวนีมัตจะ คุกกี้มัตจะ เป็นต้น

มัตจะ กับ ชาเขียว ต่างกันหรือไม่ ?

มัตจะกับชาเขียวผลิตจาก “ใบชาเขียว” เหมือนกัน แต่ชาเขียวที่ดื่มกันทั่วไปเป็นใบชาแห้งชงกับน้ำดื่ม แต่มัตจะเป็นใบชาเขียวชนิดพิเศษที่ผ่านกระบวนการเพาะปลูกอย่างพิถีพิถันกว่าชาเขียวทั่วไป ซึ่งใบชาจะถูกปลูกในร่มเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ก่อนการเก็บเกี่ยว จากนั้นจะถูกนำไปบดเป็นผงละเอียด ทำให้มัตจะมีรสชาติเข้มข้นและเนื้อสัมผัสที่เนียนละเอียด

นอกจากนี้มัตจะมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าชาเขียว และที่โดดเด่นคือ สารสำคัญในมัตจะ โดยเฉพาะสาร EGCG และกรดอะมิโน L-Theanine มีปริมาณสูงกว่าชาเขียวทั่วไป ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพ

สาร EGCG และกรดอะมิโน L-Theanine คืออะไร ?

สาร EGCG (Epigallocatechin gallate) เป็นสารในกลุ่มแคทีชีนที่ช่วยต้านการเกิดอนุมูลอิสระ ตัวการความเสื่อมของร่างกาย สาร EGCG ยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระไม่ให้ทำลายเซลล์หัวใจและหลอดเลือด รวมถึงช่วยระดับลดคอเลสเตอรอล เสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์สุขภาพ (โพรไบโอติกส์) ซึ่งเป็นแบคทีเรียดีในลำไส้ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

กรดอะมิโนแอล-ธีเอนิน (L-Theanine) เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ช่วยทำให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย ลดความเครียดและความวิตกกังวล

ข้อควรระวังในการดื่มมัตจะ ? เนื่องจากมีคาเฟอีนสูง หากดื่มมากไปอาจทำให้ใจสั่น กระวนกระวาย นอนไม่หลับ โดยเฉพาะผู้ที่ไวต่อคาเฟอีน หรือดื่มก่อนนอน อาจระคายเคืองกระเพาะอาหาร ทำให้คลื่นไส้ได้ หากดื่มตอนท้องว่าง และมัตจะมีออกซาเลตสูง (oxalate) หากดื่มมากเกินไป เสี่ยงเกิดนิ่วในไตได้ เสี่ยงสารตะกั่วปนเปื้อน ถ้าเลือกแหล่งผลิตไม่ดี ใบชาอาจสะสมโลหะหนักได้ การดูดซึมธาตุเหล็ก สารแทนนินในมัตจะอาจรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็ก ทำให้เสี่ยงต่อภาวะโลหิตจาง ควรเลี่ยงการดื่มมัตจะใกล้กับมื้ออาหาร ปฏิกิริยากับยา สารสำคัญในมัตจะบางชนิดทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ลดลง หรือเพิ่มผลข้างเคียง ผู้ที่มีโรคประจำตัวและต้องรับประทานยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร และเลี่ยงการดื่มมัตจะใกล้กับมื้อที่รับประทานยา และไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์ในปริมาณมาก หากบริโภคคาเฟอีนเกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน

ดังนั้นการดื่มมัตจะควรดื่มแบบพอดี ถ้าชงดื่มเอง ไม่ควรใช้ผงมัตจะเกิน 5 กรัมต่อวัน และเลือกผงมัตจะที่มีคุณภาพ หรือซื้อดื่มจากร้านค้า ไม่ควรดื่มเกิน 2 แก้วต่อวัน และที่สำคัญควรเลือกดื่มมัตจะแบบไม่หวาน หรือหวานน้อย เพื่อสุขภาพที่ดีของเรากันค่ะ

หลีขอชวนคุณผู้อ่านทุกท่านมาลองศึกษาข้อมูลและวิธีการชงมัตจะกันได้ค่ะ จะชงดื่มแบบเพียวมัตจะ (ไม่ผสมน้ำตาล นม หรือสารปรุงแต่งอื่น) หรือผสมมัตจะกับนมจืด หรือนมทางเลือกอื่น ๆ ทำเป็นมัตจะลัตเตก็ได้ค่ะ ส่วนฉบับนี้หลีขอแนะนำไอเดียมัตจะฟรุตตี้ ที่จับคู่มัตจะกับผลไม้สดอย่างสตรอว์เบอร์รี และเลมอน ซึ่งจะได้กลิ่นหอมของมัตจะ ผลไม้สด และหวานน้อย เป็นเมนูเครื่องดื่มที่สดชื่นและสดใสเหมาะสำหรับเติมพลังระหว่างวัน มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยค่ะ

Lemonade Iced Matcha (มัตจะน้ำผึ้งเลมอน)

ส่วนผสม

1. ผงมัตจะ 2.5 กรัม

2. น้ำอุ่น (อุณหภูมิ 75 องศาเซลเซียส) 50 มิลลิลิตร

3. น้ำเลมอน 1 ผลเล็ก

4. น้ำต้มสุก 150 มิลลิลิตร

5. น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนชา

6. น้ำแข็งก้อน

7. เลมอน หั่นสไลด์บาง สำหรับตกแต่ง

8. ใบสะระแหน่ สำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

1. เตรียมน้ำผึ้งเลมอน โดยผสมน้ำเลมอน น้ำต้มสุก น้ำผึ้ง คนผสมให้เข้ากัน พักไว้ก่อน

2. แช่แปรงไม้ไผ่ในน้ำอุ่น 5-10 นาที เพื่อให้เนื้อไม้ยืดหยุ่นรับแรงจากการใช้งานโดยไม่แตกหัก

3. ตักผงมัตจะ 2.5 กรัม ร่อนผ่านกระชอนใส่ถ้วยชงชา

4. เติมน้ำอุ่น (อุณหภูมิ 75 องศาเซลเซียส) 50 มิลลิลิตร จากนั้นใช้แปรงไม้ไผ่คนเป็นรูปตัว W อย่างรวดเร็วและนุ่มนวล เมื่อเห็นฟองละเอียดสีเขียวสวย จึงหยุดคน

5. ตักน้ำแข็งก้อนใส่แก้วที่เตรียมไว้ เทน้ำผึ้งเลมอนลงไปประมาณสองในสามแก้ว จากนั้นเทมัตจะที่ชงไว้ลงไปด้านบน ตกแต่งด้วยเลมอนหั่นสไลด์บางและใบสะระแหน่ คนให้เข้ากันก่อนดื่ม