9 กลเม็ดเด็ด วิธีเลือกใช้ครีมกันแดด
หลายท่านอาจสัมผัสได้ว่า นับวันสภาพอากาศบ้านเรานั้นมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งภัยที่เป็นเงาตามตัวภายใต้สภาพอากาศที่ร้อนระอุเช่นนี้ก็คือ แสงแดดนั่นเอง การสะสมของรังสีอัลตราไวโอเลตหรือที่เราเรียกกันว่า รังสี UV ที่มาพร้อมกับแสงแดดในสภาวะที่มีสภาพอากาศร้อนเช่นนี้นั้นเทียบเท่าได้กับการสะสมอันตรายจากรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นระยะเวลาครึ่งปีได้เลยทีเดียว ซึ่งหลายคนต่างเข้าใจว่าภัยจากแสงแดดนั้นอาจก่อให้เกิดผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อร่างกาย เช่น อาการแสบ บวม แดง ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่วันอาการเหล่านี้ก็จะหายไปเอง แต่หารู้ไม่ว่าภัยจากรังสีอัลตราไวโอเลตนั้นจะถูกสะสมไปเรื่อยๆ ในทุกครั้งที่เราถูกแสงแดด อันที่จริงแล้วรังสีอัลตราไวโอเลตจะถูกสะสมอยู่ในร่างกายของเราตั้งแต่วัยเด็กเป็นระยะเวลาต่อเนื่องตลอดช่วงอายุของเรา ซึ่งกว่าอาการต่างๆ จะปรากฏก็นานมากจนแทบไม่รู้สาเหตุแล้ว ยกตัวอย่างเช่น การเกิดมะเร็งผิวหนัง และความชราก่อนวัยอันควร เป็นต้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราควรหันมาใส่ใจและดูแลสุขภาพผิวอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากรังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่ง ณ เวลานี้ครีมกันแดดอาจเป็นคําตอบของใครๆ หลายคน วันนี้เรามีข้อมูลดีดีจากแพทย์ผิวหนังมาฝากเกี่ยวกับการเลือกใช้ครีมกันแดดอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการกันแดดสูงสุด
9 กลเม็ดเด็ด วิธีเลือกใช้ครีมกันแดด
- หลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลา 10.00 – 15.00 น.
- เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA และ UVB
- เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ในชีวิตประจําวัน และ SPF 30++ ในวันที่ต้องประกอบกิจกรรมกลางแจ้ง
- เลือกครีมกันแดดชนิดกันน้ำสําหรับกิจกรรมบางชนิด เช่น ว่ายน้ำ พายเรือ โปโลน้ำ โดยสังเกตจากบรรจุภัณฑ์ซึ่งจะมีคําว่า “Waterproof” ระบุไว้
- ฉีดหรือพ่นผลิตภัณฑ์กันแดดประเภทสเปรย์ซ้ำทุก 30 นาที เนื่องจากผลิตภัณฑ์กันแดดประเภทนี้นั้นสามารถล้างออกได้ง่ายดายด้วยน้ำและมีประสิทธิภาพความคงทนบนผิวหนังน้อยกว่าชนิดครีมและโลชั่น
- ทาครีมกันแดดในปริมาณที่หนาเพียงพอที่จะปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต และอย่าลืมทาในบริเวณที่ถูกแสงแดดเผาได้ง่าย เช่น จมูกและท้ายทอย
- ทาครีมกันแดดอย่างน้อย 20–30 นาทีก่อนออกแดด และควรทาซ้ำทุกๆ 90 นาทีหรือ 2 ชั่วโมง เมื่อต้องประกอบกิจกรรมกลางแจ้งอย่างต่อเนื่อง
- อ่านฉลากที่ติดอยู่กับบรรจุภัณฑ์ให้ละเอียด ถึงวิธีการใช้และส่วนประกอบของครีมกันแดดนั้นๆ
- เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีสารป้องกัน UVA ได้ดีอย่างน้อย 2 ชนิด ได้แก่ Oxybenzone Parsol 1789 TiO2, ZnO Mexoryl SX, XL Tinosorb M,S เป็นต้น
ทําความรู้จักกับประเภทของครีมกันแดด:
- Chemical Sunscreen: มีคุณสมบัติในการดูซับรังสีอัลตราไวโอเลตไว้ในผิว ซึ่งหลังจากโดนแดดเป็นระยะเวลาหนึ่งก็จะเสื่อมสมรรถภาพลง และนี่คือเหตุผลที่ครีมกันแดดบางยี่ห้อระบุวิธีใช้ให้เราต้องทาซําาทุกๆ 2 – 3 ชั่วโมง
- Physical Sunscreen: มีส่วนประกอบหลักเป็นสารทึบแสง จึงทําให้แสงไม่สามารถส่องผ่านไปได้ แต่จะถูกสะท้อนออกมา ซึ่งข้อเสียของครีมกันแดดชนิดนี้ก็คือทําให้ผิวหนังบริเวณที่ทาขาววอกจนเกินไป และในบางครั้งก็ก่อให้เกิดคราบขาวเวลาเหงื่อออกอีกด้วย
- Tanning Sunscreen: เป็นครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติทําให้ผิวคล้ำขึ้น โดยส่วนใหญ่นิยมใช้ในผู้ที่มีผิวขาวที่ต้องการมีผิวสีน้ำตาลแทนอย่างปลอดภัย