สัญญาณเตือนอาการโรคไข้เลือดออก
หน้าแรก
รู้ทัน ! สัญญาณเตือนอาการโรคไข้เลือดออก พร้อมวิธีดูแลรักษา
รู้ทัน ! สัญญาณเตือนอาการโรคไข้เลือดออก พร้อมวิธีดูแลรักษา

โรคไข้เลือดออก นั้นมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งชื่อไวรัสเดงกี​ (dengue virus) ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรคที่สำคัญ โดยทั่วไปโรคไข้เลือดออกมักพบมากในช่วงฤดูฝน เนื่องจากยุงลายมีการแพร่พันธุ์มากในฤดูนี้ ซึ่งอาการของโรคไข้เลือดออกนั้นมีตั้งแต่อาการเป็นไข้สูง บางรายหากเข้ารับการรักษาช้าก็อาจจะรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

สัญญาณเตือนและอาการโรคไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออกติดต่อจากคนสู่คน โดยมียุงลาย เป็นพาหะที่สำคัญ โดยหลังจากที่ถูกกัดประมาณ 3-8 วัน ก็จะเริ่มมีอาการของไข้เลือดออกเกิดขึ้น ดังนี้

ซึ่งส่วนมากผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เช่น มีเลือดออกมากผิดปกติหรือมีอาการช็อก ส่วนใหญ่มัก จะเกิดจากการติดเชื้อซ้ำ เนื่องจากผู้ที่ติดเชื้อซ้ำจะมีอาการรุนแรงมากกว่า

อ่านเพิ่มเติมที่ >>> ไข้เลือดออก ภัยร้ายหน้าฝนจากยุงลาย

รู้ทัน ! สัญญาณเตือนอาการโรคไข้เลือดออก พร้อมวิธีดูแลรักษา
ยุงลายพาหะของโรคไข้เลือดออก

ปัจจุบันเชื้อไข้เลือดออกทั้งหมดมีอยู่ 4 สายพันธุ์ด้วยกัน หากพบว่ามีการติดเชื้อซ้ำเป็นครั้งที่ 2 และเป็นการติดเชื้อมาจากไวรัสเดงกีสายพันธุ์ที่ 2 ก็อาจจะมีอาการรุนแรงมากกว่ากรณีอื่น ๆ 

วิธีรักษาอาการโรคไข้เลือดออก

สำหรับปัจจุบันวิธีรักษาอาการของ โรคไข้เลือดออก นั้นยังไม่มียาต้านเชื้อไวรัสที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อไข้เลือดออกหรือเชื้อไวรัสเดงกีได้โดยตรง ดังนั้นการรักษาส่วนใหญ่จึงเป็นการรักษาแบบประคับประคองตามอาการ โดยเป็นการให้ยาลดไข้ในกลุ่มพาราเซตามอล ซึ่งการให้ยาลดไข้มีความสำคัญ ต้องพยายามหลีกเลี่ยงยาลดไข้ตัวอื่นที่อาจจะมีความสัมพันธ์ กับอาการ เลือดออก ผิดปกติได้ เช่น ยาในกลุ่มแอสไพริน (aspirin) หรือไอบูโพรเฟน (ibuprofen)

นอกจากนี้ยังควรเฝ้าระวังและสังเกตอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หากผู้ป่วยมีอาการ ปวดท้อง มีอาการกระสับกระส่ายหรือซึมลง มือเท้าเย็นพร้อม ๆ กับไข้ลดลง หรือมีอาการหน้ามืด ควรรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ก่อนที่ผู้ป่วยจะเกิดอาการช็อกได้

อ่านเพิ่มเติมที่ >>> มีวิธีรักษาและดูแลตัวเองเมื่อเป็นไข้เลือดออกอย่างไร ไม่ให้ช็อก!

โรคไข้เลือดออก
กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ซึ่งนำมาสู่พาหะโรคไข้เลือดออก

ป้องกันอย่างไรให้ไกลจาก โรคไข้เลือดออก

การป้องกันการเกิด ไข้เลือดออก ที่ดีที่สุด ก็คือ การระวังไม่ให้ถูกยุงลายกัด 

สำหรับการป้องกันยุงลายนั้นสามารถทำได้ ดังนี้

  • กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
  • หลีกเลี่ยงภาชนะที่มีน้ำขังต่าง ๆ 
  • ตุ่ม โอ่งต้องมีฝาปิดมิดชิด
  • ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำในภาชนะที่ขังน้ำ เช่น แจกัน ทุก 7 วัน
  • ใส่ทรายอะเบตลงในตุ่มน้ำและภาชนะกักเก็บน้ำในอัตราส่วน 10 กรัมต่อน้ำ 100 ลิตร และควรเติมใหม่ทุก 2-3 เดือน
  • ป้องกันการถูกยุงกัดที่เหมาะสม เช่น ทายาป้องกันยุง หรือใช้ยากันยุง เป็นต้น 
  • สวมเสื้อผ้าที่มิดชิดเพื่อลดโอกาสการถูกยุงกัด

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งวิธีป้องกัน โรคไข้เลือดออก ที่พูดถึงกันมากที่สุดในปัจจุบัน นั่นก็คือ การใช้วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก วัคซีนจะสามารถใช้ได้ผลดีและลดความรุนแรงได้โดยเฉพาะในคนที่เคยป่วยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน

อ่านเพิ่มเติมที่ >>> รู้ทัน ป้องกัน “ไข้เลือดออก” นักฆ่าในหน้าฝน

อ่านเพิ่มเติมที่ >>> รู้จักวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก

สรุป

โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่มียุงลายเป็นพาหะ โดยอาการโรคไข้เลือดออกส่วนใหญ่แล้ว ผู้ป่วยมักจะมีไข้สูงเกิน 3 วัน ตามตัวอาจมีจุดหรือผื่นแดง อ่อนเพลีย ซึม หากรุนแรงอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้องบริเวณชายโครงขวาร่วมด้วย

ซึ่งการป้องกันไม่ให้เกิดโรคไข้เลือดออกนั้นสามารถทำได้โดย “อย่าให้ยุงกัดและอย่าให้ยุงเกิด” ด้วยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายนั่นเอง

 

ข้อมูลจาก

ผศ.นพ.ชนเมธ เตชะแสนศิริ

ภาควิชากุมารเวชศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

มหาวิทยาลัยมหิดล

 

อย่าลืมกดติดตามช่อง Rama Channel ที่น่าสนใจอีกมากมายได้ที่ 

Website: https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/

Website Rama mahidol : https://www.rama.mahidol.ac.th/

Facebook: https://www.facebook.com/ramachannel

Line: https://page.line.me/ramathibodi

Tiktok: https://www.tiktok.com/@ramachanneltv

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความ เรื่อง เต้านม เป็นอวัยวะที่แสดงถึงลักษณะของเพศหญิงอย่างหนึ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา หากเกิดอาการ เต้านมผิดปกติ ควรสังเกตุและแก้ไขอย่างไร ?
เต้านม เป็นอวัยวะที่แสดงถึงลักษณะของเพศหญิงอย่างหนึ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา หากเกิดอาการ เต้านมผิดปกติ ควรสังเกตุและแก้ไขอย่างไร ?
บทความสุขภาพ
07-05-2024

2

บทความ เรื่อง การตรวจภายใน ควรเข้ารับการตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกหรือโรคติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ของ ผู้หญิง
การตรวจภายใน ควรเข้ารับการตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกหรือโรคติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) และความเสี่ยงอื่น ๆ ทางระบบสืบพันธ์ุของผู้หญิง
บทความสุขภาพ
02-05-2024

1

บทความ เรื่อง ตากแดดบ่อย ๆ มีไฝขึ้นและแตกเป็นแผล หรือมีแผลที่ ผิวหนัง เรื้อรังเป็นระยะเวลานาน อาจเป็นสัญญาณเตือน โรค มะเร็งผิวหนัง
ตากแดดบ่อย ๆ มีไฝขึ้นและแตกเป็นแผล หรือมีแผลที่ผิวหนังเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน อาจเป็นสัญญาณเตือน โรคมะเร็งผิวหนัง ได้
บทความสุขภาพ
01-05-2024

9

บทความ เรื่อง ท้องเสีย ทำไมห้าม ดื่มนม ? เพราะเมื่อท้องเสียเซลล์ที่ผนังลำไส้จะถูกทำลายและไม่สามารถสร้างเอนไซม์ย่อยน้ำตาล แลคโตส ที่ส่งผลเสียต่อลำไส้ได้
ท้องเสีย ทำไมห้าม ดื่มนม ? เพราะเมื่อท้องเสียเซลล์ที่ผนังลำไส้จะถูกทำลายและไม่สามารถสร้างเอนไซม์ย่อยน้ำตาลแลคโตสที่ส่งผลเสียต่อลำไส้ได้
บทความสุขภาพ
26-04-2024

7