ไข้เลือดออก
หน้าแรก
ไข้เลือดออก มีวิธีรักษาและดูแลตัวเองอย่างไร ไม่ให้ช็อก !
ไข้เลือดออก มีวิธีรักษาและดูแลตัวเองอย่างไร ไม่ให้ช็อก !

ไข้เลือดออก นั้นจัดเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกิ ซึ่งมีอยู่ 4 สายพันธุ์ และสามารถแพร่ได้โดยมียุงลายเป็นพาหะ โดยมียุงลายเป็นพาหะ 

โดยลักษณะของโรคที่สำคัญคือ มีไข้สูง มีอาการเลือดออก และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีก็อาจทำให้เกิดภาวะช็อกซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ จึงต้องมีการ ติดตาม เฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของโรคอย่างใกล้ชิด และให้การรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่เกิดภาวะช็อก

อ่านเพิ่มเติมที่ >>> ไข้เลือดออกภัยร้ายหน้าฝนจากยุงลาย

อาการ ไข้เลือดออก

โดยปกติแล้วเราจะสามารถแบ่งอาการของไข้เลือดออกได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้

ไข้เลือดออก

1.ระยะแรก

สำหรับระยะแรกนี้เป็นระยะที่ผู้ป่วยจะมีไข้สูงประมาณ 5-7 วัน โดยอาจจะมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีผื่นหรือจุดแดงตามร่างกาย แขน ขา บางรายอาจจะเบื่ออาหาร และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย

2.ระยะวิกฤต

ระยะนี้เป็นระยะที่ต้องระวังมากที่สุด ผู้ป่วยจะมีอาการเพลียและซึม ปัสสาวะออกน้อย มีอาการปวดท้องโดยเฉพาะบริเวณชายโครงขวา รวมถึงมีเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด หรืออุจจาระเป็นสีดำ ในระยะนี้ไข้จะเริ่มลดลง มือเท้าเย็น ความดันโลหิตต่ำ และอาจทำให้เกิดอาการช็อกจนเสียชีวิตได้ 

3.ระยะฟื้นตัว

ในระยะนี้เป็นระยะที่คนไข้เริ่มมีอาการดีขึ้น ความดันโลหิตเริ่มกลับมาคงที่ ปัสสาวะออกมาขึ้น เริ่มกลับมามีความอยากอาหารมากขึ้น อาการปวดท้อง ท้องอืดลดลง และรู้สึกมีเรี่ยวแรงมากขึ้น โดยระยะเวลาทั้งหมดของไข้เลือดออกนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 7-10 วัน

ข้อแนะนำในการดูแลผู้ป่วยโรค ไข้เลือดออก

เบื้องต้นในการดูแลผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออกขณะที่อยู่ที่บ้านสามารถทำได้ ดังนี้

  • เช็ดตัวเพื่อลดไข้ โดยใช้ผ้าถูตัวชุบน้ำบิดหมาดๆ แล้วเริ่มเช็ดที่ใบหน้า คอ หลังหู จากนั้นจึงค่อยประคบตามซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ ข้อพับต่าง ๆ
  • ดื่มน้ำมาก ๆ โดยในรายที่อาเจียนแนะนำให้จิบน้ำเกลือแร่เพื่อบรรเทาอาการอ่อนเพลียและให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ
  • ให้ยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้ได้ แต่ห้ามใช้ยาลดไข้ที่มีส่วนผสมของแอสไพริน หรือ ibuprofen
  • ติดตามดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หากมีอาการรุนแรง เช่น อาเจียน ปวดท้องบริเวณชายโครงขวามาก มีเลือดออกรุนแรง ตัวเย็น มือเท้าเย็น ไม่ปัสสาวะนานกว่า 6 ชั่วโมง หรือ ซึมลงและไม่ค่อยรู้สึกตัว ให้รีบพามาพบแพทย์ทันที

ไข้เลือดออก

อาการไข้เลือดออกมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง

ในปัจจุบันยังไม่มียาที่สามารถรักษาหรือต้านเชื้อไวรัสเดงกีได้โดยตรง เพราะฉะนั้นการรักษา โรคไข้เลือดออก จึงเป็นการรักษาไปตามอาการที่ผู้ป่วยเป็น โดยสามารถให้ยาลดไข้ได้ โดยใช้พาราเซตามอลร่วมกับการเช็ดตัวลดไข้ แต่ห้ามใช้ยาลดไข้ประเภทอื่น เช่น ยาจำพวกแอสไพริน (aspirin) หรือ ibuprofen 

ซึ่งการพาผู้ป่วยเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะดีต่อผู้ป่วยมากที่สุด เพราะหากได้รับการวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้องตั้งแต่ระยะแรก เมื่ออยู่ในระยะวิกฤตแพทย์ก็จะสามารถดูแลติดตามอาการได้อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันภาวะช็อก

อ่านเพิ่มเติมที่ >>> มีวิธีรักษาและดูแลตัวเองเมื่อเป็นไข้เลือดออกอย่างไร ไม่ให้ช็อก!

วิธีป้องกัน ไข้เลือดออก

เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนที่สามารถรักษาอาการ ไข้เลือดออก ได้โดยตรง เพราะฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือ การป้องกันตัวเองไม่ให้ได้รับเชื้อไวรัสเดงกี หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกยุงลายกัดนั่นเอง ซึ่งเราสามารถป้องกันได้ดังนี้

ไข้เลือดออก

1. ป้องกันตัวเอง

  • สวมเสื้อผ้าที่มิดชิด
  • นอนในห้องที่มีมุ้งหรือมุ้งลวดเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด
  • ใช้ยาทากันยุงชนิดทาผิว

2. กำจัดแหล่งพาหะ

  • ภาชนะเก็บน้ำต้องมีฝาปิดเสมอ
  • เปลี่ยนน้ำในแจกัน หรือกระถางทุก 7 วัน
  • ฉีดพ่นสารเคมีหรือยากันยุงเพื่อกำจัดยุงลายเต็มวัย

3. วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก

สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกัน ไข้เลือดออก นี้แนะนำให้ฉีดในรายที่เคยเป็นไข้เลือดออกแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำ ซึ่งจะลดความรุนแรงและได้ผลดีกว่า

อ่านเพิ่มเติมที่ >>> รู้ทัน ป้องกันไข้เลือดออกนักฆ่าในหน้าฝน

อ่านเพิ่มเติมที่ >>> รู้จักวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก

สรุป

โรคไข้เลือดออก นั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยมีระยะอาการทั้งหมด 3 ระยะ คือ ระยะแรก ระยะวิกฤต และระยะฟื้นตัว ซึ่งการดูแลผู้ป่วยนั้นควรดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการช็อก ในกรณีที่ผู้ป่วยเริ่มมีอาการรุนแรงขึ้นก็ควรรีบพามาพบแพทย์เพื่อจะเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที

 

ข้อมูลโดย

ผศ.นพ.ชนเมธ เตชะแสนศิริ

สาขาวิชาโรคติดเชื้อ

ภาควิชากุมารเวชศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

มหาวิทยาลัยมหิดล

 

อย่าลืมกดติดตามช่อง Rama Channel ที่น่าสนใจอีกมากมายได้ที่ 

Website: https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/

Website Rama mahidol : https://www.rama.mahidol.ac.th/

Facebook: https://www.facebook.com/ramachannel

Line: https://page.line.me/ramathibodi

Tiktok: https://www.tiktok.com/@ramachanneltv

บทความที่เกี่ยวข้อง

Introvert โรคกลัวสังคม
ชอบอยู่คนเดียว เก็บตัว หลีกเลี่ยงการเข้าสังคมหรือคำนิยามของบุคลิกภาพนี้ว่า Introvert แต่อีกด้านหนึ่งอาจมีโอกาสเสี่ยงเป็น โรคกลัวสังคม ได้
บทความสุขภาพ
07-03-2024

2

กรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอก
กรดไหลย้อน ภาวะที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปหลอดอาหาร ซึ่งเกิดจากกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการ แสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว แน่นหน้าอก
บทความสุขภาพ
22-02-2024

10

ภาวะฮีทสโตรก อากาศร้อน
อากาศร้อนของประเทศไทยอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคลมแดด หรือ ภาวะฮีทสโตรก ที่มาจากอากาศร้อนจัดภัยฉุกเฉินจากฤดูร้อนช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป
บทความสุขภาพ
19-02-2024

35

ทอนซิลอักเสบ เจ็บคอ
ทอนซิลอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือการติดเชื้อแบคทีเรีย โรคคออักเสบที่มีอาการ เจ็บคอ ร่วมกับไข้สูง หนาวสั่น กลืนอาหารหรือน้ำลายได้ลำบาก
บทความสุขภาพ
15-02-2024

9