จากภาวะน้ำท่วมทางภาคใต้ของบ้านเราซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายและความยากลำบากในการดำเนินชีวิตของผู้ประสบภัย และจากสภาวะที่มีน้ำท่วมเช่นนี้ก็อาจจะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคเลปโตสไปโรซิส หรือ “โรคฉี่หนู” ที่มักจะระบาดหน้าฝนและช่วงที่มีน้ำท่วมขัง
โรคฉี่หนู
เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ติดจากสัตว์มาสู่คน โดยสามารถติดเชื้อโรคจากสัตว์ได้หลายชนิด ไม่ใช่เพียงแค่หนูเพียงอย่างเดียวยังมีทั้ง วัว ควาย แพะ หรือแกะ ซึ่งเป็นแหล่งของโรคมากที่สุด โดยเชื้อโรคมาจากปัสสาวะของหนูจึงเรียกโรคนี้ว่า “โรคฉี่หนู” นั่นเอง
ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะมีอาการที่แตกต่างกันไป
โดยผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ และผู้ที่เคยเป็นโรคนี้แล้วสามารถเป็นได้อีก โรคฉี่หนูสามารถเข้าสู่ร่างกายคนผ่านทางผิวหนังที่มีบาดแผล มีรอยขีดข่วน หรือเข้าทางผิวหนังปกติที่แช่น้ำนานๆ หรือไชเข้าตามเยื่อบุต่างๆ เช่น เยื่อบุตา จมูก ปาก ดังนั้นการดื่มน้ำ หรืออาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรคก็อาจติดเชื้อได้ นอกจากนี้การสูดหายใจที่สูดเอาละอองปัสสาวะที่มีเชื้อโรคเข้าไปก็อาจส่งผลให้ติดเชื้อได้เช่นกัน
อาการของโรคในคนอาจแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของเชื้อ โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่
เป็นไข้เฉียบพลัน ปวดศีรษะรุนแรง หนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง ตาแดง มีผื่นที่เพดานปาก อาจมีเยื่อหุ้มสมองอักเสบทำให้มีความรู้สึกสับสนและเพ้อได้ ทั้งนี้ถ้ามีอาการคล้ายไข้หวัด เช่น ตัวร้อน ไอ ปวดศีรษะ มีอาการปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะบริเวณน่องขา หรือมีอาการผิดปกติตามที่กล่าวไปข้างต้น ก็ควรรีบพบแพทย์ในทันที
สำหรับการป้องกันนั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
โดยอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าสาเหตุหลักของโรคนี้คือเชื้อโรคเลปโตสไปโรซิส หรือฉี่หนูที่มักจะมากับน้ำท่วมหรือน้ำขัง เพราะฉะนั้นสิ่งควรทำเป็นอันดับแรกคือการกำจัดหนูตั้งแต่ก่อนน้ำท่วม โดยพยายามอย่าทำให้บริเวณบ้านของเรามีที่รก หรือวางของระเกะระกะ ตลอดจนหลีกเลี่ยงการแช่น้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานานซึ่งค่อนข้างจะอันตรายกว่าน้ำที่พัดไหลผ่านไป
ทั้งนี้หากต้องแช่น้ำที่ท่วมขังควรรีบชำระล้างร่างกายให้สะอาดโดยเร็วที่สุด และหากมีความจำเป็นที่ต้องเดินในน้ำที่ท่วมขังก็ควรจะมีรองเท้าที่เหมาะสมอย่างรองเท้าบูทที่สูงกว่าระดับน้ำ ขณะที่บางคนใช้ถุงพลาสติกนั้นไม่แนะนำเนื่องจากฉีกขาดได้ง่าย
สำหรับการใช้วัคซีนป้องกันเป็นสิ่งที่ไม่แนะนำเช่นกัน เพราะเชื้อโรคเลปโตสไปโรซิส นั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งวัคซีนไม่สามารถป้องกันได้อย่างครอบคลุม
ข้อมูลจาก
ผศ. นพ.เฉลิมพงษ์ ฉัตรดอกไม้ไพร
ภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล