นิสัยที่ชอบ กัดเล็บตัวเอง เวลาว่าง เหม่อ หรือตอนที่ต้องการใช้สมาธิจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง พฤติกรรมแบบนี้อาจส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพ ซึ่งหากมีพฤติกรรมการกัดเล็บบ่อย ๆ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาจมีความเสี่ยงเป็นโรคทางจิตเวชได้อีกด้วย
นิสัยกัดเล็บเกิดจากอะไร
ในปัจจุบันยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ความเครียด รู้สึกเบื่อ วิตกกังวล หรืออุปนิสัยส่วนตัวที่ชอบกัดเล็บนอกจากนี้พันธุกรรมก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการกัดเล็บได้
ชอบกัดเล็บเกิดกับใครได้บ้าง ?
พฤติกรรมชอบกัดเล็บที่พบเห็นบ่อยจะเป็นช่วงวัยเด็ก แต่ในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ก็พบได้บ่อยเช่นกัน โดยนิสัยชอบกัดเล็บจะเกิดในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และพฤติกรรมชอบกัดเล็บอาจเกิดขึ้นจากนิสัยของคนที่เสพติดความสมบูรณ์แบบ มีความกดดันในตัวเองสูง จึงทำให้แสดงความเครียดออกมาทางพฤติกรรม เช่น กัดเล็บ ดึงผม การดึงหรือถูผิวหนังที่บริเวณต่าง ๆ เช่น จมูกเล็บ ริมฝีปาก
กัดเล็บบ่อย ๆ เสี่ยงติดเชื้อโรค
การกัดเล็บนอกจากจะทำให้เล็บไม่สวย ยังมีความเสี่ยงทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียที่มาจากช่องปากรวมไปถึงเชื้อโรคที่ติดอยู่รอบ ๆ เล็บจากการสัมผัสสิ่งของในชีวิตประจำวันแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น เชื้อราที่เล็บ ปัญหาช่องปากและลำคออักเสบจากการติดเชื้อ และเนื้อบริเวณนิ้วอักเสบติดเชื้อได้
ความรู้สึกของคนชอบ กัดเล็บตัวเอง
- ไม่สบายใจหรือวิตกกังวล
- เครียดจากปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว การเรียนและการทำงานรู้สึกโล่งใจ มีความสุขหลังจากได้กัดเล็บ
- ละอายใจ รู้สึกผิดเมื่อมองเห็นสภาพผิวหนังและเล็บของตัวเอง
- กลัวคนอื่นเห็นเล็บ
ความเสี่ยงของการกัดเล็บ
- เล็บผิดรูปร่าง
การกัดเล็บทำให้เนื้อเยื่อของเล็บเสียหาย ส่งผลให้เนื้อเยื่อที่สร้างมาใหม่มีรูปแบบผิดปกติ ผิดรูปไปจากเดิม
- ติดเชื้อ
การกัดเล็บอาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค เพราะเล็บเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่เกิดจากการใช้มือหยิบจับสิ่งของในชีวิตประจำวัน การกัดเล็บจึงเสี่ยงที่จะนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ นอกจากนี้การกัดเล็บอาจทำให้ผิวหนังบริเวณเล็บหลุดหรือเกิดแผลทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้เช่นเดียวกัน
- ฟันเสียหาย
การกัดเล็บอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพฟัน เช่น ฟันร้าว ฟันบิ่น หรือแตกหัก นอกจากนี้อาจส่งผลให้กรามหรือกระดูกขากรรไกรเกิดความผิดปกติได้
- บุคลิกภาพต่อบุคคลรอบข้าง
ทำให้สูญเสียความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีต่อบุคคลรอบข้าง
ติดนิสัย กัดเล็บตัวเอง เข้าข่ายเป็นโรคจิตเวชหรือไม่ ?
การกัดเล็บตัวเองหากไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยหรือทำเป็นประจำ จนทำให้เกิดปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น ติดเชื้อ มีการทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัวหรือคนรอบข้างก็ไม่มีอันตรายอะไรเพียงแค่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่หากเกิดการกัดเล็บตัวเองจริงจังเกินไป ห้ามตัวเองไม่ได้ และกัดเล็บจนก่อให้เกิดผลเสียตามมา อาการแบบนี้อาจเข้าข่ายภาวะของโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคสมาธิสั้นได้ หรือโรคกัดเล็บ (onychophagia) เป็นคำใช้เรียกคนที่มีพฤติกรรมชอบกัดเล็บเป็นประจำหรือเรื้อรัง
กัดเล็บตัวเองแบบไหนเข้าข่ายโรคจิตเวช
- กัดเล็บขณะเหม่อลอย
- ไม่รู้ตัวว่ากำลังกัดเล็บตัวเองอยู่
- กัดเล็บจนเล็บผิดรูปหรือเป็นแผล
- รู้สึกอายเล็บตัวเอง พยายามไม่ให้ใครเห็นเล็บมือ
- มีอาการอื่นแสดงร่วมกับการกัดเล็บ เช่น ดึงผม แกะเกาผิวหนัง กัดริมฝีปาก หรือเขย่าขา
- ต้องทะเลาะกับผู้อื่นบ่อย ๆ เนื่องมาจากพฤติกรรมกัดเล็บของตัวเอง
วิธีป้องกันการ กัดเล็บตัวเอง
- ตัดเล็บให้สั้น
- ทาครีมหรือเจลเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับมือ
- ทาบอระเพ็ดหรือวัตถุดิบที่มีรสขมบริเวณนิ้ว
- ทาเล็บ แต่งตกเล็บ
- ติดพลาสเตอร์แปะแผล
- สวมถุงมือ
- เคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อช่วยให้ปากไม่ว่าง
- รับมือกับภาวะอารมณ์ต่าง ๆ อย่างถูกต้อง
- ผ่อนคลายสมองและอารมณ์ เช่น นอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และทำสมาธิ
- หากมีปัญหาด้านอารมณ์อย่างรุนแรงควรปรึกษาแพทย์
- ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทีละน้อย
พฤติกรรมการกัดเล็บตัวเองจนส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจ ควรสังเกตพฤติกรรม อารมณ์ ความรู้สึกของตัวเองให้ดี หากไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย ประเมินอาการ และรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป
ข้อมูลจาก
ผศ. นพ.คมสันต์ เกียรติรุ่งฤทธิ์
ภาควิชาจิตเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล