อากาศร้อนอบอ้าว ทำให้หัวใจหยุดเต้นได้จริงหรือ?
สภาวะอากาศเมืองไทยในปัจจุบันสามารถทำให้เกิด Heat Stroke หรือภาวะลมแดดได้ คือภาวะที่อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเร็วเกินไป โดยมีอุณหภูมิร่างกายเกินกว่า 40 องศาเซลเซียส นับว่าเป็นภาวะอันตรายถึงชีวิตมีผลทำให้การทำงานของอวัยวะในร่างกายผิดปกติ ได้แก่ สมองบวม ปอดอักเสบรุนแรง (ไม่ใช่จากการติดเชื้อ) หัวใจและการไหลเวียนล้มเหลว ตับวาย ไตวาย การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ และเซลล์กล้ามเนื้อถูกทำลาย
Heat Stroke แบ่งเป็น 2 ประเภทคือแบบ classical มักใช้เวลา 2-3 วัน มักเกิดในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่นอนบนเตียง ไม่สามารถดื่มน้ำได้ทันกับอากาศร้อน และแบบ exertional มักเกิดในคนที่ต้องออกแรงมาก ๆ ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน เช่น ฝึกทหาร นักกีฬากลางแจ้ง คนงานที่ทำงานกลางแดด โดยมีอุณหภูมิกายสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้
อาการของผู้ป่วย Heat Stroke ได้แก่ สับสนวุ่นวาย ชัก หมดสติ หายใจเร็ว หอบ เหงื่อออก ชีพจรเต้นเร็ว ความดันต่ำ และช็อก อาจมีท้องเสียอาเจียนร่วมด้วยได้ หากได้รับการช่วยเหลือช้าผู้ป่วยมักจะเสียชีวิต
การช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อพบผู้ป่วย Heat Stroke ต้องรีบนำผู้ป่วยออกจากสภาพอากาศที่ร้อนไปอยู่ในที่เย็นขึ้น โทรตามรถพยาบาล ถอดเสื้อผ้าให้มากที่สุดเพื่อให้ผิวหนังระบายความร้อนได้ ใช้ผ้าเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามข้อพับ ซอกคอเพื่อลดอุณหภูมิ (ห้ามนำผู้ป่วยไปแช่ในอ่างน้ำแข็ง) หากผู้ป่วยยังพอรู้ตัวให้ดื่มน้ำให้มากที่สุด (1-2 ลิตรใน 1 ชั่วโมง) หากผู้ป่วยหมดสติต้องให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ซึ่งต้องรอรถพยาบาลมาถึง และห้ามให้ทานยาลดไข้พวก aspirinหรือ acetaminophen (พาราเซตามอล) หากผู้ป่วยหยุดหายใจให้ช่วยหายใจหรือหากหัวใจหยุดเต้นให้ช่วยชีวิตเบื้องต้นขั้นพื้นฐาน