โรคเกาต์ เกิดจาก อาการข้ออักเสบที่พบบ่อยในประเทศไทย นับว่าเป็นโรคปวด ข้อ เรื้อรังที่สามารถเป็นได้ตั้งแต่วัยทำงานจนถึงผู้สูงอายุ โดยผู้ชายจะมีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้มากกว่าผู้หญิง ส่วนใหญ่มักเกิดการอักเสบขึ้นกับข้อเพียงครั้งละหนึ่งข้อแต่ในผู้ป่วยบางรายอาจเกิดได้กับหลายข้อพร้อม ๆ กันก็ได้
โรคเกาต์ เกิดจาก อะไร
โรคเกาต์ เป็นอาการ ข้อ อักเสบที่เกิดจากปริมาณกรดยูริกในร่างกายสูงสะสมเป็นระยะเวลานานจนทำให้เกิดตะกอนของเกลือยูเรตในข้อต่อกระดูก และตามเนื้อเยื่อรอบข้อ ทำให้เกิดอาการ ปวดข้อ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะข้ออักเสบเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการปวด บวม แดงร้อนบริเวณรอบ ๆ ข้อที่มีอาการ มาทำความเข้าใจเรื่องของ โรคเกาต์ ให้มากขึ้นได้ที่ – โรคเกาต์ เสี่ยงเป็นชัวร์หากรู้ไม่เท่าทัน
ปัจจัยเสี่ยง
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น
- เพศชาย
- ผู้ที่มีโรคประประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน เบาหวาน หรือไตวายเรื้อรัง
- ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- มีภาวะกรดยูริกในเลือดสูง
- รับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง เช่น เนื้อสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ หรืออาหารทะเล เนื่องสารพิวรีนจะถูกเปลี่ยนเป็นกรดยูริกในร่างกายและทำให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น
- ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ
- น้ำหนักตัวเกิน
อาการ โรคเกาต์
ผู้ป่วยที่เป็น โรคเกาต์ จะสามารถสังเกตอาการโดยแบ่งเป็นระยะ ได้ดังนี้
- ระยะที่ข้อมีการอักเสบเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดอย่างชัดเจนโดยจะเกิดการอักเสบ บวม แดง และอาจจะมีอาการไข้ร่วมด้วยได้ ซึ่งจะพบบ่อยบริเวณ ข้อหัวแม่เท้า ข้อเข่า และข้อเท้า จะมีอาการอักเสบ 3-10 วัน
- ระยะไม่มีอาการอักเสบและเป็นซ้ำ ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแต่ส่วนใหญ่จะมีประวัติข้ออักเสบในระยะเฉียบพลัน หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาจะเกิดซ้ำใน 1-2 ปี และจะรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
- ระยะอักเสบเรื้อรังจากโรคเกาต์ ผู้ป่วยจะมีอาการข้ออักเสบแบบเรื้อรังเมื่อตรวจตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ พบเจอก้อนโทฟัส โดยเฉพาะบริเวณ นิ้วหัวแม่เท้าและข้อเท้า
วิธีการรักษา
การรักษาโรคเกาต์สามารถจำแนกได้ ดังนี้
การรักษาโดยไม่ใช้ยา
- แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารในชีวิตประจำวัน เช่น ลดอาหารทะเล กะปิ หอย ซึ่งมีสารพูรีน ลดผลไม้หรือเครื่องดื่มที่มีรสหวาน งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ในผู้ป่วยที่มีโรคอ้วนร่วมด้วยแพทย์จะแนะนำให้ออกกำลังกายลดน้ำหนักแบบช้า ๆ
- ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ได้รับยาขับปัสสาวะแพทย์จะมีการเปลี่ยนยาขับปัสสาวะที่ไม่มีผลต่อกรดยูริกในเลือด
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหักโหม เนื่องจากอาจมีผลทำให้เกิดอาการข้ออักเสบ
- ระยะข้ออักเสบเฉียบพลัน ผู้ป่วยควรพักข้อและประคบด้วยน้ำแข็ง
การรักษาโดยใช้ยา
- ระยะข้ออักเสบ แพทย์จะให้ยาต้านการอักเสบและยาโคชิซีน เพื่อลดอาการปวด และอาการอักเสบ โดยในผู้ป่วยที่ยังไม่เคยได้รับการรักษาด้วยยาลดระดับกรดยูริกจะไม่ให้ยาในขณะที่มีอาการข้ออักเสบอยู่
- ระยะที่ไม่มีการอักเสบ แพทย์จะให้ยาควบคุมระดับกรดยูริกในเลือด ร่วมกับการเจาะเลือดเป็นระยะเพื่อปรับชนิดยาและขนาดยาให้เหมาะสม
วิธีป้องกัน
- ติดตามการรักษาจากทางแพทย์อย่างต่อเนื่อง
- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารพิวรีนสูง เช่น เนื้อสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ หรืออาหารทะเล เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ควบคุมน้ำหนัก
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อขับกรดยูริก
ข้อมูลจาก
ผศ. นพ.สรวุฒิ ธรรมยงค์กิจ
ศัลยกรรมกระดูกและข้อ
สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
อย่าลืมกดติดตามช่อง Rama Channel ที่น่าสนใจอีกมากมายได้ที่
Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: https://www.youtube.com/RamachannelTV
Facebook : https://www.facebook.com/ramachannel