ผลลัพธ์การเรียนรู้ระดับหลักสูตร (PLOs) และ ผลลัพธ์การเรียนรู้ย่อย (SubPLOs) (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2565)

ผลลัพธ์การเรียนรู้ระดับหลักสูตร PLOs) และ ผลลัพธ์การเรียนรู้ย่อย (SubPLOs)
เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนในหลักสูตร ผู้สำเร็จการศึกษาจะสามารถ

PLOs

SubPLOs

1. วางแผนการพยาบาลและการผดุงครรภ์เพื่อให้การดูแลสุขภาพผู้รับบริการได้ ตามมาตรฐานการพยาบาลและการผดุงครรภ์ โดยประยุกต์ใช้ความรู้ทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ หลักฐานเชิงประจักษ์ นวัตกรรม ศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง จริยศาสตร์ กฎหมายวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

1.1 เชื่อมโยงความรู้ระหว่างศาสตร์ทางการพยาบาล วิทยาศาสตร์สุขภาพ สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหลักฐานเชิงประจักษ์ เพื่อวางแผนการพยาบาลและการผดุงครรภ์อย่างเป็นองค์รวม ทั้งระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน

1.2 วิเคราะห์ประเด็นปัญหาทางจริยธรรมและกฎหมายทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ที่พบบ่อย โดยใช้ทฤษฎีจริยศาสตร์และกฎหมายวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เพื่อประกอบการวางแผนการพยาบาลและการผดุงครรภ์

1.3 วางแผนการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ให้สอดคล้องกับปัญหาสุขภาพของผู้รับบริการอย่างเป็นองค์รวมได้ ตามมาตรฐานการพยาบาลและการผดุงครรภ์

1.4 ประเมินผลการปฏิบัติการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการให้การพยาบาล

1.5 ปรับปรุงแผนการพยาบาลให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของปัญหาและความต้องการด้านสุขภาพของผู้รับบริการได้อย่างต่อเนื่อง

1.6 ออกแบบนวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพการพยาบาลและการผดุงครรภ์

   

2.ปฏิบัติการพยาบาลและการผดุงครรภ์อย่างเป็นองค์รวม ตามมาตรฐานวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ระดับชาติและนานาชาติ หลักจริยธรรม และจรรยาบรรณเชิงวิชาชีพ กฎหมายวิชาชีพ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ความคุ้มค่าและคุ้มประโยชน์

 

2.1 ตรวจร่างกายผู้รับบริการได้อย่างถูกต้อง

2.2 เตรียมเครื่องมือในการทำหัตถการได้อย่างถูกต้อง โดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเหมาะสม

2.3 ทำหัตถการทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ตามที่หลักสูตรกำหนดได้อย่างถูกเทคนิคและปลอดภัย ทั้งในห้องปฏิบัติการพยาบาลและในหอผู้ป่วย

2.4 ให้การดูแลแก่ผู้รับบริการอย่างเป็นองค์รวม บนพื้นฐานของการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และการฟื้นฟูสุขภาพ ตามมาตรฐานการพยาบาลและการผดุงครรภ์ โดยคำนึงถึงหลักจริยธรรม กฎหมายวิชาชีพ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ความปลอดภัย หลักฐานเชิงประจักษ์ ความคุ้มค่า และคุ้มประโยชน์

   
3. สร้างงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพยาบาลและการผดุงครรภ์ โดยยึดถือและปฏิบัติตามจริยธรรมการวิจัย

สร้างงานวิจัยร่วมกันโดย

3.1 ระบุปัญหาวิจัยที่ต้องการเพื่อพัฒนาคุณภาพการพยาบาลและการผดุงครรภ์

3.2 ออกแบบงานวิจัยทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ โดยใช้แนวคิด หลักการ และทฤษฎีที่ได้มาจากการศึกษาบทความวิจัยและวิชาการที่เกี่ยวข้องอย่างมีวิจารณญาณ

3.3 ดำเนินการวิจัยเพื่อตอบปัญหาวิจัยที่กำหนดไว้

3.4 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพเบื้องต้นได้อย่างถูกต้องตามหลักสถิติในการวิจัย เพื่อสรุปผลตอบปัญหาวิจัยที่กำหนดไว้

3.5 สรุปงานวิจัยที่ผ่านการวิเคราะห์ วิพากษ์ อ้างอิงได้อย่างถูกต้องตามหลักจริยธรรมการวิจัยในทุกขั้นตอนของการสร้างผลงานวิจัย

   

4.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้และการปฏิบัติงานในบทบาทพยาบาลวิชาชีพ

4.1 สืบค้นข้อมูล ความรู้ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างรู้เท่าทันจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพื่อการเรียนรู้และการปฏิบัติงานในบทบาทพยาบาลวิชาชีพ

4.2 ผลิตสื่อเพื่อการถ่ายทอด แลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างถูกต้องเหมาะสม

4.3 จัดการข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้ในการวางแผนการพยาบาลและปฏิบัติการพยาบาล

4.4 แสดงออกถึงการมีคุณธรรมและจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการเรียนรู้และปฏิบัติงานในบทบาทพยาบาลวิชาชีพ

   

5. สื่อสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษ กับผู้รับบริการหรือผู้ร่วมงาน เพื่อการปฏิบัติงานในบทบาทพยาบาลวิชาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.1 ใช้วัจนภาษา (Verbal communication) และอวัจนภาษา (Nonverbal communication) เพื่อเก็บรวมรวมข้อมูลทางด้านสุขภาพได้อย่างถูกต้องครบถ้วน

5.2 ให้ความรู้ทางด้านสุขภาพแก่ผู้รับบริการ โดยคำนึงถึงความหลากหลายทางด้านอายุ เพศภาวะ เชื้อชาติ และวัฒนธรรม เพื่อสร้างแรงจูงใจในการดูแลสุขภาพได้

5.3 นำเสนอความรู้หรือผลงานวิชาการทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ได้ชัดเจนและได้มาตรฐานทางวิชาการ โดยใช้วิธีการ ช่องทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีดิจิทัล และสื่อต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม

5.4 สื่อสารกับผู้รับบริการและผู้ร่วมงานได้ชัดเจน ตรงตามวัตถุประสงค์ และมีเหตุผลทางวิชาการ ด้วยรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสมกับสถานการณ์

   

6. ทำงานเป็นทีมร่วมกับทีมพยาบาล และสหสาขาวิชาชีพ ในบทบาทที่เหมาะสม เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ

6.1 ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายจากกลุ่มได้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

6.2 ปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมกันในการทำงาน ตามบทบาทของตนเองทั้งในฐานะผู้นำและสมาชิกทีมได้อย่างเหมาะสม

6.3 เสนอความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ในการแก้ไขปัญหา ปรับปรุงงาน หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของกลุ่ม

6.4 เจรจาต่อรองได้ตามที่มุ่งหวัง เพื่อรักษาประโยชน์ของผู้รับบริการและงานที่รับผิดชอบ