บทสัมภาษณ์พิเศษ ศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ เปียซื่อ รองคณบดีฝ่ายสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และอาจารย์ สาขาวิชาการพยาบาลสุขภาพชุมชน เนื่องในโอกาสที่ได้รับรางวัลอาจารย์ตัวอย่างของสภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปี 2567 สาขารับใช้สังคม
ศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ เปียซื่อ รองคณบดีฝ่ายสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และอาจารย์ สาขาวิชาการพยาบาลสุขภาพชุมชน โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็น อาจารย์ตัวอย่าง (สาขารับใช้สังคม) ประจำปี 2567 จาก สภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- ศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ เปียซื่อ กล่าวถึงผลงานที่สร้างความโดดเด่นของท่าน ดังนี้ การทำงานร่วมกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง ในการจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้โมเดลการทำงานร่วมกันในชุมชน (Community Engagement Model) ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) การพัฒนาศักยภาพของประชาชนในชุมชน (Capacity building) 2) การพัฒนาเครือข่าย (Networking) และ 3) การทำงานร่วมกันในชุมชน (Community engagement) มี 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การสร้างความตระหนักของชุมชน (Raising Community Awareness) 2) การตั้งเป้าหมายร่วมกัน (Aiming at Target outcome) 3) การขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและนวัตกรรม (Mobilizing Change and innovation) และ 4) การรวมพลังอย่างต่อเนื่องเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน (Assuring Synergy and Sustainability) ที่พัฒนาขึ้น เพื่อเป็นต้นแบบโดยได้นำไปทดสอบและได้ผลเชิงประจักษ์ในการขับเคลื่อนชุมชนในภูมิภาคต่าง ๆ ตลอดจนใช้เป็นกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนการทำงานของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ภายใต้โครงการ “ฟาร์มสร้างสุขรามาธิบดี”
- นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ เปียซื่อ เป็นผู้ริเริ่มการพัฒนานวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยี 3-D scan และ AI ในการประเมินรอบน่องเพื่อคัดกรองภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย (sarcopenia) ในชุมชน โดยร่วมกับนักศึกษาและทีมสหวิชาชีพจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นในผู้สูงอายุ เพิ่มความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม ซึ่งนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นนี้ จะนำไปสู่ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่น่าเชื่อถือ และการจัดการปัญหาอย่างเป็นระบบเพื่อสร้างเสริมมวลกล้ามเนื้อและป้องกันการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ ท่านยังเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาการสร้างเสริมสุขภาพเคลื่อนที่ (Mobile Health Promotion) เป็นรถเคลื่อนที่พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์และสื่อต่าง ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของชุมชนในการสร้างเสริมสุขภาพเชิงรุก เป็นต้นแบบและขยายผลสู่ชุมชนอื่นหลายแห่ง รวมทั้ง การบูรณาการงานบริการวิชาการในชุมชนกับการเรียนการสอนมีความสำคัญอย่างยิ่ง การทำงานร่วมกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง และไม่เพียงแต่พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบูรณาการการเรียนการสอนในทุกระดับ ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้เชิงลึกที่เชื่อมโยงกับการปฏิบัติจริง และสามารถขยายผลสู่การพัฒนาบริการวิชาการในชุมชนต่อไป
- ศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ เปียซื่อ ได้กล่าวถึงแนวคิดในการทำงาน โดยยึดคำขวัญของมหาวิทยาลัยมหิดล “อัตตานัง อุปมัง กเร” หรือ “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” และการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นแนวทางในการทำงานที่มุ่งเน้นการพัฒนาความรู้และความสามารถเพื่อสุขภาวะของประชาชนในชุมชน ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาวสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
- ท้ายนี้ ศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ เปียซื่อ ได้กล่าวถึงความภาคภูมิใจ ในการได้รับรางวัลอาจารย์ตัวอย่าง “สาขารับใช้สังคม” ประจำปี 2567 ในครั้งนี้ว่า ได้รับเกียรติอย่างยิ่งและขอขอบคุณครูอาจารย์ที่บ่มเพาะให้สามารถ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และขอบคุณทีมผู้ร่วมงานทุกระดับ ภาคีเครือข่ายทีมสหวิชาชีพ หน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งชุมชนที่ร่วมเรียนรู้และทำงานเชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง ความภาคภูมิใจที่สำคัญคือ “การได้เป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน” และยังได้นำความรู้/ประสบการณ์มาใช้ในการเรียนการสอนและพัฒนานักศึกษาให้ได้เรียนรู้ในสถานการณ์จริง สามารถนำไปประยุกต์ใช้และบูรณาการในบริบทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้มุ่งมั่นพัฒนางานส่งผลกระทบต่อการดูแลสุขภาพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนและชุมชนต่อไป
———————————
ติดตามข้อมูลข่าวสารของโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ได้ที่
Website: https://www.rama.mahidol.ac.th/nursing/
———————————
ติดตามผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ได้ที่
Tiktok: https://www.tiktok.com/@ramanursechannel
Youtube: https://www.youtube.com/@RSoNFamiLyInsightNursing-cy4zx/
#พยาบาลรามาธิบดี #พยาบาลแห่งอนาคต #สู่ความยั่งยืนของสากล #อาจารย์ตัวอย่าง