ช้าน คือ “โรคความดันโลหิตสูง” วะฮ่าๆๆๆ อ๊า ฮ่าๆๆๆ
จะเสียงดังทำไม ??? เออนั่นสิ ???
เพราะชั้นเป็นวายร้ายหน้าใส ขึ้นชื่อเรื่องความแนบเนียนยังไงหละ
อยากรู้ไหมว่าทำไม? อิอิ
อยากรู้ก็ด้ายยยยยยยย…
เพราะคนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคนี้ “มักจะไม่รู้ตัวยังไง” หละ
ว้าว ว้าว ว้าววววว… เริ่มเห็นความเจ๋งเป้งละ ยังไง ยังไง อธิบายหน่อยสิ
เพราะชั้นมักจะไม่แสดงอาการอะไร จนคนป่วยนิ่งนอนใจ กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินแก้เสียแล้ว
ร้ายยยยยไหมหละ?
มีความร้ายยยยยยย!!
ก่อนอื่นขออธิบายเรื่องความดันโลหิตก่อนละกัน
“ความดันโลหิต” คือ แรงดันเลือดจากหัวใจที่สูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย
ความดันโลหิต ปกติแล้วต้องไม่เกิน120/80 มิลลิเมตรปรอทนะ! แต่ถ้าใครเกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอทหละก็…
ถือว่าเป็น “โรคความดันโลหิตสูง” เข้าให้แล้ว ฮิฮิฮิ
เราจะรู้ได้ยังไงว่าเรามีอาการของโรคความดันโลหิตสูงหนะหรอ ?
ส่วนใหญ่อาการมักไม่ปรากฏนั่นแหละ อาการที่พอจะสังเกตได้คือ ปวดมึนท้ายทอย ตึงบริเวณต้อนคอหลังตื่นนอน ในคนป่วยที่ความดันโลหิตสูงมากๆ อาจจะมีเลือดกำเดาไหล เหนื่อยง่าย และมีอาการตามัวได้ด้วย
ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงของโรคความดันโลหิตสูง ได้แก่ หลอดเลือดสมองตีบ/แตก อัมพาตหรือเสียชีวิตได้ ประสาทตาเสื่อม หัวใจโต เส้นเลือดหัวใจตีบ ไตวายเรื้อรัง
ดีมากกกกก… อธิบายแทนหมอเกือบหมดเลยที่เดียวเชียว ตามหาตัวตั้งนาน แอบมาซนอยู่ในแฟนเพจรามาแชนแนล นี่เอง
จ๊ากกกกกกกกกกกกก คุณหมอมา!!!
หมอขอเสริมต่อเลยว่า โรคความดันโลหิตสูง ถึงแม้รักษาไม่หาย แต่เราสามารถควบคุมโรคให้อยู่ในภาวะปกติได้
ด้วยการหลีกเลี่ยงการทานอาหารเค็ม ลดเครื่องปรุงต่างๆ น้ำปลา ซีอิ๊ว ผงชูรส ขนมทอดกรุบกรอบ อาหารที่ใส่ผงฟู เพราะอาหารเหล่านี้มีโซเดียมสูง จะส่งผลเสียต่อผู้เป็นโรคความดันโลหิต
หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง หลีกเลี่ยงอาหารหวานจัด งดบุหรี่ สุรา รวมถึงหลีกเลี่ยงเรื่องเครียดๆ ด้วยนะคะ
ทานผักผลไม้ให้มาก ออกกำลังกายและทานยาตามที่คุณหมอสั่ง เพียงเท่านี้ก็ควบคุมโรคไม่ให้กำเริบได้แล้ว
ถึงแม้ข้อห้ามจะเยอะ แต่สิ่งเหล่านี้จำเป็นต่อผู้ป่วยมากๆ เมื่อผู้ป่วยทำได้ครบถ้วน ก็จะสามารถ ใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างมีความสุข
นั่นไงเผลอแปบเดียว จะไปไหนอีกละหนะ…
มาให้จับไปตรวจเสียดีๆ ไม่ต้องหนีเลย ไหนวันนี้ความดันขึ้นไปเท่าไหร่แล้วคะ
ข้อมูลจาก
อ. พญ.แสงศุลี ธรรมไกรสร
ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล