เคล็ดลับการลดน้ำหนัก และรอบเอว
หน้าแรก
เคล็ดลับการลดน้ำหนัก และรอบเอว

เคล็ดลับการลดน้ำหนัก และรอบเอว

เคล็ดลับการลดน้ำหนัก และรอบเอว ต้องบริโภคอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ในแต่ละวัน แต่ไม่จําเป็นต้องบริโภคครบทั้ง 5 หมู่ ในแต่ละมื้อ ไม่ควรงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง แต่ควรลดปริมาณอาหาร หรือเปลี่ยนเป็นอาหารที่มีพลังงานต่ำแทน เคี้ยวอาหารช้าๆ ละเอียดๆ เพื่อให้ร่างกายย่อยได้ง่าย และบริโภคอาหารที่เป็นน้ำหรือดื่มน้ำบ่อยๆ ระหว่างรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารทอด ผัด และอาหารที่มี ไขมัน

ส่วนเกินรอบเอว

เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนอ้วนมาตั้งแต่เริ่มอ้วน หลายคนพยายามลด พยายามเลือกเสื้อผ้าและพยายามหลายๆ วิธีที่จะทำให้พุงของตนเองลดลง รวมไปถึงการควบคุมอาหารไขมัน หรือน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ ให้บริโภคอาหารที่ได้จากการต้ม นึ่งแทน ฯลฯ พร้อมกับการออกกำลังกายอย่างถูกหลัก เพื่อกระชับสัดส่วนได้ถูกที่ถูกจุด เราควรที่จะออกกําลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินอย่างน้อยประมาณ 30-60 นาทีต่อวัน และอย่างน้อย 5 วัน ต่อสัปดาห์ ซึ่งการเคลื่อนไหวออกกําลังกายในระดับปานกลางจะใช้พลังงานได้ถึงวันละ 150 กิโลแคลอรี เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม การออกกําลังกายไม่จําเป็นต้องเล่นกีฬาทุกอย่างแบบหักโหม เพียงแค่เพิ่มกิจวัตรประจําวันเล็กน้อยก็สามารถออกกําลังกายได้ เช่น ใช้บันไดแทนการใช้ลิฟต์เป็นต้น

นอกจากนี้การลดความอ้วนอย่างจริงจังจะต้องหาแนวทางการควบคุมอารมณ์และความรู้สึก สิ่งสําคัญ คือ

ต้องควบคุมสิ่งกระตุ้นทั้งจากภายใน และภายนอก พยายามตัดวงจร หรือพฤติกรรมที่ทําให้เกิดความรู้สึกหิว เบื่อหรือท้อแท้ซึ่งหากรู้สึกหิวให้เปลี่ยนอิริยาบถ หรือหากิจกรรมอื่นทําแทน เพียง 10 นาทีก็จะหายหิวได้

ที่สําคัญอย่าลืมว่าการป้องกันและลดภาวะอ้วนลงพุงจําเป็นต้องปฏิบัติทั้ง 3 อ. คือ

  • การควบคุมอาหาร
  • ออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • และควบคุมอารมณ์

บันได 7 ขั้น กระบวนการลดไขมันส่วนเกินให้ดียิ่งขึ้น ประกอบไปด้วย

  1. รู้ตน คือ รู้ว่าตัวเองมีภาวะอ้วนหรือไม่
  2. รู้นับ คือ รู้ว่าแต่ละวันรับประทานอะไรเข้าไป
  3. รู้แลก คือ รู้จักการแลกเปลี่ยนอาหารที่ไม่มีประโยชน์ให้เป็นประโยชน์
  4. รู้แผน คือ รู้จักวางแผนการบริโภค
  5. รู้ขยับ คือ รู้จักออกกําลังกายอย่างเหมาะสม
  6. รู้ทบทวน คือ รู้จักทบทวนติดตามผลจากการลดน้ำหนัก
  7. ชวนเปลี่ยนแปลง คือ เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นหรือไม่

ทั้งนี้ นพ.ฆนัท บอกอีกว่า เคล็ดลับการลดน้ำหนัก 7 ขั้นสามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ ด้วยวิธีวัดรอบพุง โดยเริ่มจากต้องถอดเสื้อออก และคลายเข็มขัดให้หลวม อยู่ในท่ายืนเท้า 2 ข้างห่างกันประมาณ 10 เซนติเมตร หาตําแหน่ง ขอบบนสุดของกระดูกเชิงกรานทั้ง 2 ข้าง ใช้สายวัด วัดรอบพุงโดยวัดขอบบนของกระดูกเชิงกรานทั้ง 2 ข้าง ที่สําคัญต้องวัดในช่วงหายใจออก โดยสายวัดแนบกับลําตัวไม่รัดแน่น และต้องให้สายวัดที่วัดรอบพุงอยู่ในแนวขนานกับพื้น ซึ่งหากรอบพุงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่เกิน 80 เซนติเมตรในเพศหญิง และไม่เกิน 90 เซนติเมตรในเพศชาย ถือว่าปลอดภัยไม่อยู่ในภาวะอ้วนลงพุง

 

ข้อมูลจาก
นพ.ฆนัท ครุธกูล
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ โรงพยาบาลรามาธิบดี
ในฐานะกรรมการเครือข่ายคนไทยไร้พุง
และผู้จัดการศูนย์หัวใจ หลอดเลือดและเมแทบอลิซึม
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปวดข้อเท้าสะสม เสี่ยง! ข้อเท้าเสื่อมก่อนวัย
อาการปวดข้อเท้าเรื้อรังอาจเป็นสัญญาณของข้อเท้าเสื่อมก่อนวัย หากไม่ดูแลอาจกระทบการเดินและการใช้ชีวิต รู้วิธีป้องกันและรักษาอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
30-06-2025

1

หยุด! อาการปวดส้นเท้า
อาการปวดส้นเท้าอาจเกิดจากรองช้ำหรือการใช้งานเท้าหนักเกินไป หากไม่ดูแลอาจเรื้อรัง รู้วิธีป้องกันและบรรเทาอาการอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
26-06-2025

3

มะเร็งลำไส้ โรคร้ายที่ไม่เลือกวัย
มะเร็งลำไส้ใหญ่พบได้ทุกวัย ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุ อาการแอบแฝง ตรวจพบเร็วช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิต รู้ทันสัญญาณเตือนและแนวทางป้องกัน
บทความสุขภาพ
25-06-2025

5

Get to know “H. pylori” before becoming a victim of stomach cancer
เชื้อเอชไพโลไร (H. pylori) อาจดูธรรมดาแต่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของมะเร็งกระเพาะอาหาร หากตรวจพบเร็วสามารถรักษาและป้องกันได้ทัน
บทความสุขภาพ
23-06-2025

1

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL