หน้าแรก
เรื่องของการปวดหัวข้างเดียว

เรื่องของการปวดหัวข้างเดียว

ปวดศีรษะเป็นอาการที่พบได้บ่อยมากที่สุด ไม่ว่าจะปวดแบบรุนแรงหรือปวดเพียงเล็กน้อยหรือปวดมากที่สุดแบบทุรนทุราย ในบางครั้งอาการปวดศีรษะไม่ว่าจะมีอาการปวดรุนแรงมากน้อยเพียงใดก็ตาม ต่างก็อาจเป็นสาเหตุที่อาจจะรุนแรงและมีอันตรายได้ในอนาคต

สาเหตุของการปวดศีรษะนั้น มีได้หลากหลายประการเริ่มต้นตั้งแต่

  1. มีความผิดปกติ ในเนื้อสมอง เช่น เนื้องอกในสมอง เส้นเลือดในสมองโป่งพอง
  2. มีความผิดปกติ นอกเนื้อสมอง เช่น โพรงจมูกอักเสบ, หูอักเสบ, สายตาผิดปกติ
  3. มีความตึงเครียดทางอารมณ์

ส่วนการรักษานั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุของการปวด อาการปวดศีรษะที่พบบ่อยและควรทราบเพื่อการปฏิบัติที่ถูกต้อง คือ

ปวดหัวข้างเดียว อย่างการปวดไมเกรน (Headaches, Migraine) ที่จะมีลักษณะเฉพาะคือ ปวดหัวข้างเดียว อย่างรุนแรง มักจะเริ่มปวดรอบ ๆ ลูกตาก่อน (ส่วนน้อยปวดทั้งสองข้างพร้อมกัน) ลักษณะการปวดจะปวดตุบ ๆ แปลบ ๆ เป็นระยะ ๆ

ก่อนเกิดอาการปวดจะมีอาการนำมาก่อนประมาณ 10 – 30 นาที เช่น คลื่นไส้ อาเจียน งุนงง วิงเวียน เห็นภาพซ้อน ตาไวต่อแสง พูดลำบาก (บางครั้งการอาเจียนทำให้อาการปวดศีรษะดีขึ้น)

สาเหตุการปวดศีรษะแบบไมเกรนนั้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน

แต่มีการศึกษาพบว่าเกิดจากการอักเสบหรือการระคายเคืองของเส้นเลือดที่บริเวณหนังศีรษะ ทำให้มีการหดตัวและขยายตัวของเส้นเลือดบริเวณดังกล่าว จึงเกิดอาการปวดศีรษะขึ้น และพบว่า 70 % ของผู้ที่ปวดศีรษะไมเกรนเป็นผู้หญิง ซึ่งมีความสัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนและการมีประจำเดือน หรือปัจจัยอื่น ๆ กรรมพันธุ์ก็มีความสำคัญมาก การมีประวัติปวดศีรษะในครอบครัว อาหารที่มีสารปรุงแต่งของผงชูรส สารกันบูด อาหารรมควัน ตับไก่ พืชตระกูลส้ม มะนาว ช็อคโกแลต เนยแข็ง ไวน์แดง กลิ่นคาว ๆ แสงจ้า ๆ และเสียงดัง เป็นต้น

ดังนั้นวันนี้เราจึงมีวิธีการหลีกเลี่ยงอาการปวดหัวไมเกรนมานำเสนอกัน ดังนี้

  1. สังเกตเรื่องอาหาร สิ่งแวดล้อม และอารมณ์ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดหัว
  2. เรียนรู้การจัดการความโกรธ และความเครียด
  3. เรียนรู้เทคนิคการผ่อนคลายที่จะช่วยขจัดความรุนแรงของการปวดหัว
  4. กำหนดการรับประทานอาหาร การนอน การออกกำลังกายให้เหมาะสม (เพื่อเกิดความสมดุลของร่างกาย)
  5. หากปวดนานจนผิดปกติ ๆ ควรไปพบแพทย์

 

ข้อมูลจาก
คุณสราญจิตต์ กาญจนาภา
หน่วยแนะแนวและปรึกษาปัญหาสุขภาพแผนกป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพ
โทร.02-201 – 1131
ภาควิชาพยาบาลศาสตร์
โรงพยาบาลรามาธิบดี

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

ก้อนที่คอ ใช่ไทรอยด์หรือไม่ เช็กให้ชัวร์
พบก้อนที่คอ อย่าชะล่าใจ อาจเป็นต่อมไทรอยด์โต ซีสต์ หรือก้อนเนื้ออื่น ๆ ตรวจให้ชัวร์เพื่อวางแผนรักษาอย่างถูกต้องและปลอดภัย
บทความสุขภาพ
26-07-2025

1

สะโพกเสื่อม ป้องกันอย่างไร
สะโพกเสื่อมทำให้ปวดสะโพก เดินลำบาก และกระทบการใช้ชีวิต รู้วิธีป้องกันด้วยการปรับพฤติกรรม ออกกำลังกาย และดูแลน้ำหนักให้เหมาะสม
บทความสุขภาพ
21-07-2025

4

รู้ก่อน รับมือได้…กับอาการปวดข้อศอก
อาการปวดข้อศอกอาจเกิดจากการใช้งานซ้ำซาก หรือโรคข้ออักเสบ หากปล่อยไว้เรื้อรังอาจกระทบการใช้งานแขน รู้ทันสาเหตุและแนวทางดูแลอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
14-07-2025

8

ปวดเข่าและข้อเข่าเสื่อม
ปวดเข่าและข้อเข่าเสื่อมเป็นปัญหาพบบ่อยในผู้สูงอายุ ส่งผลต่อการเดินและใช้ชีวิตประจำวัน รู้วิธีดูแล ป้องกัน และบรรเทาอาการอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
07-07-2025

17

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL