ชอบวีนเหวี่ยงเข้าข่าย โรคบุคลิกภาพแปรปรวน
หน้าแรก
ชอบวีนเหวี่ยงเข้าข่าย "โรคบุคลิกภาพแปรปรวน"

ชอบวีนเหวี่ยงเข้าข่าย "โรคบุคลิกภาพแปรปรวน"

เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอกับคนที่ชอบวีน ชอบเหวี่ยง ใช้อารมณ์แบบไม่มีเหตุผล โดยไม่สนใจว่าใครจะรู้สึกยังไงกับการกระทำของตนเอง โรคบุคลิกภาพแปรปรวน (Personality Disorders)  เป็นเรื่องของบุคลิกภาพ นิสัยใจคอของบุคคลนั้น โรคทางบุคลิกภาพที่เป็นการสั่งสมมาอย่างยาวนาน อาจเป็นมาตั้งแต่เด็กจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งลักษณะนิสัยเหล่านั้นอาจแสดงออกได้รุนแรงมากยิ่งขึ้น

อาการของโรคบุคลิกภาพแปรปรวน

จะมีลักษณะที่ไม่สามารถจัดการกับความคิดของตนเองได้ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ หรือไม่สามารถควบคุมสติให้อยู่ในระดับปกติได้ เมื่อมีสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต อารมณ์และจิตใจ จะกระทบต่อการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ทำให้เกิดปัญหา อาจส่งผลต่อตนเองและผู้อื่น แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่

  • กลุ่มแรก จะไม่ค่อยส่งผลกระทบต่อคนอื่น ลักษณะอาการคือเป็นคนที่ค่อนข้างแปลก มีวิธีคิดที่แตกต่างจากคนทั่วไป ขี้ระแวง ชอบคิดไปว่าคนอื่นจะคิดกับตัวเองอย่างไร หรือมีความกังวล บางคนมีความเชื่อทางไสยศาสตร์ คิดแปลกและยึดติด เมื่อคนอื่นอธิบายสิ่งที่ขัดค้านกับความคิดตนเองจะไม่รับฟัง กลุ่มนี้จะไม่รบกวนผู้อื่น เว้นแต่ว่าหากต้องร่วมงานกับผู้อื่น และด้วยความคิดที่แปลกก็อาจทำให้ผู้ร่วมงานทำงานได้ยาก
  • กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่มีการใช้อารมณ์รุนแรง ขี้วีน ขี้หเวี่ยง มีการแสดงออกทางอารมณ์มาก กลุ่มนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้อื่น เพราะหลายครั้งมีการด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง ทำให้ผู้อื่นเสียใจ หดหู่ หรือสูญเสียความมั่นใจ เป็นต้น
  • กลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มของคนที่มีภาวะวิตกกังกวล ย้ำคิดย้ำทำ ไม่กล้าเข้าหาคนอื่น คิดว่าทำแบบนี้จะดีหรือไม่ คนอื่นจะมองว่าไม่ดีหรือเปล่า วิตกกังวลมากเกินไป ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของตนเอง แต่จะไม่ส่งผลกระทบกับผู้อื่น

แต่โรคบุคลิกภาพแปรปรวนมักถูกใช้สับสนกับโรคอารมณ์สองขั้วหรือไบโพล่า ซึ่งมีภาวะ “อารมณ์แปรปรวน” ความแตกต่างของทั้งสองโรคนี้คือ

โรคบุคลิกภาพแปรปรวน เป็นเรื่องของบุคลิก นิสัย ใจคอ ที่ถูกปลูกฝังหรือสั่งสมมาตั้งแต่เด็ก ไม่เหมือนกับอารมณ์แปรปรวนที่เป็นเรื่องของอารมณ์ ซึ่งมาจากการทำงานผิดปกติของสมอง แต่โรคบุคลิกภาพแปรปรวน เกิดจากการเลี้ยงดู สิ่งแวดล้อมรอบตัว ฯลฯ

การรักษา

เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นนิสัยและบุคลิกภาพของบุคคลนั้น ทำให้การรักษาต้องใช้เวลาที่ยาวนาน เพราะอาจต้องปรับเปลี่ยนนิสัยของบุคคลนั้นไปเลย ปัจจัยเกิดจากตัวบุคคล ได้แก่ ยีนส์ สิ่งแวดล้อม เป็นต้น

บางครั้งอาจใช้ยาเพื่อควบคุมอารมณ์ไม่ให้เกรี้ยวกราดมากเกินไป ถ้าหากเกิดร่วมกันกับโรคหลงตัวเอง คนกลุ่มนี้เวลาโดนตำหนิจะสูญเสียความมั่นใจไปเลย และอาจมีอารมณ์หดหู่มากกว่าคนทั่วไป การใช้ยาก็จะช่วยรักษาสมดุลของภาวะอารมณ์ได้ดีขึ้น

วิธีป้องกัน

การเลี้ยงดูสำคัญมาก ควรเลี้ยงเด็กให้เติบโตมามีคุณภาพ ใกล้ชิด ปฏิสัมพันธ์ด้านบวก ทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อไม่ให้เด็กขาดความอบอุ่น พยายามมองข้อดีลูกบ้าง อย่าให้เด็กรู้สึกยังไม่ดีพอ

 

ข้อมูลจาก
รศ. นพ.ศิริไชย หงษ์สงวนศรี
ภาควิชาจิตเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ “รายการพบหมอรามา | ลัดคิวหมอ โรคบุคลิกภาพแปรปรวน” ได้ที่นี่

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

เจ็บส้นเท้าทุกครั้งที่ลุกเดินระวัง โรครองช้ำ
เจ็บส้นเท้าเวลาลุกเดินอาจเป็นสัญญาณโรครองช้ำ ภัยเงียบของคนที่ใช้เท้าหนักหรือยืนนาน หากละเลยอาจปวดเรื้อรัง รู้ทันอาการและวิธีป้องกัน
บทความสุขภาพ
25-09-2025

1

กินเห็ดหน้าฝน ระวัง! เห็ดพิษตัวร้าย แค่คำเดียวอาจถึงชีวิต
การกินเห็ดในหน้าฝนเสี่ยงอันตรายจากเห็ดพิษที่แยกยากจากเห็ดกินได้ เพียงคำเดียวอาจทำลายตับ ไต หรือถึงชีวิต ควรรู้จักวิธีเลือกและหลีกเลี่ยง
บทความสุขภาพ
24-09-2025

2

ข้อเท้าตก กระดกไม่ขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องข้อเท้า แต่สะดุด กระทบทุกจังหวะชีวิต
ข้อเท้าตกหรืออาการกระดกข้อเท้าไม่ขึ้น ไม่ใช่เพียงปัญหาข้อเท้า แต่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ หากไม่รักษาอาจสะดุดล้มบ่อย
บทความสุขภาพ
23-09-2025

2

RSV โรคฮิตในเด็กเล็กที่พ่อแม่ต้องรู้
RSV เป็นไวรัสที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ทำให้มีอาการไอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก และเสี่ยงปอดอักเสบ พ่อแม่ควรรู้วิธีป้องกัน สังเกตอาการ และรีบพบแพทย์
บทความสุขภาพ
22-09-2025

2

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL