ไอโอดีน สารอาหารที่ร่างกายขาดไม่ได้
หน้าแรก
"ไอโอดีน" สารอาหารที่ร่างกายขาดไม่ได้

"ไอโอดีน" สารอาหารที่ร่างกายขาดไม่ได้

การขาดสารไอโอดีนไม่ใช่แค่ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคคอพอกเท่านั้น แต่ยังมีความเสี่ยงอื่นๆ จากผลสำรวจของกระทรวงสาธารณสุข ในปี พ.ศ.2552 พบว่าเด็กไทยมี IQ ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากล เพราะขาดสารไอโอดีน ทำให้เกิดความพิการทางสติปัญญา

ทั้งยังมีงานวิจัยพบว่า หากทดสอบเชาว์ปัญญาของเด็กที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่ขาดสารไอโอดีนเปรียบเทียบกับเด็กที่อยู่ในบริเวณที่ไม่ขาดสารไอโอดีน จะพบว่าเด็กกลุ่มแรกมีเชาว์ปัญญาน้อยกว่าเด็กกลุ่มหลังตามลำดับ ถึงแม้ว่าเด็กกลุ่มแรกจะมีลักษณะภายนอกปกติทุกอย่าง

ในอดีตส่วนใหญ่ผู้ที่ขาดสารไอโอดีนมักอยู่ในท้องถิ่นทุรกันดารหรือในพื้นที่ที่ดินไม่มี เกลือไอโอดีน

เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคเหนือ ซึ่งโรคดังกล่าวมีมานานมากแล้ว แต่พบจริงๆ เมื่อประมาณ 50-60 ปีที่แล้ว เบื้องต้นประชาชนจะเข้าใจว่าการขาดสารไอโอดีนทำให้เกิดคอพอก ซึ่งโรคคอพอกคือการที่ต่อมไทรอยด์โตเมื่อขาดสารไอโอดีน โดยต่อมไทรอยด์ที่โตขึ้นจะถูกเรียกว่าคอพอก เพราะไอโอดีนเป็นฮอร์โมนที่สร้างจากต่อมไทรอยด์ หรือเรียกว่าไทรอยด์ฮอร์โมนมีไอโอดีนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญนั่นเอง

ช่วงแรกๆ หลายคนจะเข้าใจว่าไอโอดีนทำให้เกิดคอพอก อีกทั้งยังขาดความเข้าใจที่สำคัญไปอีกประเด็นหนึ่ง นั่นคือการบกพร่องทางสติปัญญา แม้สถานการณ์ไอโอดีนจะดีขึ้น จากการสำรวจอาการคอพอกในเด็กนักเรียนที่ลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 5 แต่เมื่อสำรวจไอโอดีนในปัสสาวะ ปรากฏว่ายังต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานอยู่

สิ่งสำคัญที่จะได้รับผลกระทบต่อการขาดสารไอโอดีนมากที่สุด คือ

ทารกที่อยู่ในครรภ์มารดา เพราะฉะนั้นสตรีมีภรรค์จึงเป็นกลุ่มคนสำคัญที่จะต้องมีโภชนาการและไอโอดีนที่เพียงพอ และอีกวัยหนึ่งคือหญิงวัยเจริญพันธุ์ เพราะเป็นวัยที่พร้อมจะตั้งครรภ์และก่อนที่จะตั้งครรภ์ควรมั่นใจว่าได้รับโภชนาการและไอโอดีนที่เพียงพอแล้วจากการรับประทาน ดังนั้นจึงควรรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนสามารถขาดสารไอโอดีนได้ตลอดเวลา ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เพียงพอ

คณะกรรมการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติจึงต้องมีมาตรการให้ประชาชนได้บริโภคสารไอโอดีนอย่างทั่วถึง

ซึ่งได้มีการผลิตเครื่องผสมเกลือไอโอดีนที่ได้มาตรฐาน และได้มีการกระจายไปยังโรงงานการผลิตต่างๆ ตลอดจนการควบคุมคุณภาพของการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนในระดับโรงงาน ทำให้ปัจจุบันคุณภาพของเกลือเสริมไอโอดีนดีขึ้นตามลำดับ แต่ก็ควรเฝ้าระวังในทุกๆ วัน กระบวนการผลิตจึงจะได้มาตรฐาน

นอกจากนี้เราต้องเฝ้าระวังเรื่องการใช้เกลือเสริมไอโอดีนในครัวเรือน รวมทั้งส่งเสริมการกระจายที่ครอบคลุมทั่วถึง เช่นใน อาหารทะเล ซีอิ้ว น้ำปลา หรือยาเม็ดเสริมไอโอดีนในสตรีมีครรภ์ ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้ในปัจจุบัน สิ่งที่ดีที่สุดคือความเข้าใจของประชาชนโดยเฉพาะสตรีมีครรภ์มารดา และต้องระวังไม่ให้เกิดโรคขาดสารไอโอดีน และให้โรคนี้หมดสิ้นไปในประเทศไทย

 

ข้อมูลจาก
ศ.เกียรติคุณ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน
ที่ปรึกษาด้านบริหาร
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข


คลิกชมคลิปรายการ “รายการพบหมอรามา | Meet the Expert คนไทยต้องไม่ขาดไอโอดีน” ได้ที่นี่

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

รู้ทัน ถุงน้ำในตับอ่อน เสี่ยงทุกวัย ไม่เลือกเพศ
ถุงน้ำในตับอ่อนเป็นโรคเงียบที่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย อาจไม่มีอาการแต่เสี่ยงกลายเป็นมะเร็ง รู้ทันเพื่อวางแผนตรวจและรักษาอย่างทันท่วงที
บทความสุขภาพ
29-05-2025

9

แพทย์เตือน ! ห้าม ล้างไก่สด ก่อนปรุง
การล้างไก่สดก่อนปรุงอาจกระจายเชื้อแบคทีเรียอย่างแคมไพโลแบคเตอร์ไปยังอ่างล้างจานและเครื่องครัว เสี่ยงปนเปื้อนอาหารและทำให้เกิดโรคท้องร่วง
บทความสุขภาพ
28-05-2025

11

โรคพยาธิในช่องคลอด-ภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในร่างกายผู้หญิง
โรคพยาธิในช่องคลอดเกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัว มักมีอาการตกขาวมีกลิ่น คัน แสบ หากไม่รักษาอาจลุกลามและส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง
บทความสุขภาพ
25-05-2025

8

ปานสีน้ำตาล-ภาวะผิวผิดปกติที่พบได้ตั้งแต่กำเนิด
ปานสีน้ำตาลเกิดจากเม็ดสีผิวผิดปกติ อาจเป็นเพียงความสวยงามตามธรรมชาติหรือสัญญาณโรคร้าย ควรหมั่นสังเกตขนาด สี และรูปร่างที่เปลี่ยนแปลง
บทความสุขภาพ
22-05-2025

6

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL