ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมี ฟัน สวย ยิ้มใส คือเสน่ห์ที่สร้างความประทับใจให้ผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี การ จัดฟัน จึงกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาฟันไม่สวยแล้ว ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจ และสร้างบุคลิกภาพที่ดีได้อีกด้วย
การจัดฟันคืออะไร
การจัดฟัน คือ การจัดเรียงฟัน รวมทั้งขากรรไกรที่อยู่ผิดตําแหน่งให้กลับมาอยู่ในตําแหน่งที่ถูกต้อง โดยมีเป้าหมาย 3 อย่าง ได้แก่
- เพื่อให้บดเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น ฟันที่สบได้ไม่ดีอาจมีผลต่อการเคี้ยวอาหาร การจัดฟันช่วยทำให้ฟันสบกัน และเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น
- เพิ่มความสวยงาม เมื่อจัดฟันแล้วฟันจะเรียงตัวสวยขึ้น ส่งผลต่อความมั่นใจ ช่วยสร้างบุคลิกภาพที่ดี
- ช่วยให้ทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้น ฟันที่เรียงตัวไม่เป็นระเบียบมักยากต่อการทำความสะอาด และอาจเกิดฟันผุได้ง่าย ทันตแพทย์มักแนะนำให้คนไข้จัดฟัน เนื่องจากเป็นเคสที่คนไข้ส่วนมากมักไม่รู้ตัว
ใครบ้างที่ควรจัดฟัน
- คนที่มีฟันซ้อน เก ฟันเบียดแน่น ฟันห่าง ที่ยากต่อการแปรงฟัน หรือชอบมีเศษอาหารติดตามซอกฟัน
- คนที่ฟันสบกันไม่พอดี เช่น มีฟันสบลึก คือฟันล่างคร่อมบน หรือมีฟันสบอ้า คือมีช่องว่างระหว่างฟันหน้าบนกับฟันหน้าล่าง ทําให้กัดเส้นก๋วยเตี๋ยวไม่ได้
- คนที่ต้องการมีฟันสวย คนไข้บางรายอาจมีฟันซ้อนหรือเกเพียงเล็กน้อย แต่รู้สึกไม่มั่นใจ การจัดฟันทำให้ฟันเรียงตัวสวยขึ้น ช่วยปรับบุคลิกภาพ เพิ่มความมั่นใจได้
ช่วงอายุที่เหมาะสำหรับการจัดฟัน
อายุที่เหมาะสมในการจัดฟันคือ ช่วงวัยรุ่นอายุ 14 ปีขึ้นไป จนถึงวัยทำงานตอนต้น เพราะการจัดฟันเมื่อกระดูกยังอ่อนทำได้ง่ายกว่าในวัยผู้ใหญ่ ในคนไข้เด็กที่พบความผิดปกติ ทันตแพทย์มักแนะนำให้จัดฟันตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจทำได้ตั้งแต่อายุ 8 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตามผู้ใหญ่สามารถจัดฟันได้เช่นเดียวกัน แต่อาจใช้ระยะเวลานานกว่า เพราะฟันเคลื่อนได้ช้ากว่า
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาในการจัดฟัน
- ความยากง่าย คนไข้ที่พบความผิดปกติมากต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไขนาน จากเดิมในเคสทั่วไปโดยเฉลี่ย 2-3 ปี อาจต้องใช้เวลามากถึง 4-5 ปีก็เป็นได้
- อายุของคนไข้ อายุมีผลต่อการเคลื่อนของฟัน การจัดฟันในเด็กทำง่ายกว่าในวัยผู้ใหญ่
- ความร่วมมือของคนไข้ คนไข้ต้องมาพบทันตแพทย์ทุกเดือนเพื่อตรวจเช็กความผิดปกติต่าง ๆ รวมถึงการเปลี่ยนยางและลวด อีกทั้งยังต้องรักษาความสะอาดของปากและช่องฟัน รวมถึงเครื่องมือจัดฟันอย่างดีด้วย
- ความสามารถของทันตแพทย์ การเลือกทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญช่วยให้วางแผนการรักษาได้ดี และบรรลุเป้าหมายได้เร็ว
4 ความเชื่อเรื่องการ จัดฟัน
หลายคนอาจเคยได้ยินความเชื่อที่แชร์ต่อกันมาเกี่ยวกับการจัดฟัน ความเชื่อเหล่านี้เรื่องไหนจริงหรือหลอก
ความเชื่อที่ 1 จัดฟันทำให้หน้าเรียวเล็กลง
ความเชื่อนี้จริงบางส่วน เพราะสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าคนเราดูใหญ่มี 3 อย่างด้วยกัน คือ กระดูก กล้ามเนื้อ และไขมัน การจัดฟันส่งผลต่อกล้ามเนื้อบดเคี้ยวเป็นหลัก คนไข้อาจเคี้ยวอาหารได้น้อยลง ใบหน้าจึงดูเรียวขึ้นจากกล้ามเนื้อที่เล็กลง แต่ไม่ได้ส่งผลต่อกระดูกหรือไขมันแต่อย่างใด
ความเชื่อที่ 2 จัดฟันตอนเด็กได้ผลดีกว่าผู้ใหญ่
ความเชื่อนี้จริง ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้ใหญ่ไม่สามารถจัดฟันได้ การจัดฟันในเด็กมักได้ผลเร็วกว่า เนื่องจากกระดูกยังอ่อน ฟันจึงเคลื่อนได้เร็ว หากผู้ใหญ่จัดฟันต้องใช้ระยะเวลานานกว่า
ความเชื่อที่ 3 จัดฟันทำให้ผอมลง
ความเชื่อนี้ไม่จริง คนที่จัดฟัน แต่ยังรับประทานเยอะเป็นปกติอาจทำให้อ้วนได้ บางรายน้ำหนักขึ้นหลังจัดฟัน เพราะเลี่ยงไปรับประทานอาหารอ่อน ของหวานจำพวกเบเกอรี ขนมปัง แทนที่จะรับประทานอาหารตามปกติ
ความเชื่อที่ 4 จัดฟันที่ไหนก็ได้ ไม่อันตราย
ความเชื่อนี้ไม่จริง การจัดฟันกับคนที่ไม่ใช่ทันตแพทย์ทำให้ฟันเรียงตัวผิดรูป หรือเกิดฟันผุได้ ควรเลือกจัดฟันกับทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 2 ปี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการรักษา
คําแนะนําในการดูแลช่องปากเมื่อ จัดฟัน
- ดูแลรักษาความสะอาดช่องปาก ควรดูแลความสะอาดให้มากกว่าปกติ โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้เหล็กจัดฟันติดแน่น เพราะเครื่องมือจัดฟันทำให้แปรงฟันได้ยากขึ้น จากเดิมที่เคยแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง อาจเพิ่มเป็น 3 ครั้งในตอนกลางวันก็ได้
- มาพบทันตแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ ควรพบทันตแพทย์อย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อตรวจเช็ก และปรับเครื่องมือให้แรงเคลื่อนฟันอย่างต่อเนื่อง
- ระมัดระวังไม่ให้เครื่องมือหลุดเสียหาย หากคนไข้รับประทานอาหารไม่ระวัง เหล็กอาจหลุดออกมาได้ ทำให้ฟันเคลื่อนสะเปะสะปะ ส่งผลให้การรักษาช้าลง
- ใส่รีเทนเนอร์เมื่อจัดฟันเสร็จ การใส่รีเทนเนอร์เป็นการคงสภาพฟันไว้ตามเดิม ระยะเวลานานแค่ไหนขึ้นอยู่กับทันตแพทย์เป็นผู้พิจารณา บางเคสอาจต้องใส่ตลอดชีวิต
หากพบความผิดปกติของ ฟัน ที่ส่งผลต่อการรับประทานอาหาร การใช้ชีวิต หรือความมั่นใจ ควรปรึกษาทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาต่อไป
ข้อมูลจาก
ทพญ.วรรธิดา จิตตานนท์
ฝ่ายทันตกรรม
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
อย่าลืมกดติดตามช่อง Rama Channel ที่น่าสนใจอีกมากมายได้ที่
Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: https://www.youtube.com/RamachannelTV
Facebook : https://www.facebook.com/ramachannel