โรคไวรัสตับอักเสบซี
ติดต่อกันผ่าน เลือดหรือสารคัดหลั่ง ของผู้ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบซีด้วยช่องทางดังนี้
- ความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสจากหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไปสู่ทารกในครรภ์อยู่ที่ประมาณ 5%
- ไม่ติดต่อทางการกอด จูบ ไอ จามการกินอาหารที่ใช้อุปกรณ์การกินอาหารร่วมกันหรือการสัมผัสไม่ปนเปื้อนเลือด
สาเหตุ
- เพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน
- ใช้เข็มฉีดยาเสพติด
- รับเลือดหรืออวัยวะก่อนปี พ.ศ. 2535
- สักหรือเจาะร่างกายด้วยอุปกรณ์ที่ทำความสะอาดไม่เหมาะสม
อาการ
- ระยะเฉียบพลัน
- เป็นไข้
- รู้สึกอ่อนเพลีย
- ตัวตาเหลือง
- ระยะเรื้อรัง มักไม่มีอาการ ยกเว้นมีภาวะแทรกซ้อน เช่น
- ท้องมาน
- น้ำหนักลดหากมีมะเร็งตับ
การตรวจวินิจฉัย
ผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น มีประวัติใช้เข็มฉีดสารเสพติด ควรได้รับการตรวจคัดกรองซ้ำ ด้วยการตรตรวจเลือด “anti-HCV หรือ HCV antibody” แนะนำคัดกรองด้วยการตรวจ anti-HCV อย่างน้อย 1 ครั้งในผู้ที่มีที่มีความเสี่ยงและผู้ที่เกิดก่อนปี 2535
ใช้ชีวิตอยู่กับโรค จำเป็นต้องได้รับวัคซีนบางชนิดหรือหลีกเลี่ยงสารที่อาจเป็นอันตรายต่อตับ
- การตรวจคัดกรองทำเมื่อเป็นตับเเข็ง
- ตรวจเส้นเลือดขอดที่หลอดอาหารด้วยการส่องกล้อง
- หามะเร็งตับด้วยการทำอัลตราซาวนด์และเจาะเลือด
การรักษา ปัจจุบันเป็นยากิน 3 เดือน หายขาดมากกว่า 95%
- วัคซีน
- ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบซีแต่ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรค ไวรัสตับอักเสบเอและมีรวมถึงวัคซีนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
- หลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำลายตับ
- ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ภาวะน้ำหนักเกิน
- การสูบบุหรี่
- ยาบางชนิด
- ผลิตภัณฑ์สมุนไพร
รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ – ลัดคิวหมอ – เลี่ยงไวรัสซี สุขภาพดีป้องกันได้ 23/07/67 | by RAMA Channel
ข้อมูลจาก
อ. พญ.ศุภมาส เชิญอักษร
สาขาวิชาโรคทางเดินอาหารและตับ ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
บริการด้านอื่น ๆ ของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
Website: https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/
Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Facebook: https://www.facebook.com/ramachannel
Line: https://page.line.me/ramathibodi