อาการปวดไหล่เรื้อรัง สัญญาณเตือน ภาวะเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด
หน้าแรก
อาการปวดไหล่เรื้อรัง สัญญาณเตือน ภาวะเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด

อาการปวดไหล่เรื้อรัง สัญญาณเตือน ภาวะเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด

อาการปวดไหล่เรื้อรัง ถือเป็นปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยในคลินิกส่งผลให้ผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าวเกิดทุพพลภาพมีคุณภาพชีวิตที่ลดลงไม่สามารถใช้งานไหล่และแขนได้เหมือนปกติในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ คือ ภาวะเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด (rotator cuff tear) เป็นอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเส้นเอ็นหัวไหล่ 4 เส้น ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของต้นแขน ทำให้เราสามารถยก หมุน และขยับแขนได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อเกิดการฉีกขาดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฉีกบางส่วนหรือฉีกขาดแบบเต็มความหนา ส่งผลให้มีอาการปวดไหล่เรื้อรัง ความสามารถในการเคลื่อนไหวแขนลดลง และอาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง

เส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด (rotator cuff tear) คืออะไร

เส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด (rotator cuff tear) คืออะไร

เส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด (rotator cuff tear) คือภาวะบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเส้นเอ็นหลัก 4 มัด ที่ช่วยให้ข้อไหล่สามารถหนุนและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการยกแขน การหมุน หรือการเคลื่อนไหวแบบเหนือศีรษะ เมื่อเส้นเอ็นเหล่านี้เกิดการฉีกขาด ไม่ว่าจะเป็นการฉีกแบบบางส่วนหรือฉีกขาดเต็มความหนา ผลที่ตามมาคืออาการปวด เจ็บ และข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวของแขนด้านที่บาดเจ็บ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มได้แก่

เส้นเอ็นไหล่ฉีกขาดจากอุบัติเหตุ

เกิดจากการกระแทกหรือกระชากบริเวณหัวไหล่หรือเหวี่ยงแขนแรง ๆ อาจเกิดได้ในกลุ่มผู้ป่วยได้ทุกช่วงอายุ

เส้นเอ็นไหล่ฉีกขาดจากความเสื่อมของอายุ

เป็นกลุ่มที่พบได้บ่อย โดยส่วนใหญ่จะเจอในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป แม้ไม่ได้เกิดการกระแทกที่ไหล่โดยตรง เพียงใช้งานในชีวิตประจำวันก็สามารถทำให้เกิดการฉีกขาดได้

อาการเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด

อาการเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด

ผู้ที่มีภาวะเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด (rotator cuff tear) อาการที่พบบ่อย ได้แก่

  • ปวดบริเวณหัวไหล่ อาจร้าวไปบริเวณต้นคอ หรือ ต้นแขน 
  • ข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว รู้สึกยกแขนขึ้นได้ไม่สุด หรือหมุนข้อไหล่ได้ยาก รู้สึกเจ็บหรือมีอาการติดขัดขณะเอื้อมแขนในบางทิศทาง หรือ ทำกิจกรรมบางอย่าง
  • อ่อนแรง รู้สึกไม่มีแรงยกแขนทำกิจวัตรประจำวัน หรือยกได้ไม่สุดต้องใช้มืออีกข้างช่วยยก

หากพบอาการดังกล่าวติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน หรือมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม

ปัจจัยเสี่ยง เส้นเอ็นหัวไหลฉีกขาด

  1. การใช้งานซ้ำ ๆ และเกินกำลัง ผู้ที่ใช้งานข้อไหล่มาก ๆ เช่น นักกีฬาเทนนิส นักเบสบอล หรือผู้ใช้แรงงานที่ต้องยกแขนขึ้นหรือเหวี่ยงแขนซ้ำ ๆ มีโอกาสสูงในการเกิดความสึกหรอของเส้นเอ็น
  2. อุบัติเหตุหรือบาดเจ็บฉับพลัน การล้มหัวไหล่กระแทกพื้นหรือใช้แขนยันพื้น หรือการกระชากอย่างรุนแรง สามารถทำให้เส้นเอ็นไหล่ฉีกขาดแบบเฉียบพลัน
  3. ความเสื่อมตามอายุ เมื่ออายุมากขึ้น เนื้อเยื่อเอ็นและกล้ามเนื้อจะเสื่อมลง จึงมีโอกาสฉีกขาดได้ง่ายขึ้น แม้ไม่ได้ใช้เกิดอุบัติเหตุกับหัวไหล่ก็ตาม

การรักษาเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด

  • อาการในระยะแรก เช่น อาการอักเสบ และอาการปวด จะรักษาด้วยการใช้ยาลดการอักเสบและให้ผู้ป่วยเปลี่ยนกิจกรรมหลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการอักเสบ และทำกายภาพ หากปวดมากแพทย์อาจพิจารณาฉีดยาเพื่อลดอาการอักเสบในผู้ป่วยบางราย
  • เส้นเอ็นฉีกขาดมากหรือรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วอาการไม่ดีขึ้น แพทย์จะพิจารณาทำการผ่าตัดด้วยวิธีการผ่าตัดส่องกล้องเพื่อเย็บเส้นเอ็นที่ฉีกขาดให้กลับมาอยู่ตำแหน่งเดิม ในกรณีที่ฉีกขาดเยอะไม่สามารถผ่าตัดเย็บได้ ก็จะมีวิธีการผ่าตัดแก้ไขรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้งานหัวไหล่ได้ใกล้เคียงปรกติหรือมีอาการเจ็บปวดลดลง

ข้อดีของการผ่าตัดส่องกล้อง

  • แผลผ่าตัดขนาดเล็ก เพียง 1 cm. 3-4 แผล
  • ฟื้นตัวเร็วกว่าการผ่าตัดแบบแผลเปิด
  • ลดอาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่ออ่อนข้างเคียง
  • มองเห็นรายละเอียดผ่านกล้องชัดเจน
  • หยุดพักงาน 1-2 สัปดาห์

การป้องกันอาการเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด

  1. การออกกำลังกายที่เหมาะสม การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อไหล่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และใช้เทคนิคการเล่นกีฬาหรือยกของที่ถูกต้อง
  2. หลีกเลี่ยงการใช้ข้อไหล่เกินกำลัง พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องยกแขนสูงซ้ำ ๆ หรือยกของหนักเกินความสามารถ
  3. ปรับท่าทางในชีวิตประจำวัน การปรับท่านั่ง ท่ายืน และการยกของให้ถูกวิธี จะช่วยลดแรงกดและลดความเสี่ยงในการเกิดอาการฉีกขาด

ภาวะเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด เป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวและการใช้ชีวิตประจำวัน หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม อาจก่อให้เกิดอาการเรื้อรังและลดคุณภาพชีวิต การรู้จักสาเหตุ อาการ การตรวจวินิจฉัย และแนวทางการรักษาที่หลากหลาย ทั้งการพัก การกายภาพบำบัด ยา หรือการผ่าตัด รวมถึงการป้องกันเบื้องต้นด้วยการปรับพฤติกรรมและออกกำลังกายอย่างถูกต้อง ล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูสุขภาพข้อไหล่ให้กลับมาแข็งแรงและใช้งานได้ตามปกติอีกครั้ง

 

ข้อมูลโดย

รศ. นพ.สรวุฒิ ธรรมยงค์กิจ 

ศัลยกรรมกระดูกและข้อ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์

 

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 

Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: RAMA Channel
Facebook: รามาแชนแนล Rama Channel
LINE: Ramathibodi
Tiktok: ramachanneltv รามาแชนแนล ช่องของคนรักสุขภาพ

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

กินเห็ดหน้าฝน ระวัง! เห็ดพิษตัวร้าย แค่คำเดียวอาจถึงชีวิต
การกินเห็ดในหน้าฝนเสี่ยงอันตรายจากเห็ดพิษที่แยกยากจากเห็ดกินได้ เพียงคำเดียวอาจทำลายตับ ไต หรือถึงชีวิต ควรรู้จักวิธีเลือกและหลีกเลี่ยง
บทความสุขภาพ
24-09-2025

0

ข้อเท้าตก กระดกไม่ขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องข้อเท้า แต่สะดุด กระทบทุกจังหวะชีวิต
ข้อเท้าตกหรืออาการกระดกข้อเท้าไม่ขึ้น ไม่ใช่เพียงปัญหาข้อเท้า แต่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ หากไม่รักษาอาจสะดุดล้มบ่อย
บทความสุขภาพ
23-09-2025

0

RSV โรคฮิตในเด็กเล็กที่พ่อแม่ต้องรู้
RSV เป็นไวรัสที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ทำให้มีอาการไอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก และเสี่ยงปอดอักเสบ พ่อแม่ควรรู้วิธีป้องกัน สังเกตอาการ และรีบพบแพทย์
บทความสุขภาพ
22-09-2025

0

โรคทางเดินอาหาร จับสัญญาณปวดท้องที่ควรระวัง
โรคทางเดินอาหารมีสัญญาณเตือนที่มักเริ่มจากอาการปวดท้อง หากละเลยอาจนำไปสู่ภาวะรุนแรง เช่น แผลในกระเพาะ ลำไส้อักเสบ หรือมะเร็งลำไส้
บทความสุขภาพ
20-09-2025

2

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL