นิ่วในไต เป็นอีกโรคหนึ่งที่พบได้มากในคนวัยทำงาน แม้จะมีสาเหตุจากปัจจัยหลายอย่าง แต่พฤติกรรมแบบไหนจะยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงโรคนี้มากขึ้น
หน้าแรก
สาเหตุของ นิ่วในไต

สาเหตุของ นิ่วในไต

นิ่ว คือ ก้อนหินหรือเกลือแร่ที่ตกตะกอนในทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่วในไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ โดยมากมักเป็นเกลือแร่แคลเซียม 

สาเหตุของนิ่วในไต

นิ่วในไตเกิดขึ้นเมื่อในปัสสาวะมีสารบางอย่าง เช่น แคลเซียม ออกซาเลต กรดยูริก ในระดับที่สูง หรือเมื่อดื่มน้ำน้อยเกินไป ผลึกเล็ก ๆ จากสารเหล่านี้จะก่อตัว ตกตะกอนและโตอยู่ในไต 

อาการของนิ่วในไต

ปัสสาวะแล้วเจ็บ แสบ ขัด ปวดที่ท่อไต เอว หรือท่อปัสสาวะ หากมีการติดเชื้อรุนแรงจะมีอาการปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นหนอง มีไข้ แล้วเกิดภาวะไตวายได้ 

นิ่วในไตเป็นอีกโรคหนึ่งที่พบได้มากในคนวัยทำงาน แม้จะมีสาเหตุจากปัจจัยหลายอย่าง แต่พฤติกรรมแบบไหนจะยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงโรคนี้มากขึ้น

ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงโรค นิ่วในไต

  1. ชอบกลั้นปัสสาวะนาน ๆ การกลั้นปัสสาวะทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้ง่าย เมื่อแบคทีเรียเติบโตแล้วเกิดการติดเชื้อจะมีการตกตะกอนของเกลือแร่ต่าง ๆ ในปัสสาวะได้มากขึ้น โอกาสเกิดเป็นนิ่วในไตจึงสูงกว่าคนปกติ
  2. ดื่มน้ำน้อย การดื่มน้ำน้อยทำให้ปัสสาวะเข้มข้น เมื่อปัสสาวะเข้มข้น เกลือแร่โดยเฉพาะแคลเซียมหรือหินปูนจะตกตะกอนกลายเป็นก้อนนิ่วได้ง่ายขึ้น เกิดเป็นนิ่วในไตหรือนิ่วในท่อปัสสาวะ
  3. ผู้ชายเสี่ยงเป็นนิ่วในไตมากกว่าผู้หญิง จากสถิติแล้วผู้ชายมีโอกาสเป็นนิ่วมากกว่าผู้หญิง 2 เท่า จากหลายปัจจัยด้วยกัน
    • ผู้ชายมักจะดื่มน้ำน้อยกว่าผู้หญิง การดื่มน้ำน้อยทำให้หินปูน เกลือแร่ต่าง ๆ ตกตะกอนเป็นนิ่วได้ง่าย
    • ผู้ชายมักกินอาหารที่มีโปรตีนค่อนข้างสูง ทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรด เมื่อเลือดเป็นกรดจะทำให้แคลเซียมออกมาจากกระดูกและปัสสาวะ แล้วตกตะกอนเป็นหินปูนกลายเป็นนิ่ว
    • ผู้ชายกินเค็มมากกว่าผู้หญิง เมื่อมีโซเดียมในปัสสาวะมาก ร่างกายจะขับแคลเซียมในปัสสาวะออกมา จึงมีโอกาสเกิดนิ่วจากแคลเซียมมากขึ้น
  1. ชอบกินวิตามิน อาหารเสริม การกินวิตามินซีมากกว่า 1,000 มิลลิกรัม/วัน จะทำให้เกิดสารออกซาเลตในปัสสาวะมากขึ้น เมื่อไปจับกับแคลเซียมหรือหินปูนจะตกตะกอนเป็นแคลเซียมออกซาเลต แล้วเกิดนิ่วในไต เด็กหรือผู้ใหญ่ที่กินวิตามินซีเสริมจึงควรกินเท่าที่จำเป็น โดยกินไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัม/วัน เพื่อลดโอกาสการเกิดนิ่วในไต

 ตรวจคัดกรองนิ่วทำได้ไหม

คนส่วนมากมักไปพบหมอเมื่อมีอาการแล้ว แต่หากยังไม่มีอาการ บางครั้งอาจพบจากผลตรวจสุขภาพประจำปีว่าปัสสาวะมีเม็ดเลือดแดงปนออกมา แสดงว่ามีการอักเสบ มีเลือดออกในทางเดินปัสสาวะ เมื่อตรวจเพิ่มเติมด้วยการเอกซเรย์หรืออัลตราซาวนด์ระบบทางเดินปัสสาวะจะพบว่ามีนิ่วอยู่

การรักษานิ่วในไต

  • นิ่วขนาดเล็ก ถ้าเป็นนิ่วขนาดเล็กถือเป็นระยะเริ่มต้น แนะนำให้คนไข้ดื่มน้ำมาก ๆ นิ่วอาจหลุดออกมาได้ในทางเดินปัสสาวะ หากมีขนาดไม่เกิน 5 มิลลิเมตร
  • นิ่วขนาดใหญ่ หากนิ่วมีขนาดใหญ่เกิน 5 มิลลิเมตร คนไข้อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีอาการปวด ปัสสาวะแสบขัด ควรไปพบแพทย์ โดยวิธีการรักษามีหลายรูปแบบ เช่น
    • การสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก เป็นการทำให้นิ่วแตกแล้วหลุดเป็นผงออกมาในปัสสาวะ
    • การส่องกล้องสลายนิ่ว หมอจะใช้เครื่องมือที่มีกล้องสอดเข้าไปทางท่อปัสสาวะ แล้วคีบเอานิ่วออกมา
    • การผ่าตัด เป็นการเจาะรูเล็ก ๆ บริเวณหลังของคนไข้ แล้วใช้กล้องส่องเพื่อนำเครื่องมือสอดเข้าไปทำให้นิ่วแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นจึงคีบนิ่วออกมาทางรูเดิม ใช้ในกรณีที่รักษาวิธีอื่นไม่ได้ผล

 วิธีป้องกันการเกิด นิ่วในไต

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 6-8 แก้ว
  2. ไม่กินอาหารเค็มจัด หวานจัด การกินเค็มทำให้มีโซเดียมในปัสสาวะมาก แคลเซียมจึงถูกขับออกมาทางปัสสาวะเกิดเป็นนิ่วจากแคลเซียม ส่วนการกินน้ำตาลมาก โดยเฉพาะน้ำตาลฟรุกโตส เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ จะทำให้เกิดกรดยูริกในเลือดสูง กรดนี้จะตกตะกอนในปัสสาวะแล้วเกิดเป็นนิ่ว
  3. ไม่กินเนื้อสัตว์มากจนเกินไป การกินอาหารที่มีโปรตีนสูงจะทำให้เพิ่มสารก่อนิ่วและเพิ่มโอกาสการเกิดนิ่ว
  4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน การเดินจะช่วยให้นิ่วขนาดเล็กหลุดได้
  5. ไม่กลั้นปัสสาวะ การกลั้นปัสสาวะทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ แล้วเกิดการตกตะกอนของเกลือแร่กลายเป็นนิ่วได้
  6. ไม่ซื้อวิตามินหรืออาหารเสริมกินเป็นประจำ การกินวิตามินมากเกินจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยง หากจำเป็นต้องกินวิตามินหรืออาหารเสริมควรระมัดระวังไม่กินเกินปริมาณที่กำหนดต่อวัน

หากพบความผิดปกติ และสงสัยว่าอาจเป็นนิ่วในไต คนไข้ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษา เพราะหากปล่อยไว้จนอาการรุนแรงอาจนำไปสู่ภาวะไตวาย ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ แล้วเข้าสู่กระแสเลือด จนเสียชีวิตได้

 

ข้อมูลจาก

รศ. นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ

สาขาวิชาโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

 

อย่าลืมกดติดตามช่อง Rama Channel ที่น่าสนใจอีกมากมายได้ที่ 

Website: https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/

Website Rama mahidol : https://www.rama.mahidol.ac.th/

Facebook: https://www.facebook.com/ramachannel

Line: https://page.line.me/ramathibodi

Tiktok: https://www.tiktok.com/@ramachanneltv

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

มะเร็งลำไส้ โรคร้ายที่ไม่เลือกวัย
มะเร็งลำไส้ใหญ่พบได้ทุกวัย ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุ อาการแอบแฝง ตรวจพบเร็วช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิต รู้ทันสัญญาณเตือนและแนวทางป้องกัน
บทความสุขภาพ
25-06-2025

2

Get to know “H. pylori” before becoming a victim of stomach cancer
เชื้อเอชไพโลไร (H. pylori) อาจดูธรรมดาแต่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของมะเร็งกระเพาะอาหาร หากตรวจพบเร็วสามารถรักษาและป้องกันได้ทัน
บทความสุขภาพ
23-06-2025

0

ป้องกันอย่างไร ไม่ให้เกิดอาการปวดหน้าเท้า
อาการปวดหน้าเท้าอาจเกิดจากรองเท้าไม่พอดี น้ำหนักตัว หรือการใช้งานเท้าเกินพอดี รู้วิธีป้องกันและบรรเทาอาการอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
19-06-2025

4

กระเพาะทะลุ อาการโหดที่ไม่ควรมองข้าม รู้เร็ว รักษาได้ ไม่ต้องทนเจ็บ!
กระเพาะทะลุเป็นภาวะฉุกเฉินที่อันตราย เจ็บท้องเฉียบพลัน แน่นท้อง คลื่นไส้ ต้องรีบรักษาโดยเร็ว รู้ทันอาการเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง
บทความสุขภาพ
13-06-2025

6

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL