ฝุ่น PM 2.5 กลายเป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญในปัจจุบัน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่และพื้นที่อุตสาหกรรมที่มีมลพิษทางอากาศสูง หลายคนอาจเคยได้ยินคำนี้ แต่ยังไม่เข้าใจว่าฝุ่น PM 2.5 คืออะไร และส่งผลกระทบอย่างไรต่อสุขภาพของเรา บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับฝุ่นพิษนี้อย่างละเอียด พร้อมแนะนำวิธีรับมืออย่างมีประสิทธิภาพ
ฝุ่นพิษ PM 2.5 คืออะไร
ฝุ่น PM 2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็กจิ๋วที่มีขนาดเล็กว่า 2.5 ไมครอน หรือขนาดประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผม ด้วยขนาดที่เล็กมาก ฝุ่นชนิดนี้สามารถลอยอยู่ในอากาศได้นาน และเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจได้ง่าย
ฝุ่น PM 2.5 เกิดจากอะไร
ฝุ่นนี้มาจากหลากหลายแหล่ง เช่น
- การเผาไหม้เชื้อเพลิงในรถยนต์และโรงงานอุตสาหกรรม
- ควันไฟจากการเผาขยะหรือพื้นที่เกษตร
- การก่อสร้างและการจราจรที่มีฝุ่นจากการขุดเจาะ
ฝุ่น PM 2.5 ไม่เพียงแค่ทำให้อากาศดูขุ่นมัว แต่ยังแฝงมลพิษและสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น โลหะหนัก และสารก่อมะเร็ง ซึ่งสามารถเข้าสู่ปอดและกระแสเลือดของเราได้โดยตรง
ทำไมฝุ่น PM 2.5 ถึงอันตราย ?
ด้วยขนาดที่เล็กจิ๋ว ฝุ่น PM 2.5 สามารถเล็ดลอดผ่านระบบกรองตามธรรมชาติของจมูกและคอ ลงไปถึงหลอดลมและปอดได้อย่างง่ายดาย ยิ่งสัมผัสกับฝุ่นนี้มากเท่าไร โอกาสที่ร่างกายจะเกิดการระคายเคืองหรือเจ็บป่วยก็ยิ่งสูงขึ้น
ฝุ่นพิษ PM 2.5 อันตรายแค่ไหน
แม้ฝุ่น PM 2.5 จะเล็กจนมองไม่เห็น แต่ผลกระทบที่มีต่อร่างกายใหญ่มากจนน่าตกใจ ฝุ่นจิ๋วเหล่านี้ไม่ใช่แค่ทำให้อากาศแย่ แต่ยังเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพมากมาย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มาดูกันว่าฝุ่น PM 2.5 ส่งผลร้ายต่อเรายังไงบ้าง
ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ
เมื่อเราสูดฝุ่น PM 2.5 เข้าไป ฝุ่นเหล่านี้สามารถเข้าสู่ปอดได้โดยตรงและกระจายไปในกระแสเลือด ทำให้เกิดอาการระคายเคือง เช่น ไอ หายใจติดขัด หรือเจ็บคอ
ความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง
- โรคหัวใจและหลอดเลือด ฝุ่น PM 2.5 สามารถทำให้หลอดเลือดอักเสบ เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจขาดเลือดและเส้นเลือดในสมองตีบ
- โรคปอดเรื้อรัง การสัมผัสฝุ่นในระยะยาวอาจทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง หรือมะเร็งปอด
- ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ฝุ่น PM 2.5 ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานลดลง ทำให้เราป่วยง่ายขึ้น
อาการและผลกระทบจากฝุ่นพิษ PM 2.5
การสัมผัสฝุ่น PM 2.5 อาจดูเหมือนไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรในทันที แต่จริงๆ แล้ว ฝุ่นจิ๋วนี้สามารถทำร้ายร่างกายได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เรามาดูกันว่าอาการและผลกระทบที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง
-
ระยะสั้น
ทำให้ระคายเคืองตา ตาแดง คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ อาการภูมิแพ้และหอบหืดกำเริบ ทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น ผิวหนังอักเสบมีผื่นคันที่ผิวหนัง
-
ระยะยาว
การทำงานของปอดแย่ลง เสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และ โรคหลอดเลือดสมอง เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปอด ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัย
วิธีการรับมือกับ ฝุ่นพิษ PM 2.5
ฝุ่น PM 2.5 อาจดูน่ากลัว แต่เราสามารถป้องกันตัวเองและลดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีเหล่านี้ที่สามารถเริ่มต้นทำได้ทันที
- ติดตามรายงานสภาพอากาศ อย่างสม่ำเสมอ
- ใส่หน้ากากที่กรองฝุ่นได้ดี เลือกหน้ากาก N95 หรือหน้ากากที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ เพื่อป้องกันฝุ่นเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ
- ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ในบ้านหรืออาคาร ควรใช้เครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ เมื่อต้องออกจากบ้านหรืออาคาร
- เลี่ยงกิจกรรมนอกบ้านในช่วงฝุ่นเยอะ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็ก หญิงตั้งครรภ์ คนชรา ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคปอด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตเรื้อรัง
- ปลูกต้นไม้ในบ้านหรือรอบบ้าน ต้นไม้บางชนิดช่วยดูดซับมลพิษ และทำให้อากาศสดชื่นขึ้นได้
- สวมแว่นกันลม กันฝุ่นละอองขนาดเล็ก สวมเสื้อแขนยาวมิดชิด
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง
ฝุ่น PM 2.5 อาจจะดูเล็กจิ๋ว แต่ผลกระทบต่อสุขภาพนั้นใหญ่เกินคาด อย่ารอให้ตัวเองหรือคนที่รักต้องเจ็บป่วย รีบดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เริ่มจากป้องกันตัวง่าย ๆ ด้วยหน้ากากหรือเครื่องฟอกอากาศ ดังนั้นอย่าลืมติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศ และปฏิบัติตามวิธีป้องกันที่กล่าวไว้ เพื่อให้ทุกวันเป็นวันที่มีอากาศบริสุทธิ์และปลอดภัยสำหรับทุกคน
ข้อมูลโดย
อ. พญ.เนาวรัตน์ ตั้งบำรุงธรรม
ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่
Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: RAMA Channel
Facebook: รามาแชนแนล Rama Channel ?
LINE: Ramathibodi
Tiktok: ramachanneltv รามาแชนแนล ช่องของคนรักสุขภาพ