ฝุ่น PM 2.5 มลพิษทางอากาศ
หน้าแรก
PM 2.5 ภัยเงียบที่ทำร้ายสุขภาพ

PM 2.5 ภัยเงียบที่ทำร้ายสุขภาพ

ฝุ่น PM 2.5 มลพิษทางอากาศขนาดจิ๋วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่อานุภาพกลับร้ายแรงเกินจินตนาการ ด้วยขนาดที่เล็กกว่าเส้นผมมนุษย์ถึง 20 เท่า ฝุ่นละอองชนิดนี้สามารถแทรกซึมลึกเข้าสู่ถุงลมปอด และแผ่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดโดยที่เราไม่รู้ตัว หลายคนอาจคิดว่าแค่ไอหรือระคายเคืองคอเล็กน้อย แต่ในความจริง อาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้ายแรง ทั้งมะเร็งปอด หัวใจ หรือแม้แต่โรคเรื้อรังที่คุกคามคุณภาพชีวิตอย่างถาวร

ไม่ใช่แค่ในเมืองใหญ่เท่านั้นที่ต้องเผชิญกับภัยเงียบนี้ เพราะฝุ่น PM 2.5 เดินทางได้ไกล ปกคลุมพื้นที่กว้าง และกระทบกับทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว บทความนี้จะพาไปรู้จัก PM 2.5 ให้มากขึ้น ตั้งแต่ต้นตอของปัญหา ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ไปจนถึงใช้หน้ากากให้เหมาะสม เพื่อให้คุณและคนที่คุณรักรับมือกับอากาศที่เป็นพิษได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยในทุกลมหายใจ

ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร ?

ฝุ่น PM 2.5 หมายถึง ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือประมาณ 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ เนื่องจากขนาดที่เล็กมาก ฝุ่นชนิดนี้สามารถลอยอยู่ในอากาศได้นานและเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย

สาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5

ฝุ่น PM 2.5 เกิดขึ้นได้จากหลายแหล่ง ทั้งจากธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ โดยสาเหตุหลักในประเทศไทยมักมาจาก

  • ควันจากการเผาในที่โล่ง เช่น การเผาไร่อ้อย เผาขยะ หรือเผาป่าซึ่งมักพบในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ควันจากรถยนต์และโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลที่ปล่อยเขม่าและฝุ่นพิษออกมา
  • ฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง รวมถึงถนนที่มีการจราจรคับคั่ง
  • สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ลมสงบหรืออากาศเย็นจัด ทำให้ฝุ่นไม่กระจายตัวและสะสมในพื้นที่

PM 2.5 มีผลต่อร่างกายอย่างไร ?

PM 2.5 มีผลต่อร่างกายอย่างไร ?

ผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 ต่อร่างกายขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของฝุ่น ระยะเวลาที่สัมผัส และสุขภาพของแต่ละบุคคล โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่

  • ไอ จาม คัดจมูก หายใจลำบาก
  • แสบตา ระคายเคืองผิวหนัง
  • หอบหืดกำเริบ หรือมีอาการของโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง
  • ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันหรือโรคหลอดเลือดสมอง
  • เพิ่มโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งปอด หากได้รับสารพิษสะสมในระยะยาว

โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว มักได้รับผลกระทบเร็วและรุนแรงกว่าคนทั่วไป

ใครเสี่ยงอาการรุนแรงเมื่อเจอฝุ่น PM 2.5

ใครเสี่ยงอาการรุนแรงเมื่อเจอฝุ่น PM 2.5

เด็กเล็ก

เด็กมีระบบหายใจที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ หายใจเร็วกว่าผู้ใหญ่ และมักเล่นนอกบ้าน ทำให้มีโอกาสรับฝุ่นเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น ส่งผลให้เสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด หรือพัฒนาการช้าลงได้

ผู้หญิงตั้งครรภ์

ฝุ่น PM 2.5 สามารถเข้าสู่กระแสเลือดของคุณแม่ และส่งผลถึงทารกในครรภ์ได้ เช่น ทำให้เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวแรกคลอดน้อย หรือมีความผิดปกติในการพัฒนาของสมอง

ผู้สูงอายุ

ระบบภูมิคุ้มกันและการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ เริ่มเสื่อมถอยลงตามวัย เมื่อได้รับฝุ่นพิษเข้าสู่ร่างกายจะมีโอกาสเกิดโรคหัวใจและปอดได้ง่ายกว่าคนทั่วไป

ผู้มีโรคประจำตัว

โดยเฉพาะโรคหอบหืด โรคปอด โรคหัวใจ และเบาหวาน ฝุ่น PM 2.5 จะทำให้อาการของโรคกำเริบ หรือส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

ใช้หน้ากากอนามัยอย่างไรให้ถูกวิธี

การเลือกหน้ากากที่เหมาะสมเป็นเกราะป้องกันขั้นแรกที่มีประสิทธิภาพ หากเลือกผิดอาจทำให้ไม่ได้รับการป้องกันเลย โดยคำแนะนำคือ

  • เลือกหน้ากากที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้โดยเฉพาะ เช่น หน้ากาก N95, KN95 หรือ FFP2 ซึ่งสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 95%
  • ใส่ให้แนบสนิทกับใบหน้า ไม่มีช่องว่างบริเวณร่องจมูก ด้านข้างหรือใต้คาง เพื่อไม่ให้ฝุ่นเล็ดลอดเข้าไปได้
  • หลีกเลี่ยงหน้ากากอนามัยธรรมดาแบบ 3 ชั้น เพราะไม่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็ก PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เปลี่ยนหน้ากากตามคำแนะนำ โดยเฉพาะหลังใช้งานต่อเนื่องหลายชั่วโมง หรือเมื่อตัวกรองชื้นหรือสกปรก

นอกจากนี้ ควรใช้ควบคู่กับการลดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่ค่าฝุ่นสูง และปิดหน้าต่างประตูภายในบ้านเพื่อลดการรับฝุ่นจากภายนอก

ฝุ่น PM 2.5 ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นภัยเงียบที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ การรู้เท่าทัน เข้าใจอันตราย และรู้วิธีป้องกันตนเองอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาวได้ อย่าลืมติดตามค่าฝุ่นประจำวัน เลือกใช้หน้ากากให้เหมาะสม และดูแลสุขภาพตนเองและคนรอบข้างอยู่เสมอ

 

ข้อมูลโดย

อ. นพ.จิโรจ พละเลิศ
สาขาวิชาเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ “
ภัย #ฝุ่น ในเมืองใหญ่ อันตรายที่มองไม่เห็น 07/02/68 พบหมอรามาฯ | by RAMA Channel” ได้ที่นี่

 

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 

Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: RAMA Channel
Facebook: รามาแชนแนล Rama Channel
LINE: Ramathibodi
Tiktok: ramachanneltv รามาแชนแนล ช่องของคนรักสุขภาพ

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

เจ็บส้นเท้าทุกครั้งที่ลุกเดินระวัง โรครองช้ำ
เจ็บส้นเท้าเวลาลุกเดินอาจเป็นสัญญาณโรครองช้ำ ภัยเงียบของคนที่ใช้เท้าหนักหรือยืนนาน หากละเลยอาจปวดเรื้อรัง รู้ทันอาการและวิธีป้องกัน
บทความสุขภาพ
25-09-2025

1

กินเห็ดหน้าฝน ระวัง! เห็ดพิษตัวร้าย แค่คำเดียวอาจถึงชีวิต
การกินเห็ดในหน้าฝนเสี่ยงอันตรายจากเห็ดพิษที่แยกยากจากเห็ดกินได้ เพียงคำเดียวอาจทำลายตับ ไต หรือถึงชีวิต ควรรู้จักวิธีเลือกและหลีกเลี่ยง
บทความสุขภาพ
24-09-2025

2

ข้อเท้าตก กระดกไม่ขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องข้อเท้า แต่สะดุด กระทบทุกจังหวะชีวิต
ข้อเท้าตกหรืออาการกระดกข้อเท้าไม่ขึ้น ไม่ใช่เพียงปัญหาข้อเท้า แต่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ หากไม่รักษาอาจสะดุดล้มบ่อย
บทความสุขภาพ
23-09-2025

2

RSV โรคฮิตในเด็กเล็กที่พ่อแม่ต้องรู้
RSV เป็นไวรัสที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ทำให้มีอาการไอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก และเสี่ยงปอดอักเสบ พ่อแม่ควรรู้วิธีป้องกัน สังเกตอาการ และรีบพบแพทย์
บทความสุขภาพ
22-09-2025

2

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL