ไวรัส RSV เชื้ออันตรายที่คล้ายไข้หวัด
หน้าแรก
ไวรัส RSV เชื้ออันตรายที่คล้ายไข้หวัด

ไวรัส RSV เชื้ออันตรายที่คล้ายไข้หวัด

ไวรัส RSV ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ.1955 หรือ พ.ศ.2498 โดยตรวจพบไวรัสชนิดนี้จากลิงชิมแปมซีที่ป่วยจากหวัดก่อนจะพบว่าสามารถติดต่อมายังคนได้ และเป็นสาเหตุของอาการหรือโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในเด็กเล็ก

ไวรัส RSV

มีอาการที่รุนแรงโดยเฉพาะในเด็กอายุน้อย ซึ่งผู้ใหญ่เองก็สามารถเป็นได้เช่นกันแต่อาจจะรู้สึกเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดาคือ ไอ มีน้ำมูกเล็กน้อย ไม่มีไข้ โดยส่วนใหญ่ เชื้อ RSV จะระบาดในช่วงฤดูฝน ตามความเข้าใจส่วนมากที่เชื่อว่าการระบาดจะเกิดขึ้นในช่วงฝนตกเยอะ มีความชื้น ซึ่งบางครั้งการเป็นไข้หวัดของเราก็เริ่มมาจากเชื้อ RSV นี้หรืออาจะเป็นหวัดธรรมดาก่อนจะพัฒนาไปเป็นเชื้อไวรัส RSV

เชื้อ RSV สามารถติดต่อได้จาก

น้ำลาย ละอองเสมหะของเด็กที่ป่วยและไอออกมา หรือผู้ใหญ่บางคนที่มีเชื้อ RSV แม้จะไม่รุนแรงแต่หากไปคลุกคลีกับเด็กแล้วเด็กได้รับเชื้อนี้เข้าไปก็อาจจะส่งผลให้ติดเชื้อนี้ได้เช่นกัน แต่จะมีโอกาสน้อยกว่าการที่เด็กอยู่รวมกันเยอะๆ

การติดต่อของไวรัส RSV มีลักษณะคล้ายการติดต่อของไข้หวัด คือ

การอยู่ร่วมกันโดยคนเป็นหวัด 1 คนสามารถแพร่เชื้อได้ แต่คนที่รับเชื้อเข้าไปอาจจะไม่แสดงอาการออกมาซึ่งขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกัน นอกจากการแพร่กระจายจากผู้ที่มีเชื้อแล้ว อาจจะติดจากสิ่งของที่ผู้มีเชื้อไปสัมผัสหรือการที่ผู้ปกครอง พี่เลี้ยง ไปสัมผัสเด็ก เพราะฉะนั้นควรล้างมือทุกครั้งก่อนที่จะคลุกคลีกับเด็ก

จากการที่เชื้อไวรัสชนิดนี้มีอาการคล้ายไข้หวัดจนแทบจะแยกไม่ออก จึงต้องสังเกตบุตรหลานของท่านว่าหากมีอาการเหล่านี้ ก็แปลว่าอาจจะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้

  1. ตัวเขียว
  2. ไอ
  3. หอบเหนื่อย
  4. หายใจ เร็ว แรง
  5. มีเสมหะมาก

นอกจากนี้ยังวิธีสังเกตง่าย ๆ คือ

หากเด็กมีอาการซึมลง เช่น เคยกินนมเก่งแล้วอยู่ๆกินน้อยลง อารมณ์ไม่ดีเหมือนปกติ หายใจแรงจนหน้าอกบุ๋ม ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยการพ่นยาหรือจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าติดตามอาการ ส่วนเด็กที่คลอดก่อนกำหนด ผู้ป่วยที่มีโรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจเรื้อรัง ก็จัดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้หากมีภาวะแทรกซ้อนอาจมีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรียส่งผลให้เสียชีวิตได้ โดยไวรัสชนิดนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และยังไม่มียารักษา ต้องรักษาแบบประคับประคองรอให้ร่างกายแข็งแรงจนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาได้

 

ข้อมูลจาก
ดร. นพ.นพพร อภิวัฒนากุล
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ “Big story เชื้อไวรัส RSV รายการพบหมอรามา” ได้ที่นี่

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

โรคตับคั่งไขมัน รู้ให้ทัน ปรับพฤติกรรมให้ไว
โรคตับคั่งไขมันเป็นภาวะที่ไขมันสะสมในตับมากเกินไป เสี่ยงตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับ หากรู้ทันและรีบปรับพฤติกรรมการกิน ออกกำลังกาย
บทความสุขภาพ
09-09-2025

0

OPD และ IPD ต่างกันอย่างไร ?
OPD และ IPD คือการใช้บริการในโรงพยาบาลที่ต่างกัน OPD คือผู้ป่วยนอกที่ไม่ต้องนอนรักษา ส่วน IPD คือผู้ป่วยในที่ต้องนอนพักรักษาตัวภายใต้การดูแล
บทความสุขภาพ
08-09-2025

0

ยาคลายกล้ามเนื้อ Tolperisone
ยาคลายกล้ามเนื้อ Tolperisone การใช้บ่อย ๆ อาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง เช่น เวียนศีรษะ ง่วงซึม ความดันต่ำ หรือดื้อยาได้ ควรใช้ภายใต้คำแนะนำ
บทความสุขภาพ
08-09-2025

1

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ปวด แสบ ขัด
กระเพาะปัสสาวะอักเสบทำให้ปัสสาวะแสบ ขัด และปวดบ่อย หากละเลยอาจลุกลามเป็นกรวยไตอักเสบ ควรรู้ทันอาการ สาเหตุ และวิธีป้องกันอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
07-09-2025

0

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL