โรคหลายอัตลักษณ์ บุคลิกภาพที่ควรได้รับความเข้าใจ
หน้าแรก
โรคหลายอัตลักษณ์ บุคลิกภาพที่ควรได้รับความเข้าใจ

โรคหลายอัตลักษณ์ บุคลิกภาพที่ควรได้รับความเข้าใจ

โรคหลายอัตลักษณ์ เป็นภาวะที่มักถูกนำไปประยุกต์ใช้กับตัวละครในภาพยนตร์หลายเรื่อง จนทำให้หลายคนสงสัยว่าโรคนี้มีอยู่จริงหรือไม่ และมีลักษณะอย่างไร วันนี้เราจึงนำข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับโรคดังกล่าวมาแบ่งปัน เพื่อช่วยให้เข้าใจมากขึ้น

โรคหลายอัตลักษณ์ จัดเป็นอาการป่วยทางจิตประเภทหนึ่ง

มีชื่อโรคทางภาษาอังกฤษว่า Dissociative Identity Disorder (DID) เปลี่ยนจากชื่อโรคเดิมที่มีชื่อว่าโรคหลายบุคลิกภาพ Multiple Personality Disorder เพราะอัตลักษณ์มีความหมายที่แตกต่างคำว่าบุคลิก ขณะที่คนเราโดยทั่วไปสามารถมีความหลากหลายทางบุคลิกภาพได้ และไม่จัดว่าเป็นโรค ยกตัวอย่างเช่น อยู่กับเพื่อนมีความกล้าแสดงออก แต่อยู่กับผู้ใหญ่อาจไม่ค่อยพูด เงียบ และเหนียมอาย นั่นเองที่เป็นบุคลิกภาพของคนเดียวที่แตกต่างไปตามสถานการณ์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติไม่ใช่อาการป่วย

แต่อาการป่วยที่แท้จริงคือความหลากหลายของอัตลักษณ์ โดยอัตลักษณ์เป็นสิ่งที่อยู่ภายในตัวตนของคนๆ นั้น ในคนปกติจะมีเพียงอัตลักษณ์เดียว แต่ในผู้ป่วยเป็นโรคหลายอัตลักษณ์มักมีมากกว่าหนึ่ง มีความเกี่ยวข้องกับสติ ความจำ เอกลักษณ์ของตัวเอง และการรับรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัว โดยในผู้ป่วยโรคนี้จะมีความผิดเพี้ยนทั้งหมดในส่วนที่กล่าวมา เพราะในตัวตนของคนเหล่านั้นมีหลายส่วนที่ไม่ต่อเนื่องกัน หรือถูกแยกออกจากกันเป็นหลายส่วน อย่างในคนทั่วไปจะรู้ตัวเองว่าตัวเองถนัดอะไร ไม่ถนัดอะไร หรือตกอยู่ในสถานการณ์ไหน เป็นที่รักหรือไม่เป็นที่รักจากใคร แต่เขาก็ยังไม่ลืมตัวตนของตัวเอง เพียงแต่จะแสดงออกแตกต่างกันไปตามสถานการณ์

แต่ในผู้ป่วยความเป็นตัวตนเหล่านั้นจะขาดออกจากกัน ทำให้อารมณ์และพฤติกรรมที่แสดงออกไม่ต่อเนื่องและไม่เหมือนกัน บางครั้งจะรู้สึกรักตัวเอง แต่บางครั้งก็จะรู้สึกเกลียดตัวเอง และมีความกดดันเกิดขึ้น มีความทรงจำเกี่ยวกับตัวเองที่ขาดหายไป จึงแสดงออกแตกต่างไปจากเดิมที่เคยเป็น เกิดจากพันธุกรรมและประสบการณ์วัยเด็ก ที่อาจมีเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง เช่น ถูกทำร้ายทางร่างกายและจิตใจในวัยเด็ก ถูกทำร้ายทางเพศ หรือมีเหตุการณ์ที่รุนแรงทางเพศ เมื่อผู้ป่วยต้องเจอกับเหตุการณ์ที่รุนแรงจึงมีกลไกป้องกันตัวเองเกิดขึ้น และตัดขาดจากตัวเอง ตัดขาดจากความทรงจำของตัวเอง เพราะรู้สึกไม่ชอบและไม่ยอมรับในตัวตนของตัวเอง จึงแสดงออกในอัตลักษณ์ที่แตกต่างออกไป บางครั้งพบร่วมกับภาวะโรคซึมเศร้าหรือเจอร่วมกับประวัติของการถูกทำร้าย โดยคนไข้จะแสดงอาการเมื่อเกิดความเจ็บปวดทางร่างกายและจิตใจ เพราะคนไข้รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในภาวะที่ไม่ปลอดภัย

การรักษาอาการดังกล่าว

จะต้องใช้จิตบำบัดในระยะยาว ซึ่งจะต้องค่อยๆ ปรับอัตลักษณ์และบุคลิกภาพในระยะเวลาที่ค่อนข้างยาวนาน โดยใช้จิตแพทย์เป็นหลักในการรักษา สิ่งที่คนรอบข้างควรทำคือให้ความเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่คนไข้เป็น เมื่อคนไข้แสดงอาการก็พยายามยอมรับ หรือไม่แสดงอาการต่อต้าน เพื่อให้คนไข้รู้สึกยอมรับในตัวเองให้ได้ และอัตลักษณ์ของคนไข้ก็จะค่อยๆ กลมกลืนกัน

 

ข้อมูลจาก
อ. พญ.วินิทรา แก้วพิลา
ภาควิชาจิตเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ “โรคหลายอัตลักษณ์ : พบหมอรามา ช่วง Big Story” ได้ที่นี่

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

ถอดรหัสศัพท์หมอ Admit Discharge Refer ต่างกันอย่างไร
ศัพท์หมออย่าง Admit, Discharge และ Refer หมายความว่าอะไร? ถอดรหัสแบบเข้าใจง่าย รู้ไว้เวลาไปโรงพยาบาลจะได้ไม่งงและสื่อสารกับหมอได้ตรงกัน
บทความสุขภาพ
15-12-2025

0

Ciprofloxacin คือยาอะไร รู้จักยาปฏิชีวนะให้ถูกต้องก่อนใช้
Ciprofloxacin คือยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด รู้วิธีใช้ให้ถูกต้อง ข้อควรระวัง และหลีกเลี่ยงการใช้พร่ำเพรื่อ เพื่อป้องกันเชื้อดื้อยา
บทความสุขภาพ
13-12-2025

1

รู้ทันตากุ้งยิง! จากตุ่มเล็ก ๆ สู่ปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม
ตากุ้งยิงเริ่มจากตุ่มเล็ก ๆ บนเปลือกตา แต่หากปล่อยไว้สามารถลุกลามจนเจ็บ บวม และมองเห็นไม่ชัดได้ รู้สาเหตุ อาการ และวิธีดูแลให้หายเร็วอย่างถูกวิธี
บทความสุขภาพ
12-12-2025

1

โรคพากินสัน-อาการสั่นที่มาจากสมอง
โรคพาร์กินสันทำให้เกิดอาการสั่น เคลื่อนไหวช้า และทรงตัวไม่ดี ซึ่งมีต้นตอมาจากความเสื่อมของสมอง รู้สัญญาณเตือนและวิธีดูแล เพื่อชะลอการลุกลามของโรค
บทความสุขภาพ
11-12-2025

1