โรคหลอดเลือดขนาดเล็กอักเสบในเด็ก ชื่อภาษาอังกฤษ คือ IgA vasculitis ซึ่งเป็นภาวะการอักเสบของผนังหลอดเลือดขนาดเล็ก ซึ่งส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายได้ไม่เพียงพอ ทำให้มีอาการแสดงได้หลายระบบ มักพบโรคนี้บ่อยในช่วงฤดูหนาว ผู้ปกครองจึงควรเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดและรีบพาเด็กเข้าพบแพทย์ เมื่อสังเกตเห็นอาการผิดปกติ เช่น ผื่นที่มีลักษณะผิดแปลก ปวดข้อ หรือปวดท้อง ซึ่งหากละเลยหรือไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อตัวเด็ก
โรคหลอดเลือดขนาดเล็กอักเสบในเด็ก คืออะไร มีอาการอะไรบ้าง
โรคหลอดเลือดขนาดเล็กอักเสบในเด็ก หรือ IgA vasculitis หรือ Henoch-Schönlein purpura (HSP) เป็นภาวะที่มีการอักเสบของผนังหลอดเลือดขนาดเล็ก ทำให้เกิดอาการได้หลายระบบ อาการที่พบบ่อย คือ อาการทางผิวหนัง เด็กมักมีผื่นนูนเป็นจ้ำสีแดงเข้มที่มักพบบริเวณขาและก้น อาการระบบอื่น ๆ ที่สามารถพบได้ ได้แก่ อาการทางข้อ มีปวดข้อและข้ออักเสบได้ อาการทางระบบทางเดินอาหาร มีปวดท้อง อาเจียน ถ่ายอุจจาระมีเลือดปน และอาการทางไต ทำให้มีภาวะไตอักเสบ ปัสสาวะมีเลือดปนหรือโปรตีนรั่วในปัสสาวะได้ โรคนี้มักพบในช่วงฤดูหนาว และพบในเด็กอายุ 3-10 ปี ผู้ปกครองควรเฝ้าระวังเนื่องจากหากมีอาการรุนแรง อาจส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกายและทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อเด็กได้
ลักษณะผื่นของโรคหลอดเลือดขนาดเล็กอักเสบในเด็ก
ในระยะเริ่มต้น ผื่นจะมีสีแดงเป็นจุด ๆ เหมือนยุงกัด แต่ต่อมาจะเริ่มขยายขนาดมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีลักษณะนูน จากนั้นผื่นจะเริ่มมีสีแดงเข้มและค่อย ๆ คล้ำขึ้นจนเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วง หากผื่นมีขนาดใหญ่เด็กจะรู้สึกเจ็บบริเวณผื่น หากมีผื่นขึ้นที่ข้อเท้าอาจรู้สึกปวดข้อได้
กลไกของโรคหลอดเลือดขนาดเล็กอักเสบในเด็ก
โรคนี้เกิดจากการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่มากผิดปกติ ส่งผลให้มีอาการอักเสบของหลอดเลือดขนาดเล็ก เมื่อหลอดเลือดมีการอักเสบ จะส่งผลให้ผนังหลอดเลือดบวม ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้ตามปกติ ส่งผลให้อวัยวะนั้น ๆ เกิดการขาดเลือด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงระบบทางเดินอาหารมีการอักเสบ ทำให้เลือดไปเลี้ยงระบบทางเดินอาหารได้ลดลง ทำให้การย่อยอาหารขาดประสิทธิภาพ จึงเกิดอาการปวดท้องขึ้นโดยมักปวดท้องหลังมื้ออาหาร
อาการนำของโรคหลอดเลือดขนาดเล็กอักเสบในเด็ก
มักมีอาการนำโดยเป็นผื่นผิวหนัง แต่มีบางรายอาจมีอาการปวดท้อง หรือปวดข้อก่อนเกิดผื่นได้ แต่พบได้น้อย
ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุของการเกิดโรค
- ปัจจัยทางพันธุกรรม เด็กที่มีปัจจัยทางพันธุกรรมบางอย่างอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้น
- ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม เช่น
- การติดเชื้อ หลังการเป็นหวัดหรือการติดเชื้อบางชนิด ร่างกายอาจสร้างภูมิคุ้มกันที่มากผิดปกติและภูมิคุ้มกันนั้นไปทำลายหลอดเลือดของตนเอง
- การใช้ยา ยาบางชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะอักเสบของหลอดเลือดได้
เด็กอายุเท่าไร เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดขนาดเล็กอักเสบในเด็ก
วัยที่พบบ่อย คือเด็กวัย 3-10 ปี
การรักษาและแนวทางดูแล
- กรณีที่ไม่รุนแรง เช่น มีผื่นขึ้นไม่มาก หรือปวดข้อเล็กน้อย แพทย์จะให้การรักษาโดยการใช้ยากลุ่ม NSAIDs (nonsteroidal anti-inflammatory drugs) เพื่อลดการอักเสบของข้อ
- กรณีที่รุนแรง เช่น หากมีอาการปวดท้องรุนแรง ลำไส้ขาดเลือด ไตอักเสบรุนแรง หรือปัสสาวะมีเลือดปน แพทย์มีความจำเป็นที่จะต้องให้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกันไปทำลายหลอดเลือดต่าง ๆ อย่างไรก็ตามการให้ยากลุ่มนี้จะต้อง อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นยาที่มีผลข้างเคียงมาก ถ้ามีอาการรุนแรง อาจต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดและ เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน
วิธีการป้องกันโรคเส้นเลือดอักเสบในเด็ก
- หลีกเลี่ยงการติดเชื้อ ดูแลสุขอนามัย ล้างมือเมื่อเอาของเข้าปาก ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อไปแหล่งชุมชน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่จำเป็น
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น
- เฝ้าระวังอาการผิดปกติ หากพบผื่นหรืออาการผิดปกติดังที่กล่าวข้างต้น ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที เพื่อช่วยให้การรักษารวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
ข้อมูลจาก
ผศ. พญ.ศิริสุชา โศภนคณาภรณ์
สาขาวิชาโรคข้อและรูมาติสซั่ม ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
คลิกชมคลิปรายการ “Rama Kid D Live l โรคเส้นเลือดอักเสบในเด็ก“ ได้ที่นี่
ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่
Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: RAMA Channel
Facebook: รามาแชนแนล Rama Channel
LINE: Ramathibodi
Tiktok: ramachanneltv รามาแชนแนล ช่องของคนรักสุขภาพ