โรคติดต่อที่อาจมากับ "แรงงานต่างด้าว" ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากเดิมมากนัก

อ.นพ.ฉัตรชัย อิ่มอารมย์ ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า แนวโน้มโรคติดต่อเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวเมื่อเข้าสู่ AEC “ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากเดิมมากนัก” ถ้าเรานึกภาพก่อนเปิด AEC ก็จะมีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานอยู่แล้ว อาทิ ชาวเมียนมาร์ ชาวกัมพูชา ชาวลาว ตามชุมชนโรงงานต่างๆ

การเปิด AEC

ทำให้คนเข้ามาทำงานได้ง่ายขึ้น แต่จะเป็นแค่บางอาชีพเท่านั้น ซึ่งการผ่านเข้ามาตรงนี้ก็มักจะได้รับการตรวจสุขภาพผ่านมาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ตัวโรคต่างๆ ก็จะถูกคัดกรองมาแล้วส่วนหนึ่งทำให้แตกต่างจากแรงงานตามโรงงาน ที่บางครั้งอาจจะเป็นแรงงานที่ไม่ถูกกฏหมาย ไม่ได้รับการตรวจสุขภาพที่สมบูรณ์ก็อาจจะมีโรคตามมาและนำมาแพร่กระจายได้ โรคที่พบบ่อยจากการย้ายถิ่นของแรงงานต่างด้าว ได้แก่ วัณโรค โรคเอดส์ โรคไข้มาลาเรีย โรคไข้เลือดออก โรคเท้าช้าง โรคโปลิโอ โรคคอตีบ โรคหัด และโรคมือเท้าปาก

อย่างกรณีโรคโปลิโอ

ที่ในบ้านเราเริ่มจะไม่ได้ยินกันนานมากแล้ว แต่ว่าก็กลับมาจากการที่พรมแดนเปิด ร่วมกับการคัดกรองที่ดีขึ้นเลยทำให้พบได้อยู่บ้าง โรคอื่นๆ ก็มี โรคตอตีบ ระบาดในชายแดนไทย-ลาว ที่เรามักได้ยินกันตามข่าว ไอกรน บาดทะยักบางทีก็พบได้เหมือนกัน

สิ่งสำคัญของเรื่องนี้อยู่ที่ “วัคซีน” ที่จะเป็นตัวควบคุมโรคไม่ให้แพร่กระจายได้

โดยปกติแล้วโรคที่กล่าวมาสามารถรักษาได้ไม่ยาก ที่ยากๆ ก็จะมีเชื้อวัณโรคดื้อยาที่ยังเป็นปัญหาอยู่ไม่ว่าจะเป็นแรงงานต่างด้าวหรือว่าคนไทย ที่สามารถได้รับเชื้อวัณโรคดื้อยาเข้าไปได้

สำหรับผู้ที่ใกล้ชิดแรงงานต่างด้าวและมีเด็กเล็กในบ้าน

ก็ควรพาเด็กหรือลูกของท่านไปฉีดวัคซีนให้ครบตามกำหนด สำหรับแรงงานต่างด้าวในรั้วบ้านของท่านหรือในโรงงานของท่านก็สนับสนุนให้ไปตรวจร่างกาย พร้อมซื้อประกันสุขภาพของแรงงานต่างด้าว ก็จะช่วยป้องกันการแพร่เชื้อของโรคต่างๆ ได้มาก รวมถึงการดูแลตัวเองเบื้องต้น หากไม่สบายให้ใส่หน้ากากอนามัยลดการแพร่เชื้อล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ทานอาหารสุก สะอาด ก็จะช่วยได้ดีอีกหนึ่งทาง

ข้อมูลจาก
อ. นพ.ฉัตรชัย อิ่มอารมย์
ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล