โรคความดันโลหิตสูง รู้เร็วเท่าไร โอกาสรอดสูงเท่านั้น
หน้าแรก
โรคความดันโลหิตสูง รู้เร็วเท่าไร โอกาสรอดสูงเท่านั้น

โรคความดันโลหิตสูง รู้เร็วเท่าไร โอกาสรอดสูงเท่านั้น

โรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคที่ไม่มีอาการแสดงให้เห็น ถือเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตผู้ป่วยมาหลายราย เป็นอีกหนึ่งโรคภัยที่ควรทำความเข้าใจร่วมกัน เพราะโรคดังกล่าวที่รู้ได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตให้สูงขึ้นเท่านั้น แต่ปัจจุบันยังพบว่ามีผู้ป่วยหลายรายเสียชีวิตเพราะโรคดังกล่าวในอัตราที่สูงอยู่ ซึ่งเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข

โรคความดันโลหิตสูง คือ

โรคที่ความดันตัวบนวัดได้ 140 มิลลิเมตรปรอท และความดันตัวล่างวัดได้ 90 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งจะทำการวัดจากผนังหลอดเลือดแดงขณะที่หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย หากอยู่ในภาวะความดันโลหิตสูงร่างกายจะสูบฉีดเลือดได้ไม่ดี เพราะภาวะดังกล่าวจะส่งผลให้หัวใจทำงานหนัก เมื่อหลอดเลือดได้รับความดันทั้งหลายจะเกิดการทรุดโทรม เปรียบเสมือนท่อน้ำมีสลิม และหลอดเลือดจะตีบและแข็ง ผลที่ตามมาคือเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้น้อยลงและไม่เพียงพอ

นอกจากนี้ความดันโลหิตถ้าหากสูงมากยังสามารถทำให้หลอดเลือดแตกได้ด้วย ในส่วนของสมองเมื่อเลือดไปเลี้ยงไม่พอ จะส่งผลต่อการเกิดอัมพฤกษ์อัมพาต เลือดออกในสมอง ถ้าหากในส่วนของหัวใจก็จะทำงานหนักทำให้หัวใจโตหรือล้มเหลว ผลลัพธ์อื่นๆ ที่เกิดจากความดันโลหิตสูง ได้แก่ ไตเสื่อม ตามีปัญหาเริ่มมองได้ไม่ดีหรือมองไม่ชัดรวมถึงอวัยวะอื่นๆ ซึ่งมีผลทั้งร่างกาย

สาเหตุของโรค

ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่จากผู้ป่วย 95% มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ทานรสเค็มจัด อายุที่เพิ่มมากขึ้น การใช้ฮอร์โมนบางชนิด เป็นต้น โดยส่วนใหญ่คนไข้จะไม่มีอาการเลย ถือเป็นความน่ากลัวของโรคนี้และกลายเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตผู้ป่วยโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ฉะนั้นสิ่งสำคัญคือการวัดความดัน ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่สามารถบอกได้ว่ามีอาการหรือไม่ หากพบภาวะดังกล่าวก็จะช่วยให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ทันการ เช่น การลดทานเค็มที่ช่วยคุมความดันได้ดีขึ้น นอกจากนี้การออกกำลังกายมีความสำคัญมาก ในเรื่องของการควบคุมความดัน

ระดับความรุนแรง

มีตั้งแต่อาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งเป็นเพียงสัญญาณเตือนเท่านั้น ยังสามารถควบคุมได้อยู่ แต่ในบางรายที่อาการหนักอาจมีอาการเลือดออกในศีรษะ ซึ่งควบคุมได้ยากแล้ว ดังนั้นจึงควรตรวจเช็คความดันอย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีที่ช่วยป้องกันได้ดีที่สุด เพราะการตรวจเช็คเป็นระยะๆ จะช่วยในเรื่องของการปฏิบัติตนได้ดี และช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ เช่น การควบคุมน้ำหนัก การออกกำลังกาย เป็นต้น แต่ถ้าหากทำแล้วไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ และอย่าปล่อยทิ้งไว้นานเกิน เพื่อการรักษาที่ถูกต้องและทันการ

 

ข้อมูลจาก
ผศ. นพ.ภาวิทย์ เพียรวิจิตร
สาขาวิชาโรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ “รายการพบหมอรามา | Meet the Expert ความดันโลหิตสูง รู้ช้าคร่าชีวิต” ได้ที่นี่

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

โรคตับคั่งไขมัน รู้ให้ทัน ปรับพฤติกรรมให้ไว
โรคตับคั่งไขมันเป็นภาวะที่ไขมันสะสมในตับมากเกินไป เสี่ยงตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับ หากรู้ทันและรีบปรับพฤติกรรมการกิน ออกกำลังกาย
บทความสุขภาพ
09-09-2025

0

OPD และ IPD ต่างกันอย่างไร ?
OPD และ IPD คือการใช้บริการในโรงพยาบาลที่ต่างกัน OPD คือผู้ป่วยนอกที่ไม่ต้องนอนรักษา ส่วน IPD คือผู้ป่วยในที่ต้องนอนพักรักษาตัวภายใต้การดูแล
บทความสุขภาพ
08-09-2025

0

ยาคลายกล้ามเนื้อ Tolperisone
ยาคลายกล้ามเนื้อ Tolperisone การใช้บ่อย ๆ อาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง เช่น เวียนศีรษะ ง่วงซึม ความดันต่ำ หรือดื้อยาได้ ควรใช้ภายใต้คำแนะนำ
บทความสุขภาพ
08-09-2025

1

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ปวด แสบ ขัด
กระเพาะปัสสาวะอักเสบทำให้ปัสสาวะแสบ ขัด และปวดบ่อย หากละเลยอาจลุกลามเป็นกรวยไตอักเสบ ควรรู้ทันอาการ สาเหตุ และวิธีป้องกันอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
07-09-2025

0

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL