โรคคอกระดูกเสื่อม
หน้าแรก
โรคกระดูกคอเสื่อม

โรคกระดูกคอเสื่อม

โรคกระดูกคอเสื่อม นับเป็นอีกหนึ่งโรคของการเจ็บปวดของกระดูกที่พบได้มากในปัจจุบัน สาเหตุสำคัญคือ เมื่ออายุมากขึ้น ข้อต่อต่าง ๆ ระหว่างกระดูกคอแต่ละปล้อง ที่ได้รับแรงกระแทกมานาน มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะโครงสร้างไป เช่น หมอนรองกระดูกสันหลังที่มีส่วนประกอบของน้ำ เปลี่ยนจาก 88% ในเด็ก เป็น 70% ในคนอายุ 72 ปี ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังยุบลง (คนอายุมากจึงเตี้ยลงกว่าเดิม) และมีความยืดหยุ่นลดลง ส่งผลให้ส่วนอื่นที่อยู่รอบข้างต้องรับแรงกระแทกมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงมีหินปูนมาเกาะกระดูกและเอ็นพังผืดต่าง ๆ ทำให้หนาตัวขึ้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ จะกดทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ มักเกิดตรงบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวมาก คือที่ หลังคอ และ หลังเอว เมื่อเข้าสู่วัยกลางคนขึ้นไป ก็มักจะมีการเสื่อมที่กระดูกสันหลังขึ้นได้ จากภาพรังสีของคนทั่วไปพบว่า คนอายุ 50 ปี จำนวนร้อยละ 50 จะมีอาการกระดูกคอเสื่อม และคนอายุ 65 ปี พบเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 75-85

ทุกคนคงเคยมีอาการปวดคอ ซึ่งส่วนมากเกิดจากกล้ามเนื้อหรือเอ็นรอบคอ เกิดอาการเคล็ด ขัด ยอก ซึ่งมักไม่รุนแรงและหายไปเองได้ แต่ไม่แน่ว่าอาการเหล่านี้อาจเกิดจากกระดูกคอเสื่อมก็ได้ เมื่ออายุมาก ก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ทุกคน

ลักษณะอาการของโรคกระดูกคอเสื่อมเมื่อเกิดขึ้น หินปูนที่เกาะกระดูกและเอ็นจะไปกดเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการ

ปวดคอร้าวไปยังแขนและเกิดอาการชาที่แขน มักปวดหลังคอบริเวณ 2 ข้างของกระดูกสันหลัง อาจปวดร้าวขึ้นไปถึงท้ายทอย หรือ ลงมาบริเวณสะบัก และปวดมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือออกแรง ถ้าไม่มีการปวดร้าวมาที่แขน แสดงว่ายังไม่มีการกดเส้นประสาท แต่จะปวดกระดูกและข้อต่าง ๆ ในกระดูกสันหลัง ซึ่งมีการเสื่อมสภาพไป

ถ้ามีการกดเส้นประสาทใด จะมีอาการปวดร้าวไปตามบริเวณที่เส้นประสาทถูกกด อาการนี้มักจะเป็น ๆ หาย ๆ แบบเรื้อรัง

โดยระดับกระดูกคอที่มีการเสื่อมบ่อยมาก คือ

กระดูกข้อที่ 5-6และข้อที่ 6-7

อาการ คือ

ปวดหลังคอร้าวไปยังแขนตรงกล้ามเนื้องอแขน และอาจปวดร้าวไปถึงแขนท่อนล่าง จนถึงนิ้วโป้งและนิ้วชี้ และอาการเส้นประสาทคอเส้นที่ 7 ถูกกด คือปวดหลังคอร้าวไปด้านหลังของไหล่ ไปหลังแขนตรงกล้ามเนื้อเหยียดแขน และอาจปวดร้าวไปถึงด้านหลังของแขนท่อนล่าง จนถึงนิ้วกลาง ถ้ามีการกดประสาทไขสันหลังขึ้น จะมีอาการแบบค่อย ๆ อ่อนแรงลงเรื่อย ๆ

โดยจะเป็นแบบนี้เรื้อรังหลายปี และจะลุกลามจนกระทั่งเดินไม่ได้เลยทีเดียว แต่ในระยะเริ่มต้นมักมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น

เดินไม่คล่อง ทำของหล่นจากมือบ่อย ๆ เมื่อเป็นมากขึ้น จะเดินขากาง โน้มตัวไปข้างหน้า ในที่สุดก็จะเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น กลัดกระดุมเสื้อไม่ได้ เขียนหนังสือลายมือไม่เหมือนเดิม ซึ่งเมื่อทำการตรวจร่างกาย ก็จะพบกล้ามเนื้อมือลีบลงและอ่อนแรงลง กล้ามเนื้อต้นขาอ่อนแรง มีอาการปวดแบบไฟฟ้าช็อตหรือชาไปกลางหลังเวลาก้มคอ

สำหรับการวินิจฉัยเพื่อรักษานั้น

เมื่อคนอายุมากส่วนใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงของกระดูกคอที่เห็นได้จากภาพรังสี แต่ส่วนน้อยเท่านั้นที่จะมีอาการ ดังนั้น การวินิจฉัยโรคนี้ต้องซักประวัติและตรวจร่างกายให้ละเอียด อาการทุกอย่างต้องเข้าได้กับภาพทางรังสี และภาพทางคอมพิวเตอร์แม่เหล็ก (MRI)

 

ข้อมูลจาก
ผศ. นพ.ทวีศักดิ์ จันทร์วิทยานุชิต
ภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

กินเห็ดหน้าฝน ระวัง! เห็ดพิษตัวร้าย แค่คำเดียวอาจถึงชีวิต
การกินเห็ดในหน้าฝนเสี่ยงอันตรายจากเห็ดพิษที่แยกยากจากเห็ดกินได้ เพียงคำเดียวอาจทำลายตับ ไต หรือถึงชีวิต ควรรู้จักวิธีเลือกและหลีกเลี่ยง
บทความสุขภาพ
24-09-2025

0

ข้อเท้าตก กระดกไม่ขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องข้อเท้า แต่สะดุด กระทบทุกจังหวะชีวิต
ข้อเท้าตกหรืออาการกระดกข้อเท้าไม่ขึ้น ไม่ใช่เพียงปัญหาข้อเท้า แต่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ หากไม่รักษาอาจสะดุดล้มบ่อย
บทความสุขภาพ
23-09-2025

0

RSV โรคฮิตในเด็กเล็กที่พ่อแม่ต้องรู้
RSV เป็นไวรัสที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ทำให้มีอาการไอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก และเสี่ยงปอดอักเสบ พ่อแม่ควรรู้วิธีป้องกัน สังเกตอาการ และรีบพบแพทย์
บทความสุขภาพ
22-09-2025

0

โรคทางเดินอาหาร จับสัญญาณปวดท้องที่ควรระวัง
โรคทางเดินอาหารมีสัญญาณเตือนที่มักเริ่มจากอาการปวดท้อง หากละเลยอาจนำไปสู่ภาวะรุนแรง เช่น แผลในกระเพาะ ลำไส้อักเสบ หรือมะเร็งลำไส้
บทความสุขภาพ
20-09-2025

2

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL