มะเร็งผิวหนังอาจฟังดูเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับคนไทย แต่ที่จริงแล้วใคร ๆ ก็มีสิทธิ์เป็นได้ เพราะปัจจัยเสี่ยงโรคนี้มีหลายอย่าง อีกทั้งบ้านเราเป็นประเทศเขตร้อน ต้องเจอกับแดดแรง ๆ ทุกวัน ใครบ้างคือกลุ่มเสี่ยงโรคนี้ และทำอย่างไรเราถึงจะปลอดภัยจาก โรคมะเร็งผิวหนัง
ประเภทของมะเร็งผิวหนัง
มะเร็งผิวหนังแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ มะเร็งผิวหนังจากเซลล์ผิวหนัง ที่พบได้บ่อยคือ Basal Cell Carcinoma และ Squamous Cell Carcinoma และมะเร็งผิวหนังจากเซลล์สร้างเม็ดสี หรือที่เรียกว่า Malignant Melanoma โดยทั่วไปแล้วมะเร็งผิวหนังส่วนมากมักเป็นมะเร็งผิวหนังจากเซลล์ผิวหนังมากกว่ามะเร็งผิวหนังจากเซลล์สร้างเม็ดสี
ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง
- แสงแดด ผู้ที่ทำงานสัมผัสแสงแดดนาน ๆ ทำงานกลางแจ้ง มีประวัติผิวไหม้แดด หรือชอบตากแดด
- มีประวัติได้รับการฉายแสง รังสี หรือสารบางชนิด ผู้ที่ทำงานสัมผัสสารหนู มีการใช้ยากดภูมิคุ้มกันบางชนิด หรือเคยเป็นหูดบริเวณผิวหนังมาก่อน
- มีแผลเรื้อรัง หากมีแผลนานกว่า 3 เดือนที่รักษาไม่หาย อาจเพิ่มโอกาสการเกิดมะเร็งผิวหนังได้
อาการของ โรคมะเร็งผิวหนัง
ผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังมักพบตุ่ม ก้อนเนื้อ หรือแผลเรื้อรังบริเวณผิวหนัง พบได้บนผิวหนังทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนที่สัมผัสแสงแดดเป็นประจำ รวมทั้งหนังศีรษะ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า หากมีไฝอาจสังเกตว่าไฝโตเร็ว แตก เป็นแผล มีเลือดออก
4 ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง จริงหรือหลอก
หลายคนอาจได้ยินความเชื่อที่แชร์กันมาถึงปัจจัยเสี่ยงโรคนี้ มาเช็กกันดูว่าความเชื่อไหนจริงหรือหลอก
- ความเชื่อที่ 1 ตากแดดเป็นเวลานาน
ความเชื่อนี้จริง เพราะแดดเป็นปัจจัยหลักของการเกิดมะเร็งผิวหนัง คนที่ตากแดดนาน ๆ หรือมีประวัติผิวไหม้แดดจึงมีโอกาสเกิดมะเร็งได้มากกว่าคนทั่วไป เมื่อผิวหนังถูกแสงแดดจะเกิดอนุมูลอิสระขึ้น เกิดการอักเสบมากขึ้น ส่งผลให้เซลล์ปกติกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้
- ความเชื่อที่ 2 มีผิวขาว
ความเชื่อนี้จริง คนผิวขาวเสี่ยงมะเร็งผิวหนังมากกว่าคนผิวเข้ม เพราะมีเซลล์เม็ดสีที่ช่วยปกป้องแสงแดดน้อยกว่า จึงมีโอกาสผิวไหม้แดดได้ง่ายกว่า
- ความเชื่อที่ 3 ไฝมีขนาดใหญ่ขึ้น โตเร็ว
ความเชื่อนี้จริง ไฝที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โตเร็วผิดปกติ หรือมีสีที่เปลี่ยนไปอาจมีความเสี่ยงมะเร็งผิวหนังจากเซลล์สร้างเม็ดสี (Malignant Melanoma)
- ความเชื่อที่ 4 มีแผลเรื้อรัง
ความเชื่อนี้จริง โดยปกติแผลควรหายได้เองใน 3 เดือน หากมีแผลเรื้อรังที่รักษาไม่หายควรรีบมาพบแพทย์
การรักษามะเร็งผิวหนัง
แม้มะเร็งผิวหนังจะเป็นโรคที่ดูน่ากลัว แต่เมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่นแล้วพบว่ามีการพยากรณ์โรคค่อนข้างดี หากคนไข้มาพบแพทย์เร็วและเริ่มการรักษาไว โอกาสหายจากโรคมีสูงเกือบ 100% วิธีการรักษามาตรฐานคือ การผ่าตัด เพราะมีโอกาสเป็นซ้ำน้อยที่สุด หลังการผ่าตัดคนไข้ต้องมาพบแพทย์เพื่อติดตามอาการอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี สำหรับคนไข้ที่มีข้อห้ามในการผ่าตัด แพทย์จะใช้การรักษาด้วยวิธีอื่นแทน เช่น การพ่นเย็น การใช้ยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน หรือใช้เลเซอร์จี้
การป้องกัน โรคมะเร็งผิวหนัง
- หลีกเลี่ยงแสงแดด ควรใส่หมวก กางร่ม และทาครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอ หากต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
- หมั่นสังเกตอาการหากเป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น คนผิวขาว ตาฟ้า ผมแดง คนไข้ที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน มีประวัติฉายแสง รังสี หรือมีคนในครอบครัวมีประวัติโรคนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมี หรือการดื่มน้ำที่ปนเปื้อนสารหนู
ผิวหนังเป็นอวัยวะที่สังเกตเห็นความผิดปกติได้ง่าย เพราะมีขนาดใหญ่ที่สุดและอยู่นอกร่างกาย โรคมะเร็งผิวหนัง ไม่ใช่โรคที่น่ากลัวเมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่น หากคนไข้พบความผิดปกติ ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที จะยิ่งเพิ่มโอกาสในหายขาดจากโรคได้มากขึ้น
ข้อมูลจาก
ผศ. นพ.ธีรพงษ์ รัตนนุกรม
สาขาวิชาโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
อย่าลืมกดติดตามช่อง Rama Channel ที่น่าสนใจอีกมากมายได้ที่
Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: https://www.youtube.com/RamachannelTV
Facebook : https://www.facebook.com/ramachannel
Line: https://page.line.me/ramathibodi
Tiktok: https://www.tiktok.com/@ramachanneltv