เป็นหวัด ไม่กินยา หายได้หรือไม่?
หน้าแรก
เป็นหวัดไม่กินยา หายได้หรือไม่?

เป็นหวัดไม่กินยา หายได้หรือไม่?

เป็นหวัด เจ็บคอ มีไข้จำเป็นต้องกินยาปฏิชีวนะทุกครั้งถูกต้องหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ถูกต้องและเป็นการใช้ยาที่ไม่สมเหตุสมผล

อาการเจ็บคอเกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุคือ

  1. เกิดจากการติดเชื้อไวรัส (ไม่ต้องกินยาปฏิชีวนะ)
  2. เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย(รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ)

หวัดเจ็บคอส่วนใหญ่เป็นเพราะติดเชื้อไวรัส การกินยาปฏิชีวนะจึงไม่ทำให้หายป่วย เพราะยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อไวรัสไม่ได้และยังมีโอกาสเสี่ยงอันตรายจากผลข้างเคียงของยาต่อร่างกายด้วย

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ? ติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย คำตอบ คือ

อาการเจ็บคอส่วนใหญ่ (8 ใน 10 ราย) เกิดจากเชื้อไวรัส โดยจะมีอาการต่อมทอนซิลบวมแดง คอแดงทำให้เจ็บคอ อาจมีอาการไอร่วมด้วยถ้าเป็นแบบนี้ไม่ต้องกินยาปฏิชีวนะก็หายได้

การติดเชื้อแบคทีเรีย(ซึ่งพบน้อยกว่าจะมีคอแดง ต่อมทอนซิลบวมแดงและเจ็บคอ มีข้อแตกต่างจากเจ็บคอจากเชื้อไวรัส คือ มีจุดหนองที่ต่อมทอนซิล มีฝ้าสีเทาที่ลิ้น และมักจะคลึงพบต่อมน้ำเหลืองบริเวณใต้ขากรรไกรโต และ จุดแตกต่างที่สำคัญที่สังเกตได้ง่าย คือ มักจะไม่มีอาการไอ

เป็นหวัด เจ็บคอจากเชื้อไวรัส รักษาอย่างไร ? คำตอบ คือ

ทุกคนมีภูมิต้านทานของร่างกายที่เอาชนะเชื้อไวรัสได้อยู่แล้ว แต่ในช่วงที่ไม่สบายเราอาจมีอาการเป็นไข้ ปวดศรีษะ ปวดตามตัว ไอมีน้ำมูกหรือเสมหะและรู้สึกเพลียในช่วงเวลานี้ ให้รู้ไว้ว่า “พระเอกอย่างภูมิต้านทาน” กำลังต่อสู้กับเชื้อไวรัสอยู่

ส่วนยาแก้คัดจมูกและยาลดไข้คือ “ผู้ช่วยพระเอก” นั่นเอง ที่จะทำให้เราทุเลาอาการเหล่านี้จนกว่าพระเอกจะปราบเชื้อไวรัสได้หมด ซึ่งมักใช้เวลา 3 –4 วัน เป็นอย่างน้อย

เป็นหวัด เจ็บคอจากเชื้อไวรัส หายเองได้จริงหรือ?

คำตอบนี้ขอมุ่งไปที่วิธีการรักษาโรคหวัดที่ดีที่สุด คือ ดื่มน้ำอุ่น และการพักผ่อน เพราะจะทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว ยาปฎิชีวนะไม่ช่วยบรรเทาอาการ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ไอ จาม ปวดหัว ครั่นเนื้อครั่นตัว

นอกจากนี้ การกลั้วคอด้วยน้ำเกลือจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอหรือระคายเคืองในคอของเราได้ การทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้ภูมิต้านทานร่างกายของเราแข็งแกร่ง เพียงไม่กี่วันเชื้อไวรัสหวัดก็จะต้องล่าถอยไปเอง

 

ข้อมูลจาก
ผศ. พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร
ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล

 

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

ฉีดยา IV และ IM ต่างกันอย่างไร ?
การฉีดยาแบบ IV และ IM ต่างกันอย่างไร? รู้ความหมาย วิธีการฉีด ข้อดีข้อเสีย และกรณีที่แพทย์เลือกใช้แต่ละแบบ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
บทความสุขภาพ
10-11-2025

1

ยาแอสไพริน (Aspirin) คืออะไร สรรพคุณ วิธีใช้ และข้อควรระวังที่ควรรู้
ยาแอสไพริน (Aspirin) ยาแก้ปวดลดไข้ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และช่วยป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน รู้สรรพคุณ วิธีใช้ และข้อควรระวัง เพื่อป้องกันผลข้างเคียง
บทความสุขภาพ
09-11-2025

1

Metformin (เมทฟอร์มิน) สรรพคุณ และผลข้างเคียง ที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องรู้
Metformin (เมทฟอร์มิน) ยาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 รู้สรรพคุณ วิธีใช้ และผลข้างเคียงที่ควรระวัง เพื่อการใช้อย่างปลอดภัย
บทความสุขภาพ
09-11-2025

2

แนวทางป้องกัน ลดโอกาสการเกิด โรคมะเร็งลำไส้
ลดความเสี่ยง โรคมะเร็งลำไส้ ได้ด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจคัดกรองเป็นประจำ รู้แนวทางป้องกันง่าย ๆ เพื่อสุขภาพลำไส้
บทความสุขภาพ
08-11-2025

2

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL