โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตลำดับที่ 3 ของผู้ป่วยโรคมะเร็งทั้งหมดในประเทศไทย ความเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากพันธุกรรมแล้ว พฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ถูกต้องอาจจะกลายเป็นจุดกำเนิดของมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ เช่น การกินเนื้อสัตว์มากเกินไป รับประทานอาหารจำพวกกากใยน้อย ไม่ออกกำลังกาย พฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้กลายเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
อุบัติการณ์ของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในปัจจุบันยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบผู้ป่วยรายใหม่ 11,496 ราย/ปี และเพศชายมีแน้วโน้มเป็นโรคนี้เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าเพศหญิง
การเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
นอกจากพันธุกรรมแล้ว จะเกิดจากสารพิษที่อุจจาระสัมผัสและระคายเคืองกับเยื่อบุลำไส้เป็นเวลานาน จนเยื่อบุลำไส้ใหญ่เกิดการแบ่งตัวผิดปกติหรือเกิดการผ่าเหล่า สารพิษในอาหารที่มีกากใยน้อยจะทำให้ถ่ายลำบาก อุจจาระค้างในลำไส้นานจนเกิดการระคายเคือง เมื่อสะสมนานหลายปีการแบ่งเซลส์ที่ผิดปกติเกิดซ้ำๆ จนเป็นเนื้องอก เมื่อทิ้งไว้ไม่ทำการรักษาก็จะสามารถกลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
กลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้แก่
- ผู้ที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไปทั้งชายและหญิง
- บุคคลที่มีประวัติหรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
การรักษาและการป้องกันมะเร็งในลำไส้ใหญ่
- ตรวจหามะเร็งก่อนมีอาการ เมื่อมีปัจจัยเสี่ยงแล้ว เช่น อายุเกิน 50 ปี การตรวจนั้นมีหลายวิธี อาจจะเริ่มจากง่ายๆ เช่น ตรวจอุจจาระ, การส่องกล้องเพื่อดูลำไส้ใหญ่
- การผ่าตัดลำไส้ใหญ่
- ผู้ป่วยบางรายเมื่อผ่าตัดไปแล้ว หรือเป็นมะเร็งในระยะที่ 2 ปลายๆ หรือระยะที่ 3 มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคกำเริบขึ้นมาได้อีก อาจจะต้องทำเคมีบำบัดต่อเนื่อง หากเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย อาจจะจำเป็นต้องได้รับการฉายแสงด้วย
- ผู้ป่วยในระยะที่ 4 ที่มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นแล้วแต่ยังไม่แพร่กระจายมากก็มีโอกาสหายขาดได้ เมื่อทำการผ่าตัดจนหมด
- ไม่บริโภคอาหารประเภทเนื้อมากเกินไป ทานอาหารที่มีกากใย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ ขับถ่ายให้เป็นเวลา
ข้อมูลจาก
ผศ. นพ.เอกภพ สิริชัยนันท์
สาขาวิชามะเร็งวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล