ลูกพูดไม่ชัด ปัญหาที่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม!
หน้าแรก
ลูกพูดไม่ชัด ปัญหาที่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม!

ลูกพูดไม่ชัด ปัญหาที่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม!

ปัญหา ลูกพูดไม่ชัด เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ผู้ปกครองหลายคนมองข้าม เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยจึงไม่ได้ให้ความสำคัญ ขณะเดียวกันปัญหาดังกล่าวอาจเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลเสียต่อเด็กได้ในระยะยาวและการใช้ชีวิตในสังคม

โดยปกติแล้วเด็กจะเริ่มพูดได้เป็นคำที่มีความหมายในช่วงอายุ 1 ปี เช่น แม่ หม่ำ ไป มา เป็นต้น และจะเริ่มพูดได้เป็นประโยคในช่วงอายุ 2 ปี พอเริ่มเข้าสู่อายุ 3-4 ปี ลิ้นจะทำงานได้ดีขึ้น เด็กก็จะเริ่มออกเสียง ร.เรือ ล.ลิง ได้ โดยเด็กจะเริ่มออกเสียงชัดเจนในพยัญชนะต่างๆ ตามช่วงวัย ได้แก่ ช่วงอายุ 2.1-2.6 ปี เสียงพยัญชนะที่พูดได้ชัดคือ ม, น, ห, ย, ค, อ ช่วงอายุ 2.7-3 ปี เสียงพยัญชนะที่พูดได้ชัดจะเพิ่มเสียง ว, บ, ก, ป เข้าไป ช่วงอายุ 3.1-3.6 ปี เพิ่มเสียง ท, ต, ล, จ, ผ ช่วงอายุ 3.7-4 ปี เพิ่มเสียง ง, ค ช่วงอายุ 4.1-4.6 ปี เพิ่มเสียง ฟ ช่วงอายุ 4.7-5 ปี เพิ่มเสียง ช ช่วงอายุ 5.1-5.6 เพิ่มเสียง ส และอายุ 7 ปีขึ้นไป เพิ่มเสียง ร

วิธีสังเกตว่าลูกมีปัญหาเรื่องพูดไม่ชัดหรือไม่นั้น ให้สังเกตตามอายุดังกล่าวว่าเด็กมีการออกเสียงพยัญชนะได้ตามนี้หรือไม่ หากไม่เป็นไปตามข้อมูลนี้ ก็อาจเป็นไปได้ว่าเด็กมีความเสี่ยงที่จะพูดไม่ชัด หรืออาจสังเกตได้จากการเปรียบเทียบในเด็กวัยเดียวกัน หรือเวลาที่เด็กสื่อสารกับพ่อแม่ พ่อแม่เข้าใจความหมายที่เขาสื่อหรือไม่ เป็นต้น

สาเหตุของการพูดไม่ชัดแบ่งออกเป็น 2 เรื่องใหญ่ๆ ได้แก่

  1. โครงสร้างปาก ลิ้น ฟัน ที่ผิดปกติ เช่น ถ้าลิ้นไม่กระดก มีเอ็นยึดใต้ลิ้น เมื่อพูดเสียงที่ต้องกระดกลิ้นจะทำให้มีปัญหา เช่น การออกเสียง ร.เรือ หรือโครงสร้างเพดานอ่อนผิดปกติ ทำให้เด็กพูดเสียงบู้บี้ อู้อี้ เป็นต้น
  2. การพูดไม่ชัดด้วยตัวเอง ทั้งที่โครงสร้างภายในปากปกติทุกอย่าง อาจเกิดจากการเลี้ยงดู เช่น เวลาที่เด็กพูดไม่ชัดแล้วพ่อแม่หัวเราะชอบใจ ชมว่าน่ารัก ก็จะทำให้เด็กเข้าใจว่าคำเหล่านั้นเป็นคำที่ถูก จึงพูดไม่ชัด

ปัญหาพูดไม่ชัดส่งผลต่อตัวเด็กหลายอย่างด้วยกัน อย่างเช่น

การที่เด็กพูดกับเพื่อนแล้วเพื่อนไม่เข้าใจ หรือมีการถามย้ำบ่อยๆ เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เด็กพูด ก็จะทำให้เด็กรู้สึกอาย สูญเสียความมั่นใจ และไม่อยากพูด มากกว่านั้นเด็กอาจจะเก็บตัว เข้าสังคมได้น้อยลง หรือมีปัญหาในเรื่องของการอ่านเขียน เช่น หากเด็กพูดคำว่าต้นไม้เป็น “ต้มไม้” เวลาเด็กเขียนก็จะเขียนคำที่เด็กพูดนั่นเอง

วิธีการรักษา

เริ่มต้นจากการประเมินโครงสร้างภายในปากของเด็กก่อนว่าปกติหรือไม่ และตรวจการได้ยินของเด็ก จากนั้นจะทำการประเมินทีละเสียงและหาว่าเสียงไหนที่เด็กออกเสียงไม่ชัด เมื่อประเมินได้แล้วจะทำการฝึกทีละเสียง และถ้าหากผู้ปกครองมีการนำกลับไปฝึกที่บ้านด้วยก็จะทำให้เด็กพูดชัดได้เร็วขึ้น จากงานวิจัยพบว่าในหนึ่งเสียงจะใช้การฝึกฝนประมาณ 3 เดือนในการพูดให้ชัด

 

ข้อมูลจาก
อ.วรวรรณ วัฒนาวงศ์สว่าง
อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์สื่อความหมายและความผิดปกติของการสื่อความหมาย
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ ““ลูกพูดไม่ชัด”ปัญหาที่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม! : Rama Square ช่วง ปากสวย-โสตใส” ได้ที่นี่

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

เจ็บส้นเท้าทุกครั้งที่ลุกเดินระวัง โรครองช้ำ
เจ็บส้นเท้าเวลาลุกเดินอาจเป็นสัญญาณโรครองช้ำ ภัยเงียบของคนที่ใช้เท้าหนักหรือยืนนาน หากละเลยอาจปวดเรื้อรัง รู้ทันอาการและวิธีป้องกัน
บทความสุขภาพ
25-09-2025

1

กินเห็ดหน้าฝน ระวัง! เห็ดพิษตัวร้าย แค่คำเดียวอาจถึงชีวิต
การกินเห็ดในหน้าฝนเสี่ยงอันตรายจากเห็ดพิษที่แยกยากจากเห็ดกินได้ เพียงคำเดียวอาจทำลายตับ ไต หรือถึงชีวิต ควรรู้จักวิธีเลือกและหลีกเลี่ยง
บทความสุขภาพ
24-09-2025

2

ข้อเท้าตก กระดกไม่ขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องข้อเท้า แต่สะดุด กระทบทุกจังหวะชีวิต
ข้อเท้าตกหรืออาการกระดกข้อเท้าไม่ขึ้น ไม่ใช่เพียงปัญหาข้อเท้า แต่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ หากไม่รักษาอาจสะดุดล้มบ่อย
บทความสุขภาพ
23-09-2025

2

RSV โรคฮิตในเด็กเล็กที่พ่อแม่ต้องรู้
RSV เป็นไวรัสที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ทำให้มีอาการไอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก และเสี่ยงปอดอักเสบ พ่อแม่ควรรู้วิธีป้องกัน สังเกตอาการ และรีบพบแพทย์
บทความสุขภาพ
22-09-2025

2

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL