เมื่อพูดถึง “มะเร็ง” หลายคนอาจนึกถึงโรคที่เกิดกับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีประวัติในครอบครัวเท่านั้น แต่ในความจริงแล้ว มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคร้ายที่สามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในยุคที่พฤติกรรมการกินและไลฟ์สไตล์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มะเร็งลำไส้ใหญ่จึงกลายเป็นภัยเงียบที่แฝงตัวอยู่ในชีวิตประจำวันของเราโดยไม่รู้ตัว
แม้จะฟังดูน่ากลัว แต่หากเรารู้เท่าทัน อาการเริ่มต้น ปัจจัยเสี่ยง และวิธีการป้องกัน ก็สามารถช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสในการหายขาดได้สูงขึ้น
มะเร็งลำไส้ใหญ่ คืออะไร
มะเร็งลำไส้ใหญ่ (colorectal cancer) เป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณลำไส้ใหญ่ หรือทวารหนัก โดยเริ่มจากการก่อตัวของติ่งเนื้อ (polyps) ซึ่งในระยะแรกอาจไม่แสดงอาการใด ๆ แต่หากปล่อยทิ้งไว้นาน ติ่งเนื้อเหล่านี้อาจกลายเป็นเนื้อร้ายได้ในที่สุด
มะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถแบ่งออกเป็นหลายระยะ โดยระยะเริ่มต้นอาจไม่มีอาการใด ๆ เลย แต่เมื่อเข้าสู่ระยะลุกลาม ผู้ป่วยอาจพบอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด มีเลือดปนในอุจจาระ หรือถ่ายไม่สุด มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นหนึ่งในมะเร็งที่สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะแรก หากได้รับการตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ
อาการมะเร็งลำไส้ใหญ่
อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่มีสัญญาณเตือนสำคัญที่ควรสังเกต เช่น
- มีเลือดปนในอุจจาระ หรืออุจจาระมีสีดำผิดปกติ
- เปลี่ยนแปลงรูปแบบการขับถ่าย เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายไม่สุด หรือถ่ายบ่อยเกินปกติ อุจจาระลำเล็กลง
- ปวดท้องเรื้อรัง แน่นท้อง ท้องอืด
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ซีด
หากพบอาการเหล่านี้ติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
ปัจจัยเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อาการ มะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่ ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ แต่มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่สะสมทีละเล็กละน้อยจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมถึงพันธุกรรม ซึ่งการรู้จักปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ จะช่วยให้เราระวังและป้องกันได้ทันเวลา
ปัจจัยเสี่ยงที่ควรระวัง
- อายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อายุเกิน 50 ปี มีแนวโน้มเสี่ยงสูงขึ้น
- พันธุกรรมและประวัติครอบครัว หากมีคนในครอบครัวเคยป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือมีประวัติของโรคทางพันธุกรรม เช่น familial adenomatous polyposis (FAP) หรือ lynch syndrome
- มีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะถ้าไม่ตรวจและรักษา อาจกลายเป็นมะเร็งได้
- โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง เช่น crohn’s disease หรือ ulcerative colitis
- พฤติกรรมการกิน กินอาหารไขมันสูง อาหารแปรรูป โดยเฉพาะเนื้อแดง เนื้อย่าง ของหมักดอง และไฟเบอร์ต่ำ
- ไม่ออกกำลังกาย อ้วนลงพุง น้ำหนักเกินและการใช้ชีวิตแบบนั่งนาน ๆ ทำให้เสี่ยงเพิ่มขึ้น
- สูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ พฤติกรรมเหล่านี้เพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งในหลายระบบ รวมถึงลำไส้ใหญ่
ใครบ้างที่ควรตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีอาการเท่านั้น แต่ในความจริงแล้ว การตรวจล่วงหน้าสามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้ได้อย่างมาก เพราะมะเร็งลำไส้มักเริ่มต้นอย่างเงียบ ๆ ไม่มีสัญญาณเตือนชัดเจน ดังนั้นใครที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ก็ควรเริ่มตรวจเช็กตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อความปลอดภัยของชีวิต
กลุ่มคนที่ควรตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้แก่
- ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป แม้จะไม่มีอาการผิดปกติ ก็แนะนำให้เริ่มตรวจคัดกรอง เพราะความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามอายุ
- ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ เช่น พ่อ แม่ พี่น้อง หรือญาติใกล้ชิด โดยเฉพาะถ้าเกิดโรคก่อนอายุ 60 ปี
- ผู้ที่เคยตรวจพบติ่งเนื้อ (polyps) เนื่องจากบางชนิดอาจพัฒนาเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ในอนาคต
- ผู้ที่เป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง เช่น Crohn’s disease หรือ Ulcerative colitis ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
- ผู้ที่มีอาการผิดปกติของระบบขับถ่ายเป็นเวลานาน เช่น ถ่ายเป็นเลือด ท้องผูกเรื้อรัง หรือท้องเสียสลับท้องผูก
- ผู้ที่มีประวัติใช้ชีวิตเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์บ่อย ไม่ออกกำลังกาย และกินอาหารไขมันสูง
วิธีการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่
การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสุขภาพของผู้ป่วย โดยวิธีหลักที่ใช้ในการรักษา ได้แก่
- การผ่าตัด เพื่อนำเนื้อร้ายออก โดยเฉพาะในระยะเริ่มต้น
- การทำเคมีบำบัด (chemotherapy) ในกรณีที่มะเร็งลุกลาม
- การฉายรังสี (radiation therapy) ใช้ในกรณีที่มะเร็งอยู่ใกล้ทวารหนัก
- การรักษาแบบมุ่งเป้า (targeted therapy) และ ภูมิคุ้มกันบำบัด (immunotherapy) สำหรับผู้ป่วยบางราย
ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น และลดผลข้างเคียงลง หากพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ตั้งแต่ระยะแรก โอกาสหายขาดสูงถึง 90% เลยทีเดียว
มะเร็งลำไส้ใหญ่ อาจดูน่ากลัว แต่หากเราหมั่นสังเกตอาการ ตรวจคัดกรองเป็นประจำ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สุขภาพดีขึ้น ก็สามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการรักษาได้อย่างมาก อย่าปล่อยให้ความประมาทเป็นอุปสรรคต่อชีวิต เพราะการรู้ทัน คือกุญแจสำคัญในการเอาชนะโรคร้ายนี้ได้ก่อนจะสายเกินไป
Rama Channel ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่เชิญชวนให้ทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพลำไส้ตั้งแต่วันนี้ เพราะชีวิตดี ๆ เริ่มต้นที่การดูแลตัวเองอย่างใส่ใจ
ข้อมูลจาก
ผศ. นพ.พงศศิษฎ์ สิงหทัศน์
สาขาวิชาศัลยศาสตร์อุบัติเหตุและเวชบำบัดวิกฤตศัลยกรรม ภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
คลิกชมคลิปรายการ “มะเร็งลำไส้ ภัยร้าย ใกล้ตัว 12/01/67 พบหมอรามาฯ | by RAMA Channel” ได้ที่นี่
ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่
Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: RAMA Channel
Facebook: รามาแชนแนล Rama Channel
LINE: Ramathibodi
Tiktok: ramachanneltv รามาแชนแนล ช่องของคนรักสุขภาพ