ปอดบวมในเด็ก ภัยร้ายในช่องปอด
หน้าแรก
ปอดบวมในเด็ก ภัยร้ายในช่องปอด

ปอดบวมในเด็ก ภัยร้ายในช่องปอด

ปอดบวมในเด็ก เป็นโรคที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีทั่วโลก จากการศึกษาพบว่าโรคนี้มีความรุนแรงและเป็นภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2559 พบว่ามีผู้ป่วยโรคปอดบวมรวมทั้งหมด 6,407 ราย และมีผู้เสียชีวิต 5 ราย ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการเฝ้าระวัง ป้องกัน และให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการดูแลสุขภาพบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความรุนแรงของโรคที่อาจเกิดขึ้นได้

ความรุนแรงของโรคปอดอักเสบ

ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก ถ้าเป็นเด็กเล็กหรือผู้มีโรคประจำตัว เช่น ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่องก็มีโอกาสที่จะเป็นรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งโรคปอดอักเสบทั่วไปเพียงแค่มาตรวจร่างกาย หากพบเป็นโรคนี้แพทย์จะจ่ายยาให้ไปทานพร้อมกับดูแลตัวเองดีๆ อาการก็จะดีขึ้นเองได้ แต่หากเกิดขึ้นกับผู้มีโรคประจำตัวหรือเด็กเล็กก็มีความเสี่ยงที่อาการจะรุนแรงมากขึ้น

ความเสี่ยงของเด็กกับผู้ใหญ่ค่อนข้างแตกต่างกัน คือ

เด็กมีทางเดินหายใจที่เล็ก ซึ่งหากมีเสมหะจะไม่สามารถขับออกเองได้ ต้องรับการช่วยเหลือที่มากขึ้น เช่น ดูดเสมหะ ซึ่งหากเสมหะอุดตันอาการก็จะรุนแรงมากขึ้น ในขณะที่ผู้ใหญ่สามารถที่จะไอออกมาเองได้ นอกจากนี้เชื้อโรคในเด็กจะไม่เหมือนผู้ใหญ่ จะมีโอกาสทำให้เด็กติดเชื้อเข้ากระแสเลือดและรุนแรงได้มากกว่า โดยเชื้อโรคที่จะทำให้เกิดปอดบวมจะเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง คือ เยื่อบุตา เยื่อบุจมูก และเยื่อบุในช่องปาก

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคปอดบวม

  1. เป็นที่ตัวเด็กเอง ถ้าเป็นเด็กเล็ก ทางเดินหายใจเล็กก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้น
  2. สิ่งแวดล้อม การที่เด็กอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีเชื้อโรคมาก หรือมีการถ่ายเทอากาศที่ไม่ดี ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เช่น โรงเรียนอนุบาล

อาการของโรคปอดบวมสามารถสังเกตได้ดังนี้

  1. หายใจลำบาก มีภาวะที่หายใจแรงขึ้น
  2. มีไข้หรือตัวอุ่นๆ
  3. รู้สึกไม่สบายตัว ซึม
  4. อาการเหมือนคนเป็นหวัดหรือไข้หวัด
  5. ไอแห้งๆ และถี่ๆ
  6. หายใจเร็ว มีเสียงหวีด
  7. ปวดท้อง
  8. เจ็บหน้าอก
  9. อาเจียน
  10. มีเสมหะปนเลือด หรือมีสีเขียวหรือสีสนิม
  11. ไม่ยอมกินนมและเบื่ออาหาร

โรคปอดอักเสบสามารถติดต่อได้ทางลมหายใจ น้ำมูก น้ำลาย เสมหะที่ไอออกมา การสัมผัสโดยการจูบปากหรือหอมแก้มหากคุณพ่อคุณแม่มีอาการเป็นหวัดควรใส่ที่ปิดปากไว้

วิธีป้องกันโรคปอดบวม

  1. นำเด็กไปฉีดวัคซีนป้องกันโรค
  2. เด็กอ่อนควรเลี้ยงด้วยนมแม่
  3. หากอากาศหนาวเย็นให้สวมเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น
  4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสโรคและไม่ควรคลุกคลีใกล้ชิดผู้ป่วย
  5. ไม่นำเด็กเล็กไปสถานที่แออัด
  6. ฝึกให้เด็กล้างมือบ่อยๆ รวมถึงดูแลบ้านเรือนให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
  7. เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ควรเลี้ยงเองที่บ้าน
  8. หากเด็กไอและหายใจลำบาก หอบ หายใจเร็ว แรง มีเสียงดัง ต้องรีบพาไปพบแพทย์ทันที

 

ข้อมูลจาก
ผศ. พญ.หฤทัย กมลสภรณ์
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ “โรค ปอดบวมในเด็ก : พบหมอรามา ช่วง Big Story” ได้ที่นี่

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

ฉีดยา IV และ IM ต่างกันอย่างไร ?
การฉีดยาแบบ IV และ IM ต่างกันอย่างไร? รู้ความหมาย วิธีการฉีด ข้อดีข้อเสีย และกรณีที่แพทย์เลือกใช้แต่ละแบบ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
บทความสุขภาพ
10-11-2025

1

ยาแอสไพริน (Aspirin) คืออะไร สรรพคุณ วิธีใช้ และข้อควรระวังที่ควรรู้
ยาแอสไพริน (Aspirin) ยาแก้ปวดลดไข้ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และช่วยป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน รู้สรรพคุณ วิธีใช้ และข้อควรระวัง เพื่อป้องกันผลข้างเคียง
บทความสุขภาพ
09-11-2025

1

Metformin (เมทฟอร์มิน) สรรพคุณ และผลข้างเคียง ที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องรู้
Metformin (เมทฟอร์มิน) ยาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 รู้สรรพคุณ วิธีใช้ และผลข้างเคียงที่ควรระวัง เพื่อการใช้อย่างปลอดภัย
บทความสุขภาพ
09-11-2025

2

แนวทางป้องกัน ลดโอกาสการเกิด โรคมะเร็งลำไส้
ลดความเสี่ยง โรคมะเร็งลำไส้ ได้ด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจคัดกรองเป็นประจำ รู้แนวทางป้องกันง่าย ๆ เพื่อสุขภาพลำไส้
บทความสุขภาพ
08-11-2025

2

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL