ปลายประสาทอักเสบ คืออะไร ? อันตรายแค่ไหนถ้าไม่รีบรักษา
หน้าแรก
ปลายประสาทอักเสบ คืออะไร ? อันตรายแค่ไหนถ้าไม่รีบรักษา

ปลายประสาทอักเสบ คืออะไร ? อันตรายแค่ไหนถ้าไม่รีบรักษา

ปลายประสาทอักเสบ หรือที่หลายคนเรียกว่า “เส้นประสาทปลายทางอักเสบ” คือโรคที่ดูเหมือนเล็กน้อยในช่วงแรก แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ทั้งในเรื่องการเคลื่อนไหว ความรู้สึก และคุณภาพชีวิตในระยะยาว บทความนี้จะพาไปรู้จักกับโรคปลายประสาทอักเสบอย่างละเอียด ตั้งแต่อาการ สาเหตุ วิธีรักษา และความอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้คุณสามารถเฝ้าระวัง และเข้ารับการดูแลได้อย่างทันท่วงที

ปลายประสาทอักเสบ คืออะไร ?

ปลายประสาทอักเสบ คือ ภาวะที่เส้นประสาทส่วนปลาย(เส้นประสาทที่อยู่นอกสมองและไขสันหลัง) เกิดการอักเสบหรือถูกทำลาย ทำให้การส่งสัญญาณระหว่างสมอง ไขสันหลัง และส่วนอื่นๆของร่างกายผิดปกติไปอาการจึงอาจแสดงออกเป็นความรู้สึกปวด ชา เจ็บแปลบ แสบร้อน หรือสูญเสียการทำงานของอวัยวะที่เกี่ยวข้อง

เส้นประสาทส่วนปลายมีหน้าที่สำคัญ ได้แก่ ควบคุมกล้ามเนื้อ รับความรู้สึก และควบคุมระบบอัตโนมัติบางอย่าง เช่น ความดันเลือด เหงื่อ หากเส้นประสาทเหล่านี้เสียหายจะส่งผลต่อการทำงานของร่างกายในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ป่วยมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน จะยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดปลายประสาทอักเสบมากขึ้น

อาการเตือนของปลายประสาทอักเสบ

อาการเตือนของปลายประสาทอักเสบ

อาการของโรคนี้จะแตกต่างกันไปตามประเภทและตำแหน่งของเส้นประสาทที่ได้รับผลกระทบ โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่

1. อาการชาและเหน็บตามปลายมือปลายเท้า

ผู้ป่วยมักรู้สึกชาหรือเหน็บบริเวณนิ้วมือ นิ้วเท้า โดยเฉพาะช่วงกลางคืนหรือขณะพักผ่อน อาการเหล่านี้อาจเริ่มจากปลายมือปลายเท้าแล้วค่อย ๆ ลามขึ้นมาถึงแขนหรือขา

2. ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อน

อาการปวดที่เกิดขึ้นมักมีลักษณะเฉพาะ เช่น ปวดแสบ ปวดร้อน หรือรู้สึกเหมือนถูกเข็มทิ่ม ซึ่งแตกต่างจากอาการปวดกล้ามเนื้อทั่วไป 

3. กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเคลื่อนไหวลำบาก

เมื่อเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อได้รับผลกระทบ อาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าแขนหรือขาไม่มีแรง จับสิ่งของไม่ถนัด หรือเดินลำบาก

4. การทรงตัวไม่ดีหรือเดินเซ

ระบบประสาทมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทรงตัว เมื่อเส้นประสาทส่งสัญญาณได้ไม่ดี อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการเดินเซ หกล้มง่าย หรือรู้สึกไม่มั่นคงขณะยืนหรือนั่ง

5. ความรู้สึกไวต่อการสัมผัสมากกว่าปกติ

ผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายเมื่อสัมผัสเบา ๆ หรือรู้สึกปวดระหว่างทำกิจกรรมที่ไม่ควรทำให้เกิดอาการปวด เช่น ปวดเท้าเมื่อลงน้ำหนักหรือเมื่ออยู่ใต้ผ้าห่ม

6. อาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทอัตโนมัติ

ในบางกรณี ผู้ป่วยอาจมีอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น เหงื่อออกมากกว่าปกติ ปัญหาในการย่อยอาหาร หรือความดันเลือดต่ำ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะหรือหน้ามืด

สาเหตุของโรคปลายประสาทอักเสบ

สาเหตุของโรคนี้มีความหลากหลายและซับซ้อน โดยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มหลัก ๆ ดังนี้

1. โรคเบาหวาน

เบาหวานเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคปลายประสาทอักเสบ โดยผู้ป่วยเบาหวานโดยส่วนใหญ่มีโอกาสเกิดภาวะนี้ เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอย่างต่อเนื่องสามารถทำลายเส้นประสาทได้

2. ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน

โรคแพ้ภูมิตัวเอง สามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำลายเส้นประสาทส่วนปลาย ส่งผลให้เกิดการอักเสบและความเสียหายต่อเส้นประสาท 

3. การติดเชื้อ

การติดเชื้อบางชนิด เช่น งูสวัด ไวรัสตับอักเสบบีและซี HIV สามารถทำลายเส้นประสาทส่วนปลายโดยตรงหรือกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำลายเส้นประสาท

4. ได้รับสารพิษและยาบางชนิด

การสัมผัสสารพิษ เช่น ตะกั่ว ปรอท หรือสารเคมีในอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด ยาต้านไวรัส อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทส่วนปลาย

5. ภาวะขาดสารอาหาร

การขาดวิตามินที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาท เช่น วิตามินบี 1 บี 6 และบี 12 สามารถนำไปสู่การเกิดโรคปลายประสาทอักเสบได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะโภชนาการไม่ดีหรือมีปัญหาในการดูดซึมสารอาหาร

6. การบาดเจ็บหรือแรงกดทับเส้นประสาท

การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ การเล่นกีฬา หรือการทำงานที่มีการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ รวมถึงการกดทับเส้นประสาทจากท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น การนั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานาน สามารถทำให้เส้นประสาทส่วนปลายได้รับความเสียหาย

แนวทางการรักษาโรคปลายประสาทอักเสบ

แนวทางการรักษาโรคปลายประสาทอักเสบ

การรักษาโรคปลายประสาทอักเสบมีเป้าหมายหลักเพื่อบรรเทาอาการ ป้องกันการลุกลาม และฟื้นฟูการทำงานของเส้นประสาท โดยแนวทางการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ ดังนี้

1. การใช้ยา

  • ยาแก้ปวดและยาเฉพาะทาง เช่น พาราเซตามอล (paracetamol) ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ซึ่งช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนและความรู้สึกเสียวซ่าน
  • ยาทาเฉพาะที่ เช่น ครีมหรือแผ่นแปะที่มีส่วนผสมของแคปไซซิน (capsaicin) หรือยาลิโดเคน (lidocaine) เพื่อบรรเทาอาการปวดเฉพาะจุด
  • วิตามินบี การเสริมวิตามินบี โดยเฉพาะวิตามินบี 1, บี 6 และบี 12 เพื่อช่วยในการฟื้นฟูเส้นประสาทที่เสียหาย

2. การทำกายภาพบำบัด

การทำกายภาพบำบัดช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ปรับปรุงการทรงตัว และลดอาการปวด โดยอาจรวมถึงการออกกำลังกายเฉพาะส่วน การยืดกล้ามเนื้อ และการใช้เทคโนโลยี เช่น การกระตุ้นเส้นประสาทด้วยไฟฟ้าผ่านทางผิวหนัง

3. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลตนเอง

  • ควบคุมโรคประจำตัว เช่น การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้เป็นเบาหวาน
  • กินอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น ผักใบเขียว ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนไขมันต่ำ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดิน ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน เพื่อส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตและสุขภาพโดยรวม
  • หลีกเลี่ยงสารพิษ เช่น การลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีที่เป็นอันตราย

โรคปลายประสาทอักเสบอาจดูไม่รุนแรงในระยะแรก แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างรุนแรงได้ ตั้งแต่อาการปวดเรื้อรัง ไปจนถึงการสูญเสียการทำงานของมือหรือเท้าอย่างถาวร

การสังเกตอาการตั้งแต่เนิ่น ๆ และเข้ารับการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้สามารถวางแผนการรักษาได้ตรงจุด และลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว 

 

ข้อมูลโดย

ผศ.พญ.ทรงสุดา รุ่งใสวัฒนา
ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

คลิกชมคลิปรายการ ลัดคิวหมอ – ชาจนชิน ระวัง ! #ปลายประสาทพังไม่รู้ตัว 18/03/68 | by RAMA Channel ได้ที่นี่

 

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 

Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: RAMA Channel
Facebook: รามาแชนแนล Rama Channel
LINE: Ramathibodi
Tiktok: ramachanneltv รามาแชนแนล ช่องของคนรักสุขภาพ

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โรคร้ายที่เราสร้างเอง
โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ มักเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเราเอง หากปรับพฤติกรรมได้ตั้งแต่วันนี้
บทความสุขภาพ
15-10-2025

1

Diabetes Insulin หวานนักก็ไม่ดีนะ
Diabetes เป็นโรคที่เกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง ต้องอาศัยการควบคุมด้วยอินซูลินหรือยาลดน้ำตาล หากไม่ดูแลเสี่ยงโรคแทรกซ้อนรุนแรงได้
บทความสุขภาพ
13-10-2025

1

Extern, Intern และ Resident
Extern, Intern, Resident คือลำดับขั้นของการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติของแพทย์ Extern คือ นศ.แพทย์ปีท้าย ๆ , Intern คือแพทย์จบใหม่
บทความสุขภาพ
06-10-2025

0

ฝุ่น PM 2.5 ละอองเล็กจิ๋ว แต่ส่งผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพ
ฝุ่น PM 2.5 เป็นละอองเล็กที่สามารถเล็ดลอดเข้าสู่ปอดและกระแสเลือดได้ง่าย เสี่ยงโรคหัวใจ หลอดเลือด และปอด รู้วิธีป้องกันเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ
บทความสุขภาพ
03-10-2025

0

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL