นอนเท่าไรก็ไม่พอ แก้ได้…หากนอนถูกวิธี
หน้าแรก
นอนเท่าไรก็ไม่พอ แก้ได้…หากนอนถูกวิธี

นอนเท่าไรก็ไม่พอ แก้ได้…หากนอนถูกวิธี

นอนเท่าไรก็ไม่พอ เคยรู้สึกไหมว่าต่อให้นอนนานแค่ไหน ตื่นมาก็ยังรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ? นั่นอาจเป็นเพราะคุณภาพการนอนของเรายังไม่ดีพอ 

การนอนช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อน และส่งผลดีต่อสุขภาพจิตและสมรรถภาพการทำงานในชีวิตประจำวันด้วย ดังนั้น การปรับพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมเพื่อเสริมสร้างการนอนที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากคนกำลังสงสัยว่า “นอนอย่างไรที่เรียกว่าดี” หาคำตอบได้ในบทความนี้

การนอนหลับแบ่งออกเป็น 2 วงจร คือ

​การนอนหลับแบ่งออกเป็น 2 วงจร คือ

​การนอนหลับของมนุษย์แบ่งออกเป็น 2 วงจรหลักที่สลับกันตลอดคืน

  1. Non-Rem Sleep คือ ช่วงของการหลับตื้นไปจนถึงหลับลึก
  2. Rem Sleep คือ ช่วงที่กล้ามเนื้อต่าง ๆ หยุดทำงาน ยกเว้น หัวใจ กะบังลม กล้ามเนื้อตา และกล้ามเนื้อเรียบ ซึ่งเป็นช่วงที่ฝันเป็นเรื่องเป็นราว โดยการนอนแบบนี้จะเกิดขึ้นในช่วงหลังของการนอนเป็นเหตุให้ฝันบ่อย ๆ ในช่วงเช้ามืด

โดยการนอนที่ดีจะต้องมีทั้ง 2 ช่วงนี้สลับกันไปตลอดคืน โดยวงจรการนอนหลับ หนึ่งรอบจะใช้เวลาประมาณ 90 นาที และในหนึ่งคืนควรมีรอบการนอนประมาณ 3-6 รอบ เพื่อให้ร่างกายและสมองได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่​

​นอนแบบไหนถึงเรียกว่าเป็นการนอนที่ดี 

​คำถามที่ว่า “ต้องนอนมากแค่ไหนถึงจะเรียกว่า ‘นอนอย่างเต็มที่’ มักถูกถามอยู่เสมอ แม้ว่าคำแนะนำทั่วไปจะระบุว่าควรนอนประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อคืน แต่ความต้องการการนอนของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน บางคนอาจรู้สึกสดชื่นหลังนอนเพียง 5 ชั่วโมง ขณะที่บางคนอาจต้องการถึง 10 ชั่วโมง ดังนั้น ตัวชี้วัดที่สำคัญคือความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่หลังตื่นนอน

ปัญหานอนไม่หลับหรือสะดุ้งตื่นกลางดึก เกิดจากอะไร

​การที่รู้สึกว่านอนเท่าไรก็ไม่พออาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • โรคซึมเศร้า ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามักประสบปัญหาการนอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่สนิท ส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลียในตอนเช้า 
  • การใช้สารเสพติดหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สารเหล่านี้สามารถรบกวนคุณภาพการนอน ทำให้นอนหลับไม่สนิทและตื่นกลางดึกบ่อยครั้ง
  • ความเครียดและความวิตกกังวล สภาวะจิตใจที่ตึงเครียดอาจทำให้หลับยากหรือหลับไม่สนิท ​
  • ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น เสียงดัง แสงสว่าง หรืออุณหภูมิที่ไม่สบาย อาจรบกวนการนอนหลับ

หากปัญหาการนอนหลับยังคงอยู่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะส

นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นกลางดึก แก้ได้อย่างไร

นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นกลางดึก แก้ได้อย่างไร

อาการนอนไม่หลับและการสะดุ้งตื่นกลางดึกสามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเราได้ การปรับพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมการนอนสามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ ดังนี้

  1. สร้างสภาพแวดล้อมการนอนที่เหมาะสม จัดห้องนอนให้มืด เงียบ และมีอุณหภูมิที่เหมาะสม​ เลือกใช้หมอนและที่นอนที่สบาย เพื่อรองรับสรีระของร่างกาย​
  2. ปรับพฤติกรรมก่อนนอน หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ก่อนนอน เนื่องจากสารเหล่านี้อาจรบกวนการนอนหลับ​
  3. สร้างกิจวัตรการนอนที่สม่ำเสมอ เข้านอนและตื่นนอนในเวลาเดียวกันทุกวัน เพื่อปรับนาฬิกาชีวิตของร่างกายให้เป็นปกติ​
  4. ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจก่อนนอน ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น การฝึกหายใจลึก ๆ การทำสมาธิ หรือการอาบน้ำอุ่นก่อนนอน
  5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายเหนื่อยและนอนหลับได้ง่ายขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักก่อนนอน​
  6. หลีกเลี่ยงการงีบหลับในตอนกลางวัน การงีบหลับในช่วงกลางวันอาจทำให้คุณนอนไม่หลับในตอนกลางคืน ควรจำกัดเวลางีบหลับหรือหลีกเลี่ยงหากเป็นไปได้

หากปฏิบัติตามวิธีเหล่านี้แล้วยังมีปัญหาการนอนหลับ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม 

 

ข้อมูลโดย
ผศ. พญ.อรพิชญา ศรีวรรโณภาส
สาขาวิชาเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

 

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 

Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: RAMA Channel
Facebook: รามาแชนแนล Rama Channel
LINE: Ramathibodi
Tiktok: ramachanneltv รามาแชนแนล ช่องของคนรักสุขภาพ

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL