วิธีกินยา ให้ถูกหลัก สอนเทคนิค "รัก" ตัวเองยามป่วย
หน้าแรก
ทานยาให้ถูกหลัก สอนเทคนิค "รัก" ตัวเองยามป่วย

ทานยาให้ถูกหลัก สอนเทคนิค "รัก" ตัวเองยามป่วย

อาการเจ็บป่วยบางสาเหตุที่รักษาไม่หายนั้น บางครั้งขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้ป่วยเอง เพราะบางคนมักจะหลีกเลี่ยงการทานยาด้วยความไม่ชอบ หรือ ไม่ได้มีความเอาใจใส่มากพอที่จะทานยาให้ตรงเวลา หรือการไม่ไปพบแพทย์เพื่อรับยาอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นสาเหตุที่จะทำให้โรคภัยต่างๆ ลุกลามและรักษาหายยากมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้จักการใช้ยาที่ถูกต้อง ซึ่งก็จะทำให้การรักษาไม่ได้ผลเช่นกัน

วิธีกินยา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย จึงควรใช้ยาให้ถูกหลักการ ดังนี้

  1. ใช้ยาให้ถูกโรค คือ ใช้ยาให้ตรงกับโรคที่เป็น ควรจะให้แพทย์หรือเภสัชกรผู้รู้เป็นผู้จัดให้ เราไม่ควรซื้อยาหรือใช้ยาตามคำบอกเล่าของคนอื่น หรือ หลงเชื่อคำโฆษณาต่างๆ เพราะหากใช้ยาไม่ถูกกับโรค อาจจะทำให้ได้รับอันตรายจากยานั้นได้ หรือไม่ได้ผลในการรักษา และยังอาจเกิดโรคอื่นๆ แทรกซ้อน
  2. ใช้ยาให้ถูกคน คือ ต้องดูให้ละเอียดก่อนใช้ยาว่า ยาชนิดใดใช้กับใคร เพศ อายุ เพราะอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของคนแต่ละเพศแต่ละวัยมีความแตกต่างกัน รวมถึงสตรีมีครรภ์ก็ต้องคำนึงถึงทารกในครรภ์ด้วย เพราะยาหลายชนิดสามารถผ่านจากแม่ไปสู่เด็กในครรภ์ได้ อาจมีผลทำให้เด็กที่คลอดออกมาพิการ การใช้ยาในสตรีมีครรภ์จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
  3. ใช้ยาให้ถูกเวลา คือ ช่วงเวลาในการรับประทานยาหรือการนำยาเข้าสู่ร่างกายด้วยวิธีอื่นๆ เพื่อให้ปริมาณยาในกระแสเลือดมีมากพอ ในการบำบัดรักษาโดยไม่เกิดพิษและไม่น้อยเกินไปจนไม่สามารถรักษาโรคได้ ยาก่อนอาหารต้องรับประทานอย่างน้อยก่อนครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ยาถูกดูดซึม ถ้าลืมกินยาในช่วงดังกล่าวให้กินเมื่ออาหารมื้อนั้นผ่านไปแล้วอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
  4. ยาที่รับประทานหลังอาหาร โดยทั่วไปจะให้รับประทานอาหารทันทีหรือหลังอาหาร 15 นาทีเพื่อให้เกิดการดูดซึมร่วมกับอาหารในลำไส้เล็ก ส่วนยาก่อนนอนให้รับประทานหลังอาหารมือเย็นแล้วประมาณ 3-4 ชั่วโมง
  5. ใช้ยาให้ถูกขนาด คือ การใช้ยาจะต้องไม่มากหรือน้อยเกินไป ต้องให้ถูกขนาดตามแพทย์สั่งจึงจะได้ผลดีในการรักษา
  6. ใช้ยาให้ถูกวิธี เนื่องจากการนำยาเข้าสู่ร่างกายมีหลายวิธี เช่น การกิน การฉีด ซึ่งการใช้วิธีใดก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของยานั้นๆ ดังนั้นก่อนใช้ยาต้องอ่านฉลากแนะนำการใช้ก่อนทุกครั้ง

อย่างไรก็ตามทั้งนี้โรคต่างๆ จะหายไปถ้าเราเรียนรู้ที่จะรักตัวเองและมีวินัยในการดูแลตนเอง และหมั่นทานยาอยางเคร่งครัดถูกต้องตรงต่อเวลา เพื่อสุขภาพที่ดีของเราทุกคน

 

ข้อมูลจาก
เอกสารแจกภายในโรงพยาบาลรามาธิบดี

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

เจ็บส้นเท้าทุกครั้งที่ลุกเดินระวัง โรครองช้ำ
เจ็บส้นเท้าเวลาลุกเดินอาจเป็นสัญญาณโรครองช้ำ ภัยเงียบของคนที่ใช้เท้าหนักหรือยืนนาน หากละเลยอาจปวดเรื้อรัง รู้ทันอาการและวิธีป้องกัน
บทความสุขภาพ
25-09-2025

1

กินเห็ดหน้าฝน ระวัง! เห็ดพิษตัวร้าย แค่คำเดียวอาจถึงชีวิต
การกินเห็ดในหน้าฝนเสี่ยงอันตรายจากเห็ดพิษที่แยกยากจากเห็ดกินได้ เพียงคำเดียวอาจทำลายตับ ไต หรือถึงชีวิต ควรรู้จักวิธีเลือกและหลีกเลี่ยง
บทความสุขภาพ
24-09-2025

2

ข้อเท้าตก กระดกไม่ขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องข้อเท้า แต่สะดุด กระทบทุกจังหวะชีวิต
ข้อเท้าตกหรืออาการกระดกข้อเท้าไม่ขึ้น ไม่ใช่เพียงปัญหาข้อเท้า แต่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ หากไม่รักษาอาจสะดุดล้มบ่อย
บทความสุขภาพ
23-09-2025

2

RSV โรคฮิตในเด็กเล็กที่พ่อแม่ต้องรู้
RSV เป็นไวรัสที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ทำให้มีอาการไอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก และเสี่ยงปอดอักเสบ พ่อแม่ควรรู้วิธีป้องกัน สังเกตอาการ และรีบพบแพทย์
บทความสุขภาพ
22-09-2025

2

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL